ในวันที่ได้พบกันอีกครั้งกับเจ้าชายฟิลิป รักแรก รักเดียว และรักสุดท้ายของควีนเอลิซาเบธ

การสวรรคตของควีนเอลิซาเบธที่ 2 สร้างความเศร้าใจให้กับผู้คนที่คอยติดตามข่าวสารของพระองค์มาอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งการครองราชย์ยาวนานกว่า 70 ปี รวมไปถึงภาพลักษณ์ที่เป็นกันเองและเข้าถึงง่าย รวมถึงพร้อมปรับตัวกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้พระองค์ครองใจผู้คนทั่วโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งครั้งหนึ่งบาซาร์ได้เคยบอกเล่าเส้นทางการเดินทาง ของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ที่นับเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ครองราชย์ยาวนานที่สุดของอังกฤษมาแล้วในบทความ ครั้งนี้เราจึงขอบอกเล่าเส้นทางความรักของควีนอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าชายฟิลิป ผู้เป็นรักแรก รักเดียว และรักสุดท้าย ของพระองค์ ในวันที่ได้พบกันอีกครั้งในที่ใดสักแห่ง


Getty Images24th November 1947: Princess Elizabeth and The Prince Philip, Duke of Edinburgh enjoying a walk during their honeymoon at Broadlands, Romsey, Hampshire
ย้อนกลับไปในวัยเยาว์ เด็กหญิงที่มีชื่อ "เอลิซาเบธ" ยังเด็กเกินกว่าจะออกเสียงชื่อของตัวเองได้ จึงออกคำผิดเพี้ยนเป็น "ลิลิเบธ" นั่นจึงกลายเป็นชื่อเล่นที่คนในครอบครัวใช้เรียกชื่อเธอตั้งแต่นั้นมา ด้วยการเกิดมาในเชื้อสายพระวงศ์ แต่ก็ห่างไกลกับลำดับของการได้เป็นกษัตริย์ ทำให้เด็กหญิงลิลิเบธใช้ชีวิตเฉกเช่นเด็กหญิงธรรมดาคนหนึ่งเสมอมา จนกระทั่งในช่วงอายุ 10 ขวบ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ตัดสินใจสละราชบัลลังก์เพื่อแต่งงานกับหญิงม่ายชาวอเมริกัน ทำให้พ่อของลิลิเบธจำเป็นต้องขึ้นครองราชย์ตามลำดับเชื้อพระวงศ์ กลายเป็นพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งส่งผลให้เธอกลายเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ลำดับที่ 1 อย่างกะทันหัน


Getty ImagesQueen Elizabeth II and her husband, Philip Mountbatten, study their wedding photographs while on honeymoon in Romsey, Hampshire, November 1947

Getty ImagesQueen Elizabeth II, as Princess Elizabeth, and her husband the Duke of Edinburgh, styled Prince Philip in 1957

ต่อมาไม่นานในปี 1939 ขณะเยี่ยมเยียนวิทยาลัยราชนาวีกับครอบครัว ซึ่งขณะนั้นพระองค์มีอายุ 13 ปี ได้พบกับรักแรกและรักเดียวอย่างเจ้าชายฟิลิป ซึ่งเป็นเจ้าชายแห่งกรีซและเดนมาร์กผู้มีฐานันดรเป็นเจ้าชายเต็มตัว แต่ถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์และย้ายที่อยู่อาศัยไปหลายต่อหลายที่ จนกระทั่งเข้ารับการศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยราชนาวี ณ ประเทศอังกฤษ ขณะเจ้าหญิงเสด็จเยี่ยมเยียนวิทยาลัย เจ้าชายฟิลิปในวัย 18 ปี ผู้ได้รับหน้าที่พาเจ้าหญิงเที่ยวชมวิทยาลัย ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความประทับใจของทั้งคู่ จึงได้ติดต่อและส่งจดหมายถึงกันเป็นเวลากว่าหลายปี 

แต่ด้วยฐานันดรที่เจ้าชายฟิลิปมี ส่งผลให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 ไม่ปลื้มสักเท่าไรนัก เขาจึงยอมแลกทุกสิ่งอย่างรวมถึงสละสัญชาติกรีซและฐานันดรในราชวงศ์เพื่อเข้าเป็นพลเมืองอังกฤษอย่างเต็มตัว เพื่อแลกกับความรักที่มีต่อหญิงอันเป็นที่รัก ซึ่งนั่นคงเป็นสิ่งที่มากที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ และต่อมาในปี 1947 เจ้าหญิงในวัย 21 และเจ้าชายในวัย 26 เจ้าพิธีอภิเษกสมรสกันอย่างสมหวัง ก่อเกิดเป็นความรักที่ไม่เคยแยกจากกันของทั้งคู่ตั้งแต่นั้นมา
 


 
ความรักไม่เคยจืดจาง

หลังได้ชื่อว่าครองราชย์ยาวนานที่สุดกว่า 70 ปี และเฉลิมฉลองครบรอบแต่งงาน 73 ปีด้วยกัน และใครจะคิดว่านั่นคือครั้งสุดท้าย เพราะต่อมาเพียงไม่นานในปี 2020 เจ้าชายฟิลิปก็สิ้นพระชนม์ลง แม้การจากไปอย่างไม่มีวันกลับครั้งนั้นจะทำให้ควีนอลิซาเบธใจสลาย แต่เธอยังคงเดินหน้าทำหน้าที่ของกษัตริย์ไปอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นพิธีการสำคัญหรือการแต่งตั้งนายกฯ ที่ผ่านมา และเราเชื่อว่าความรักของทั้งคู่จะส่งผลให้วันนี้ทั้ง 2 พระองค์ ได้พบกันในที่ใดสักแห่งอย่างแน่นอน 

Getty ImagesThe Queen And Prince Philip Chatting Together During The Royal Windsor Horse Show In The Grounds Of Windsor Castle, May 16, 1982

Getty ImagesQueen Elizabeth II and Prince Philip visit a farm on the Balmoral estate in Scotland, during their Silver Wedding anniversary year, September 1972

Queen Elizabeth II and Prince Philip on board a boat during her Silver Jubilee year, 1977