6 พฤติกรรมที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าช่วยให้อ่อนเยาว์กว่าวัยได้เป็น 10 ปี

6 พฤติกรรมที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าช่วยให้อ่อนเยาว์กว่าวัยได้เป็น 10 ปี

6 พฤติกรรมที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าช่วยให้อ่อนเยาว์กว่าวัยได้เป็น 10 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าความแก่นั้นเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็ไม่มีใครอยากดูแก่หรือแก่ไว มารู้วิธีการที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าหากปฏิบัติเป็นประจำแล้วจะทำให้ดูสาวและหนุ่มกว่าอายุจริงถึง 10 ปีกันค่ะ

1. ขับของเสียออกจากร่างกายอย่างสม่ำเสมอ


ร่างกายคนเรารับของเสียเข้าสู่ร่างกายจากอาหารแปรรูป มลพิษทางอากาศ ยาย้อมผม สารฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในผักผลไม้ และการสูบบุหรี่ เป็นต้น การขับถ่ายจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้ประมาณ 75% นอกจากการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูงแล้วการรับประทานข้าวที่วางไว้จนเย็นจะช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกายได้ดี เพราะข้าวเย็นประกอบไปด้วยแป้งทนต่อการย่อย (Resistant starch) ที่ทำหน้าที่คล้ายกับเส้นใยอาหาร ช่วยในการขจัดสารพิษและไขมันส่วนเกินออกจากลำไส้ใหญ่ได้ดี นอกจากนี้ข้าวเย็นยังช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดี และช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ลำไส้


2. หมั่นรับประทานอาหารที่เรียกว่า Sirtfood


Sirtfood เป็นกลุ่มอาหารที่อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายด้วยการเข้าไปกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ในกลุ่มของโปรตีนที่ชื่อว่า Sirtuin (เซอทูอิน) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบเผาผลาญและการต้านการอักเสบภายในร่างกาย การรับประทานอาหารประเภท  Sirtfood จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันและน้ำตาลได้ดีขึ้น ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ความจำดีขึ้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และทำให้สุขภาพผมและผิวพรรณดี อาหารในกลุ่ม Sirtfood ได้แก่ ชาเขียว ผักเคล มะกอก น้ำมันมะกอก หอมใหญ่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง แอปเปิล และโกโก้ เป็นต้น


3. หลีกเลี่ยงการสะสมสาร AGE ในร่างกาย
สาร AGE (Advanced Glycation End Products) เป็นสารที่เกิดขึ้นเมื่อให้ความร้อนอาหารที่ประกอบไปด้วยโปรตีนและน้ำตาล ซึ่งทำให้เกิดการจับตัวของโปรตีนและน้ำตาล สารชนิดนี้จะช่วยเร่งการแก่โดยการจับกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดกระ ริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อย ผมขาว ผมบาง ภาวะเมแทบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) และโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นต้น วิธีการหลีกเลี่ยงสาร AGE คือ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปิ้ง ย่าง และทอด อีกทั้งควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระได้แก่ กระเทียม แอปเปิ้ล ขิง อัลมอนด์ ผักกาดแก้ว และบรอกโคลี่ เป็นต้น


4. หลีกเลี่ยงรังสียูวี


รังสียูวี คือตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดความแก่ที่เห็นได้อย่างชัดเจนภายในเวลาไม่กี่ปี คือทำให้เกิดฝ้า กระ ริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อย ทำลายผม และหนังศีรษะ วิธีการป้องกันทำได้โดยการทาครีมกันแดดทุกเช้า และใส่หมวกหรือกางร่มเมื่อต้องออกไปโดนแสงแดด


5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ก็จะช่วยให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ออกมาในระดับที่เหมาะสม ฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวเรียบเนียนเต่งตึง ป้องกันการเกิดรอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้าและร่างกาย


6. เสริมสร้างความอ่อนเยาว์ของหลอดเลือด

 

หลอดเลือดที่อ่อนเยาว์จะทำให้การไหลเวียนเลือดในร่างกายดี ส่งผลให้มีการส่งสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี แต่การรับประทานอาหารที่มีไขมัน เกลือ หรือน้ำตาล ในปริมาณที่มากเกินไป และไม่รับประทานผักเลย จะส่งผลให้หลอดเลือดอักเสบ มีความยืดหยุ่นน้อยลง มีการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด ทำให้หลอดเลือดแคบลงและการไหลเวียนเลือดไม่ดี ส่งผลเสียต่อระบบการเผาผลาญพลังงาน และเป็นเหตุให้ผิวพรรณแห้ง เกิดฝ้าและรอยเหี่ยวย่น เส้นผมดูแห้งกร้าน รวมถึงก่อให้เกิดโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ เป็นต้น วิธีการรักษาหลอดเลือดให้อ่อนเยาว์คือหลีกเลี่ยงจากสาเหตุที่ไปทำลายหลอดเลือดดังข้างต้น และหมั่นรับประทานอาหารที่ช่วยให้หลอดเลือดอ่อนเยาว์ ได้แก่ หอมใหญ่ ปลาสีน้ำเงิน ผักสีเขียวและเหลือง และน้ำมันมะกอก เป็นต้น

นอกจากพฤติกรรมข้างต้นแล้ว การยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้คนเราดูอ่อนกว่าวัย หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพจากพฤติกรรมที่ทำให้อ่อนวัยและยิ้มแย้มกันตั้งแต่วันนี้ค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook