ไม่ต้องอดก็ลดได้! มารู้กฎการรับประทานข้าวสวยเพื่อลดน้ำหนักแบบคนญี่ปุ่น
เมื่อต้องเข้าสู่ช่วงลดน้ำหนักคนส่วนใหญ่มักคิดตัดข้าวออกจากอาหารมื้อสำคัญในชีวิตประจำวัน แต่ในความเป็นจริงแล้วหากรับประทานเป็นข้าวสวยก็ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ มาฟังวิธีการลดน้ำหนักโดยรับประทานข้าวสวยจากคนญี่ปุ่นกันค่ะ
จริงหรือไม่ที่รับประทานข้าวสวยแล้วจะทำให้น้ำหนักลดได้
พลังของข้าวสวยจะช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากข้าวสวยประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายนำมาใช้สร้างพลังงาน โปรตีนที่ใช้ในการสร้างกล้ามเนื้อและทำให้ร่างกายอบอุ่น วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานทำงานได้ดี โดยเหตุผลที่รับประทานข้าวสวยแล้วทำให้น้ำหนักลดลงมีดังนี้
ลดการรับประทานของว่าง
หากอดข้าวจะทำให้คาร์โบไฮเดรตในร่างกายน้อย ทำให้คนส่วนใหญ่อยากรับประทานของว่างในระหว่างมื้ออาหาร
เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐาน
ข้าวสวยประกอบไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเสริมการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย และทำให้อุณหภูมิแกนกลางของร่างกายสูงขึ้น
ลดไขมันในช่องท้อง
ไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้นจากการรับประทานกับข้าวที่มีไขมันสูง หากรับประทานข้าวสวยเป็นส่วนใหญ่จะช่วยให้ลดไขมันในช่องท้องได้ดี
ช่วยให้ระบบการขับถ่ายดี
แป้งที่ย่อยไม่ได้ในข้าวสวยจะกลายเป็นเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีและทำให้ง่ายในการลดน้ำหนัก
กฎการรับประทานข้าวสวยเพื่อช่วยลดน้ำหนัก
1. รับประทานข้าววันละ 3 มื้อ
การอดอาหารเกินกว่า 8 ชั่วโมง จะทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อรับประทานอาหารเข้าไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนง่าย การรับประทานข้าวสวยวันละ 3 มื้อจะช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ คือ 150-300 กรัม (ปริมาณสำหรับผู้หญิงมื้อละประมาณ 150 กรัมหรือ 1 ถ้วย) ซึ่งเป็นปริมาณที่ทำให้รู้สึกพึงใจแม้ไม่รับประทานกับข้าวเยอะก็ตาม
2. รับประทานข้าวสวยพร้อมซุปมิโซะ
การรับประทานข้าวสวยกับซุปมิโซะร้อนๆ จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ทำให้อุณหภูมิแกนกลางของร่างกายอุ่น เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย การเติมผักที่มีเส้นใยอาหารสูงลงไปในซุปมิโซะอย่างน้อยสามชนิด เช่น สาหร่ายทะเล เห็ด และผักอื่นๆ จะยิ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้ดี
3. รับประทานข้าวสวยกับกับข้าวเพียง 1 อย่าง
การรับประทานอาหารที่สมดุลจะช่วยให้การเผาผลาญพลังงานของร่างกายมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต 60 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 15 เปอร์เซ็นต์ และไขมัน 20-25 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าการคำนวณจะทำได้ยาก แต่สามารถทำได้ง่ายจากการรับประทานข้าวสวยกับกับข้าวเพียง 1 อย่างในสัดส่วนข้าวสวย 6 ส่วน ต่อกับข้าว 4 ส่วน โดยหลังจากการรับประทานติดต่อกันเป็นเวลา 10-14 วัน ร่างกายก็จะปรับเพื่อเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น
4. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
การเคี้ยวอย่างละเอียดจนรู้สึกว่าข้าวมีรสหวานจะช่วยกดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว และช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เสริมให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดี
5. รับประทานข้าวขาวกับเมล็ดธัญพืช
เมล็ดธัญพืชและข้าวกล้องอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายให้ดีขึ้น อีกทั้งยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ดี หากรับประทานข้าวขาวร่วมกับเมล็ดธัญพืชหรือข้าวกล้องก็จะยิ่งส่งผลให้ผอมเพรียวได้ง่ายขึ้น
6. มีความสุขในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ
ความรู้สึกผิดเมื่อรับประทานอาหาร เช่น ความกังวลเมื่อรับประทานอาหารเข้าไปแล้วกลัวว่าจะอ้วน เป็นต้น จะส่งผลให้เกิดความเครียด และส่งผลเสียไปยังระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบเผาผลาญพลังงานทำงานไม่ดี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อ้วนง่าย สิ่งสำคัญที่ช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปด้วยดี คือมีความสุขในสิ่งที่รับประทาน
หากเพื่อนผู้อ่านรู้สึกว่าการอดอาหารแล้วยังไม่ช่วยให้น้ำหนักลดลง วิธีการรับประทานข้าวสวยเพื่อลดน้ำหนักก็น่าสนใจดีไม่น้อยค่ะ บ้านเราหาซื้อซุปมิโซะยากก็รับประทานพร้อมกับแกงเลียงหรือแกงส้มผักอุ่นๆ แทนได้ และเพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพก็ควรหมั่นออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยค่ะ
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ