10 เทคนิคลดน้ำหนักแบบ IF ให้ได้ผลเร็วกว่าที่คิด

10 เทคนิคลดน้ำหนักแบบ IF ให้ได้ผลเร็วกว่าที่คิด

10 เทคนิคลดน้ำหนักแบบ IF ให้ได้ผลเร็วกว่าที่คิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวๆ คนไหนที่กำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักแบบ IF หากต้องการให้การลดน้ำหนักเห็นผลเร็วกว่าที่คิด และปลอดภัยต่อร่างกาย วันนี้เรามี 10 เทคนิคที่ช่วยให้การลดน้ำหนักแบบ IF หรือ Intermittent Fasting เห็นผลเร็วกว่าที่คิดมาแชร์ให้ได้นำไปปรับใช้กันค่ะ

ก่อนอื่น มารู้จัก IF (Intermittent Fasting) คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานอาหารโดยให้เวลาในการรับประทานอาหารและเวลาในการงดอาหาร โดยแบ่งออกเป็นช่วงเวลา ซึ่งวิธีการทำ IF มีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ 16/8, 18/6 และ 24 ชั่วโมง

ตัวอย่างวิธีการทำ IF 16/8 คือการเริ่มต้นวันด้วยการกินอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง (เช่น เวลา 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น) และในช่วงเวลาอีก 16 ชั่วโมงจะไม่รับประทานอาหารเลย (เช่น เวลา 6 โมงเย็นถึง 10 โมงเช้าวันถัดไป) สามารถจิบน้ำเปล่าได้ เรามาดูเทคนิควิธีการทำ IF ให้ได้ผลเร็วกันนะคะ

วิธีการลดน้ำหนักด้วย IF ให้ได้ผลเร็ว

  1. เริ่มทำ IF หลังอาหารมื้อเย็น
    เริ่มแรกให้เลือกทำการ Fasting หลังอาหารมื้อเย็น เพราะการ Fasting ถือเป็นส่วนสำคัญในการทำให้น้ำหนักลด หากสาวๆ เลือกทำการอดอาหารในช่วงเวลาที่ร่างกายต้องพักผ่อน จะช่วยให้สามารถจัดการกับความหิวได้ดี แต่ในขณะเดียวกันสำหรับสาวๆ ที่มีไลฟ์สไตล์ทำงานตอนกลางคืน อาจจะไม่เหมาะสำหรับการทำ Fasting หลังอาหารมื้อเย็น ดังนั้นจึงควรเลือกอดอาหารในช่วงเวลาที่ร่างกายพักผ่อนจะดีที่สุด
  2. ดื่มน้ำให้มาก
    การดื่มน้ำให้มาก โดยเฉพาะหลังตื่นนอน แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดแก้วใหญ่ จะช่วยดับกระหาย และช่วยคลายความรู้สึกหิวได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นอีกด้วย
  3. ดื่มเครื่องดื่มที่ปราศจากแคลอรี
    เครื่องดื่มที่ปราศจากแคลอรี ได้แก่ กาแฟดำ ชาสมุนไพร ไม่ใส่น้ำตาล รวมทั้งน้ำเปล่าผสมมินต์ หรือโซดาเพียวๆ ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนช่วยดับกระหาย และช่วยลดความอยากอาหารได้ดี ส่วนคาเฟอีนช่วยกระตุ้นความตื่นตัวของร่างกายได้ดี ถือเป็นการบูสต์การทำงานของระบบเผาผลาญเลยก็ว่าได้
  4. ควบคุมอาหารการกิน
    การควบคุมอาหารการกิน คือ ควรเน้นกินอาหารประเภทโปรตีนดี ไขมันดี และผักใบเขียว พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการกินคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล หากสาวๆ สามารถควบคุมอาหารการกินได้ดี ก็จะส่งผลดีต่อการทำ IF มากยิ่งขึ้น
  5. ออกกำลังกายก่อนอาหารมื้อแรก
    ก่อนกินอาหารมื้อแรกของวัน แนะนำให้ออกกำลังกายเสียก่อน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้เร็ว เพราะร่างกายสามารถดึงไขมันสะสมมาใช้ได้มากขึ้นนั่นเอง
  6. หมั่นขยับตัวบ่อยๆ
    การขยับตัวบ่อยๆ จะช่วยให้การทำ IF ได้ผลเร็วกว่าที่คิด และยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบออกกำลังกาย ดังนั้นถ้าเลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยการทำ IF แนะนำให้หมั่นขยับตัวบ่อยๆ จะช่วยเบิร์นไขมันที่สะสมได้ดีมาก
  7. เล่นเวทเทรนนิ่ง
    หลังจากกินอาหารมื้อสุดท้าย แนะนำให้เล่นเวทเทรนนิ่ง ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อจากการลดน้ำหนักได้ดี ทั้งนี้การเล่นเวทเทรนนิ่งยังช่วยให้ร่างกายเบิร์นได้มากขึ้นอีกด้วย
  8. ทำตัวให้ชิน
    การทำตัวให้ชินในที่นี้หมายถึงทำตัวให้ชินกับความหิว พยายามคิดเสมอว่ายิ่งหิวก็จะทำให้ร่างกายสามารถดึงไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงานได้มากยิ่งขึ้น โอกาสที่น้ำหนักจะลดลงก็ยิ่งสูงขึ้นด้วย
  9. ใช้แอปพลิเคชัน
    การใช้แอปพลิเคชัน คืออีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้สาวๆ สามารถควบคุมช่วงเวลาในการอดอาหารได้ดี เพราะในแอปพลิเคชันจะคอยบอกช่วงเวลาที่ร่างกายเริ่มดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานได้ ถ้าสาวๆ เผลอท้อไปกับการอดอาหาร ก็สามารถเปิดดูแอปพลิเคชันและได้เห็นผลลัพธ์จากการทำ IF ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้
  10. เพิ่มความเข้มข้นในการทำ IF
    ในกรณีที่ทำ IF แล้วน้ำหนักยังคงไม่ลดลง แนะนำให้เพิ่มความเข้มข้นในการทำ IF โดยลองเพิ่มช่วงเวลาในการ Fasting ให้ยาวนานกว่าเดิม เช่น จากที่ใช้สูตร 8/16 ก็อาจจะเปลี่ยนมาใช้สูตร 5/19 เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ควรดูที่ความพร้อมของร่างกายด้วยเช่นกัน



สำหรับสาวๆ คนไหนที่ใจร้อน อยากให้การลดน้ำหนักด้วยการทำ IF เห็นผลเร็วกว่าที่คิด ลองเอา 10 เทคนิคที่กล่าวข้างต้นไปลองปรับใช้กันดูนะคะ แต่ทั้งนี้ควรดูความพร้อมของร่างกายด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายตามมา และหากอยากให้การลดน้ำหนักมีความยั่งยื่น แนะนำ การเลือกรับประทานอาหาร เช่นอาหารคลีน เป็นต้น วันนี้เรามีแนะนำ เมนูอาหารคลีนเพิ่มเติม ไปดูกันเลยนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook