แมทช์ได้ไม่มีซ้ำ! ด้วย HOW TO แมทช์ "เสื้อเชิ้ต" ตัวเดิมยังไงให้ใส่ได้ "หลายลุค" หลายโอกาส

เซย์ฮายค่าชาวซิสสสสสสส ช่วงที่ผ่านมาเราเพิ่งได้ดูเอ็มวีตัวใหม่ของ 4 สาว BLACKPINK แล้วก็ได้เห็นลุคสาวเจนนี่ที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ ทันใดนั้นเองไอเดียนี้ก็ปรากฏขึ้น คือเรารู้สึกว่าเสื้อเชิ้ตมันแมทช์ได้หลายลุคมาก ซื้อ 1 แต่ใส่ได้หลายแบบสุดๆ แต่วันนี้ขอคัดเลือกมาประมาณนึงก่อนนะคะ เอาที่ทุกคนสามารถแต่งตามได้ ไม่ยุ่งยากจนเกินไป แต่จะมีลุคไหนน่าไปลองแมทช์ตามบ้างก็มาดูกันเลยค่า
 
 
HOW TO แมทช์ "เสื้อเชิ้ต" ตัวเดิมยังไงให้ได้หลายลุค หลายโอกาส
 
ใส่ไว้ในกางเกง

เบสิคสุด ๆ ไม่ว่าจะวัยไหนก็ทำได้ทั้งนั้นนะคะ แต่วัยทำงานทำแล้วจะดูภูมิฐานมากขึ้น ซึ่งเบสิคที่ว่าก็คือการใส่ปลายเสื้อเชิ้ตไว้ในกางเกงนั่นเองค่ะ วิธีการใส่ทำได้หลายแบบมาก จะใส่เข้าไปทั้งหมด หรือจะใส่แค่ด้านหน้าแต่ทิ้งปลายด้านหลังไว้ หรือจะทิ้งปลายด้านหลังไว้ แล้วใส่ปลายข้างหน้าด้านใดด้านหนึ่งเข้าในกางเกง อีกปลายก็ปล่อยทิ้งไว้ แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ให้ลุคที่มีความแตกต่างกันด้วย แต่ถ้าใครเป็นสาวอวบแนะนำวิธีด้านนึงใส่ ด้านนึงปล่อยนะคะ จะทำให้หุ่นของเราไม่ตันนั่นเอง
 

ใส่เป็นเดรส


วิธีนี้จะใส่เป็นเดรสแบบใส่ซับในอีกทีหรือจะใส่เป็นเดรสที่ใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างในอีกทีก็ได้เหมือนกันค่ะ ต้องบอกว่าการใส่เชิ้ตแบบนี้กำลังฮิตมากในวัยรุ่นนะคะ ส่วนใหญ่จะใส่เป็นเชิ้ตโอเวอร์ไซซ์ที่ใหญ่ ๆ แบบโคร่งไปเลย ก็จะมีความเบาสบาย แมทช์กับกางเกงขาสั้น แค่นี้ก็สามารถที่จะใส่ไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ได้แล้ว นอกจากนี้ยังให้ความกระฉับกระเฉงด้วยเพราะเสื้อมันไม่ได้รัดตัวจนหายใจไม่ออก จะทำอะไรก็สบาย ชิลล์ ๆ นั่นเองค่า
 

ใส่เสื้อยืด / ครอปสายเดี่ยวไว้ข้างใน แล้วค่อยคลุมทับ


หนึ่งในลุคที่ไม่ว่าจะหุ่นอะไรก็แต่งได้นะคะ คือการใส่เสื้อยืดคอกลม/คอวีหรือเสื้อครอปไว้ด้านใน แล้วสวมเสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซซ์ไว้ข้างนอกนั่นเองค่ะ การแต่งแบบนี้จะให้ลุคที่มีความเท่ ๆ และก็มีความแอบเปรี้ยวอยู่ในตัว ถ้าใส่เป็นเสื้อยืดก็จะเป็นแบบชิลล์ ๆ หน่อย ลุย ๆ ไปไหนไปกัน แต่ถ้าใส่เป็นครอปสายเดี่ยวด้านในก็จะมีความแบบสตรีท ๆ หน่อย ๆ ไปเที่ยวกลางคืนก็ได้หรือไปเดินห้างก็ดี หรือจะใส่ไปเต้นที่สยามก็ยังได้นะคะ คล่องตัวมากด้วย
 

ใช้ปลายเสื้อผูกเอวแบบเก๋ ๆ


เสื้อยาวเกินไปจะให้ยัดลงไปในกางเกงก็คือไม่ไหว วิธีแก้ง่าย ๆ ก็คือการมัดปลายเสื้อให้เป็นปมนั่นเองค่ะ ส่วนใหญ่คนจะปลดกระดุมตรงช่วงปลายให้พอดีกับช่วงเอว หลังจากนั้นก็มัดให้เป็นปมทั่ว ๆ ไป บางคนอาจจะมัดแค่ทบเดียว แต่บางคนอาจจะสองทบก็ได้ ซึ่งการผูกปลายเสื้อสามารถทำได้ทั้งแบบที่ใส่เสื้อติดกระดุม และการใส่เชิ้ตแบบไม่ติดกระดุมเลยนะคะ วิธีนี้จะทำให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของเราชัดขึ้น จะหุ่นแบบให้ทำก็ออกมาดูเพรียวบางแน่นอน
 

ใส่เป็นเดรสแล้วเอาเข็มขัดมาคาดเอว

คล้าย ๆ กับข้อที่ใส่เป็นเดรสเลยนะคะ เพียงแต่ว่าวิธีนี้จะเป็นการเอาเชือก เอาริบบิ้น เอาโบ เอาเข็มขัด เอาโซ่อะไรก็ได้มารัดตรงช่วงเอว จะทำให้ได้ลุคที่มีความเฟียส ๆ เท่ ๆ เก๋ ๆ มากขึ้น แนะนำว่าของที่จะเอามาผูกช่วงเอวให้เป็นสีที่ตัดกับสีเสื้อหรือสีโทนเดียวกับเสื้อจะดีที่สุด อย่างในภาพก็เป็นเสื้อเชิ้ตสีดำ แมทช์กับเข็มขัดสีดำ แต่ถ้าอยากให้ช่วงเอวดูโดดเด่นมากขึ้นจะใช้เข็มขัดแบบโซ่เงิน/โซ่ทอง หรือเข็มขัดสีขาวก็ได้นะคะ ได้ความสวยไปอีกแบบ
 

ปลดกระดุมบนแล้วใส่แบบเปิดไหล่

แบบสุดท้ายก็คือง่ายมากนะคะ แค่ปลดกระดุมเม็ดบนออกสัก 1 - 2 เม็ด หลังจากนั้นก็ดึงไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ที่ถนัดนะคะ เพื่อเปิดไหล่ให้ดูเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น วิธีนี้ถ้าใครยังเขิน ๆ อาย ๆ ก็ใส่เสื้อครอปสายเดียวไว้ด้านในอีก 1 ชั้นก็ได้นะคะ จะได้เซฟตัวเองไปหนึ่งเปราะ แต่ถ้าใครสายแซ่บก็เปิดไปเลยค่ะ ยั่ว ๆ หรือถ้าอยากเปิดไหล่สองข้างเลย ก็ปลดลงไปอีกนะคะ หลังจากนั้นให้ดึงเสื้อขึ้นไปด้านหลัง แค่นี้ช่วงไหล่ก็จะถูกเปิดออกให้ฟีลแซ่บ ๆ แล้วค่า ถ้าอยากให้ดูเพรียวมากขึ้นก็จัดสาปเสื้อให้เป็นทรงคอวีสักหน่อย แค่นี้ก็คือแจ่มแจ๋วเดินไปแอ๊วคนได้ล่ะ
 
 
เป็นยังไงกันบ้างคะกับไอเดียที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าทุกคนจะสามารถเอาไปแต่งตามกันได้นะคะ เพราะเราคัดมาแต่การแมทช์ง่าย ๆ เท่านั้น จริง ๆ แล้วมันยังสามารถเอาไปตัดให้เป็นทรงครอป หรืออาจจะไปตัด แล้วทำให้จั๊มพ์ตรงช่วงเอวก็ยังได้อีก หรือจะดัดแปลงตัดเย็บกับผ้านั่นผ้านี่ได้อีก คือวิธีแมทช์มันเยอะมากจริง ๆ นะคะ ถ้าใครมีไอเดียสร้างสรรค์ก็แวะมาบอกต่อเพื่อน ๆ กันใน #ป้ายยาไลฟ์สไตล์ กันได้นะคะ