รีวิวโมเมนต์สวยๆ Afternoon Tea จิบชา พร้อมชมเครื่องประดับที่ได้แรงดลใจจากมวลดอกไม้

เชื่อแน่ว่าคุณสาวๆ หลายท่านคงเคยจินตนาการภาพของตนเองสวมชุดสวยนั่งจิบชายามบ่ายแกล้มของว่างหวานคาว ปล่อยใจไปกับกลิ่นหอมของชา และรสหวานอ่อนจากขนมที่เสิร์ฟมาในสแตนด์ดีไซน์เก๋ซึ่งวางอยู่ตรงหน้า แต่มันจะฟินขึ้นไปอีกหากมีกิจกรรมเริ่ดๆ อย่างการได้ชมเครื่องประดับที่น่าจะเป็นของคู่กันกับหญิงสาว

ถือเป็นช่วงเวลาดีงามเพราะตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึง 30 กันยายนนี้ ใครก็ตามที่ชื่นชอบบรรยากาศการสนทนาระหว่างมื้อน้ำชายามบ่าย และหลงใหลเสน่ห์ของเครื่องประดับ  MISIS (มิสซิส) แบรนด์เครื่องประดับจากอิตาลีจับมือกับโรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ นำเสนอชุดน้ำชายามบ่าย The Language of Flowers ที่หยิบเอกลักษณ์และความโดดเด่นของดอกไม้จากเครื่องประดับ 5 คอลเลกชันมาบอกเล่าเรื่องราว
ผ่านชุดน้ำชายามบ่าย

ห้อง เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ (ชั้น 12) เป็นห้องที่เราจองไว้สำหรับโมเมนต์สวยๆ แบบนี้ ชุดโซฟาริมหน้าต่างมีแดดอ่อนยามบ่ายส่องมาพอดี ภาพสนามกอล์ฟสีเขียวด้านนอก และฟ้าใสไร้ฝนจึงยิ่งโดดเด่นชวนให้นั่งผ่อน
คลาย เพียงไม่นานเมนูชาก็มาวางอยู่ตรงหน้าพร้อมให้เราเลือกตามรสนิยมซึ่งมีทั้งชาคาเฟอีนเข้มข้น ไปจนถึงชาไร้คาเฟอีน หากใครอยากสัมผัสชาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ให้สั่ง St.Regis Exclusive Blend Tea
ซึ่งเป็นสูตรชาที่ TWG ปรุงเพื่อ St.Regis เท่านั้น

น้ำชาถูกนำมาเสิร์ฟก่อนเช็ท The Language of Flowers เล็กน้อย ทำให้เราได้ลิ้มลองรสชาติ และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาแต่ละเมนูก่อน ส่วนตัวเลือกชาสูตร Eternal Summer ซึ่งไร้คาเฟอีน ชาจึงมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คู่ไปกับรสละมุนนุ่ม ทำให้จิบชาได้บ่อยครั้งแบบเพลินๆ

สแตนด์วางขนมดีไซน์รูปผีเสื้อที่มีของว่าง และขนมจัดเรียงมาอย่างสวยงามถูกยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ สำหรับขนมและของว่างนั้นจัดเป็น 2 ชุดเพราะชุดน้ำชาเซ็ทนี้เสิร์ฟสำหรับ 2 คน นอกจากความสวยงามของการจัดดิสเพลย์บนสแตนด์ขนมแล้ว ของว่างและขนมแต่ละชิ้นก็ถูกรังสรรค์รูปลักษณ์ออกมาน่าทานทุกชิ้น และยิ่งรู้ถึงเรื่องราวของอาหารที่สอดรับไปกับเครื่องประดับแต่ละคอลเลกชันก็ยิ่งรู้สึกถึงอรรถรสในการจิบชา และเห็นความงดงามของเครื่องประดับมากขึ้น

เจมีน่า คอลเลกชันเครื่องประดับที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไอริสสีม่วงบานสะพรั่ง ถูกถ่ายทอดเป็นเครื่องประดับเอนาเมลสีม่วง สร้อยข้อมือทำจากโอนิกซ์สีดำสนิทและอาเกตบนสายสร้อย ส่วนต่างหู สร้อยคอ แหวนและเข็มกลัดนั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยคอลเลกชันนี้จับคู่กับเมนูสลัดอกเป็ดบีตรูตซอสเบอร์รี่ กัดเข้าไปสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเนื้ออกเป็ดฉ่ำซอสเบอร์รี่ เมนูนี้ทานแล้วรู้สึกสดชื่น

ถัดมาเป็นมินิทาร์ตปลาฮามาจิพร้อมซอสพอนซุและแรดิชรสละมุน ซึ่งเครื่องประดับที่ถูกนำมาจับคู่ด้วยคือคอลเลกชันโบลเตร์ร่า ชื่อเมืองประวัติศาสตร์แห่งแคว้นทัสคานี ซึ่งมีความสวยงามจากกลีบดอกป๊อปปี้ ดังนั้นเครื่องประดับครบเซ็ทจึงถูกดีไซน์ได้อย่างน่าดึงดูด เช่นเดียวกับมินิทาร์ตปลาฮามาจิก็ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดอกป๊อปปี้เช่นกัน

เครื่องประดับคอลเลกชันถัดมาคืออาโซโล เป็นเครื่องประดับที่ตกแต่งรูปทรงดอกท้อสีชมพูแย้มกลีบบานสะพรั่ง ซึ่งมีทั้งปกคอ แหวน ต่างหู และกำไลข้อมือ โดยเมนูที่ถูกหยิบยกมาคู่กันคือมูสพีชและเชอร์รี่ตกแต่งด้วย
ซากุระด้านบน สำหรับเมนูนี้บอกเลยว่ารสสัมผัสเยี่ยมมาก เพราะเนื้อมูสนุ่มกัดเข้าไปด้านในมีรสหวานอ่อน ทานแล้วตื่นคืนชีพมากๆ

ส่วนเมนูถัดมาคือชูวานิลลาแอปเปิ้ลเขียว ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องประดับดอกพุด (tiaré) ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมรัญจวนที่เรียกว่า “กลิ่นแห่งสรวงสวรรค์” จากคอลเลกชัน Everglades สัญลักษณ์ของความสง่างามและความเย้ายวน

สำหรับคอลเลกชั่นสุดท้ายคือ Marisol เป็นเครื่องประดับที่มีการดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของสีสันทั้งสีเขียวสบาย
ตาจากหยก สีชมพูจากพิงก์ควอทซ์ และไวท์อเกตสีขาวนวล โดยเมนูที่ถูกมาจับคู่นั้นคือบลูเบอรี่ชีสทาร์ต

นอกจากนี้ยังมีเมนูสลัดปูและแตงกวาเสิร์ฟคู่กับคาเวียร์ มูสอะโวคาโดกุ้งสโคนเนยสด และสโคนลาเวนเดอร์ เอร็ดอร่อยยิ่งขึ้นด้วยแยมเลมอนจัสมิน แอปเปิ้ลวานิลลา และคลอตเต็ดครีมที่สามารถทำเป็นท็อปปิ้งได้ตามชอบ

คุณสาวๆ ที่กำลังมองหาช่วงเวลาสุดพิเศษให้กับตนเอง โมเมนต์หรูหรากับชุดน้ำชายามบ่ายที่นอกจากจะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับรสชานุ่มๆ และขนมกับของว่างน่าทานหลากเมนูแล้ว ยังอาจจะได้เครื่องประดับที่เหมาะ
กับบุคลิกและรสนิยมของตนเองติดมือกลับบ้านไปอีกด้วย

สำหรับเซ็ทน้ำชายามบ่าย“The Language of Flowers” ได้ทุกวัน ณ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ และเดอะ ดรอว์อิ้งรูม เวลา 14.00–17.00 น. ตลอดเดือนกันยายน 2565 ราคาเซตละ 1,800 บาท++ รวมชาหรือกาแฟ สำหรับ 2 ท่าน ธีมม็อกเทล 250 บาท++ ต่อแก้ว และธีมค็อกเทล 380 บาท++ ต่อแก้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง ติดต่อเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ โทร 02 207 7777 หรืออีเมล fb.bangkok@stregis.com เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.stregisbangkokdining.com