ถอดคำพูดของ "ซากุระ" สู่มุมมืด "ไอดอลเกาหลี" ที่ต้องสู้กับ Beauty Standard
เบื้องหลังวงการ ‘ไอดอล’ มีอีกหลายมิติที่คนพยายามเพิกเฉย และเราเองก็คงนิ่งต่อไปหากไม่ได้ยินคำพูดของ ซากุระ สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวง Le Sserafim ที่พูดเรื่องหุ่นหลังถูกทีมงานวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า นอกจากถ้วยรางวัลที่ต้องไล่คว้าแล้ว Beauty Standard ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่ไอดอลชายหญิงทุกคนต้องเข้าไปอยู่ให้ได้เช่นเดียวกัน
“ฉันรู้สึกไม่ดี พวกเราทำงานกันหนักมาก ไม่อยากที่จะต้องกังวลกับเรื่องแบบนี้อีก” – มิยาวากิ ซากุระ
เพราะอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีที่ทำเงินได้มหาศาล ทำให้การแข่งขันในวงการพุ่งสูงขึ้น ขั้นตอนผลิตไอดอลขึ้นเวทีจึงไม่ใช่แค่ปั้นคนธรรมดาให้มีเสียงร้องทรงพลังหรือเต้นจนเท้าติดไฟเพียงอย่างเดียว แต่การเสกให้คนธรรมดาเป็นคนผอม ผิวขาวนวล ดุจพระเจ้าปั้น ก็เป็นเรื่องน่าหนักใจ จนดูจะไม่แฟร์กับศิลปินด้วยซ้ำไป
ยกตัวอย่างล่าสุดจาก ซากุระ พี่ใหญ่ของวง ที่ในสารคดีของ Le sserafim มีฉากที่เธอเองตอบโต้กับตัวแทนค่าย ที่พยายามจะบอกให้สมาชิกวงควบคุมอาหารเพื่อระวังเรื่องน้ำหนักขึ้นขณะโปรโมทในขณะนั้น โดยเธอเองก็รู้ว่าสมาชิกในวงต้องลำบากใจกับความกดดัน
ซึ่งซากุระได้บอกต่อว่า พวกเธอนั้นก็พยายามถึงที่สุดแล้วเพื่ออยากนำผลลัพธ์ที่ดีมาให้แก่ค่าย(ยอดความนิยม) พวกเธอไม่ได้มีปัญหากับเรื่องที่ว่า แต่หากเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าน้ำหนักตัวเองมากเกินไปก็จะเลือกกินสลัดเอง
ทำให้ไม่นานโซเชียลก็ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อภาระที่ Le Sserafilm ต้องเผชิญ พร้อมวิจารณ์ Hype ต้นสังกัดที่ไร้ซึ่งมาตรฐานการดูแลโภชนาการของศิลปิน และโยนปัญหาทั้งหมดไว้ที่ผู้หญิง 5 คน ด้วยคำว่า ‘เอาใจใส่ไม่เพียงพอ’ ทั้งที่เวลาพักผ่อนของไอดอลเฉลี่ยแล้วมีเพียงแค่ 2 ชั่วโมงต่อวันด้วยซ้ำไป
แต่ถึงอย่างงั้นก็ตาม การที่ไอดอลหญิงออกมาพูดอะไรแบบนี้ ยังไม่ใช่เรื่องไม่ง่าย เพราะสังคมที่ขึ้นชื่อเรื่องชายเป็นใหญ่ บวกกับระบบทุนนิยมจนกล้าเปลี่ยน‘คน’เป็น‘สินค้า’ยังคงทำให้หลายคนหันหน้าเข้าร่วมมากกว่าต่อต้าน Beauty Standard ไม่มีใครอยากเสี่ยงดับอนาคตตัวเองด้วยปากตัวเองแน่นอน
นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ไอดอลหญิง ครั้งหนึ่ง ‘โฮซอก’ สมาชิกบอยแบรนด์วง Pentagon ก็เคยถ่าย vlog ชีวิตตัวเองเล่นเวทเทรนนิ่ง ห้ามดื่มน้ำเกือบ 50 ชั่วโมง ขณะถ่าย mv และทำได้แค่กลั้วน้ำไว้ในปากหรือกินผลไม้แช่แข็งเท่านั้น เพื่อให้กล้องจับกล้ามซิกแพคให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ทำให้เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าต่อให้ Beauty จะหมายถึงความสวยก็จริง แต่พอมี Standard ต่อท้าย กลับส่งผลถึงผู้ชายด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นก็คงถูกต้องแล้วที่ว่า การเซ็นสัญญาระหว่างไอดอลกับต้นสังกัด ก็ไม่ต่างอะไรกับเซ็นสัญญากับปีศาจ
การต่อสู้กับมาตรฐานความงาม คงเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่ต้องการเป็นตัวเอง และเป็นเรื่องกำแพงหินที่คอยกดทับชีวิตไอดอลทุกคนให้ต้องเต้นเก่ง ร้องเพลงเพราะ แถมต้องมีหุ่นเอวเอสไปพร้อมกัน โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนทางข้างหน้าจะมีกลีบกุหลาบปูไว้อยู่หรือเปล่า?