"อิงฟ้า" โดดเด่น "ณวัฒน์" แย้มมี 5 คน ลุ้นมงกุฎ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2022
ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งมิสแกรนด์ ให้สัมภาษณ์ จากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พูดถึงผลงานของ "อิงฟ้า วราหะ" มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ในการประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2022 หลังจากเก็บตัวทำกิจกรรมการประกวดร่วมกับ นางงามจาก 68 ทั่วโลก มาเกินครึ่งทางแล้ว
ณวัฒน์ บอกว่า มาถึงชั่วโมงนี้ หากจะบอกว่าอิงฟ้าไม่โดดเด่นคงจะเป็นไปไม่ได้ ต้องยอมรับว่า อิงฟ้ามีความสวยที่เป็นอัตลักษณ์ เพราะไม่มีรูปหน้าที่เป็นลาติน ไม่มีเชื้อผสมระหว่างไทยกับต่างชาติ เป็นคนไทยต่างจังหวัดคนหนึ่ง
"หน้าตาก็ได้ รูปร่างก็ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ สวยสมส่วนตามลักษณะความสูง แต่สิ่งที่ทำให้น้องเป็นที่จับตามองมากขึ้น ก็ตรงที่ว่าน้องใช้กลยุทธ์ ด้านที่น้องถนัดมาผสมผสานระหว่างประกวดอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอตัวเอง รวมถึงการใช้โซเชียล"
"ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นได้ คือ ไม่ว่าน้องไปไหนมาไหน ในอินโดนีเซีย น้องถูกขอถ่ายรูปเยอะมาก ไปปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ เผอิญว่าผมไปด้วย ก็จะแอบมอง ไปกันสิบคน ทีมโปรดักชั่น ตากล้อง ก็จะวิ่งไปขอถ่ายรูปกับน้อง และก็ขอให้น้องพูดเป็นภาษาอินโดนีเซีย ถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ถือว่าเป็นความสุข"
ผู้ก่อตั้งมิสแกรนด์ บอกต่อว่า ก่อนการประกวดฯ เข้าสู่รอบพรีลิมมินารี่ และรอบตัดสิน ถ้าจะบอกว่า อิงฟ้าเต็ง 1 คงบอกไม่ได้ แต่ถามว่า ผลงานจะแย่จนหาไม่เจอหรือไม่ ก็เป็นไปไม่ได้เช่นเดียวกัน ในขณะที่แฟนนางงามเทใจเชียร์กันเป็นจำนวนมาก และยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมอิงฟ้าพุ่งไม่หยุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันเราอยู่ในสังคมโซเชียล การประกวดฯ ครั้งนี้มีโจทย์ชัดเจนว่า นางงามที่จะทำให้มิสแกรนด์ อินเตอร์ฯ อยู่ได้ ต้องเป็นคนที่เก่งรอบด้าน ไม่ใช่เก่งเฉพาะแต่งหน้าสวย รูปร่างดี และพรีเซ้นท์เรือนร่างงดงาม
ณวัฒน์ บอกอีกว่า สำหรับเขามองว่าปัจจุบัน หมดยุคนางงามพอร์เทรต หรือ สวยพิมพ์นิยม และมาถึงยุคนางงาม 5G แล้ว
เขาขยายความ "นางงาม 5G" คือ นางงามที่เรียล มีมูลค่า สามารถต่อยอดทางธุรกิจ และทำอะไรหลากหลายได้
"เรามาพิสูจน์กันนะครับว่าน้อง (อิงฟ้า) จะไปถึงไหน ทุกคนสนับสนุนเต็มที่ ก็คงไม่ขี้เหร่ แต่ว่าน้องจะไปถึงไหน ต้องดูรอบพรีลิมฯ เป็นหลักด้วย"
ณวัฒน์ บอกต่อว่า ในฐานะที่เป็นเจ้าของเวทีการประกวดนางงามแถวหน้าของโลก ขอพูดแบบชัดเจน วงการโทรทัศน์ ไม่ว่าจะที่ไหนก็แล้วแต่ กำลังอยู่ในช่วงขาลง และนิตยสารก็ตกยุคไปแล้ว
การเฟ้นหานางงามคู่ควรได้ครองมงกุฏ แบบในอดีตไม่ได้รับความสนใจแล้วในปัจจุบัน เรากำลังหานางงามที่อยู่ในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ก การที่นางงามไปปรากฏตัวในงาน ใส่ชุดสวย ถ่ายรูปสวย สำหรับมิสแกรนด์ถือว่าไม่พอ
มิสแกรนด์ต้องการคนที่มีพาวเวอร์ สามารถกุมหัวใจคนได้ จากเจตนารมย์มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ในปีที่ผ่านมา กลุ่ม LGBT กลุ่มเดิมเราไม่ได้ละทิ้งเขา ในขณะเดียวกันก็ขยายกลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งผู้ชายจริงผู้หญิงแท้ ถ้าเราไม่ขยาย องค์กรก็ไม่มีทางเติบโต
มิสแกรนด์ อินเตอร์ฯ ก็เช่นเดียวกัน เรากำลังมองหาใครก็ได้ มาแล้วไม่ได้เป็นนางงามพิมพ์นิยม แต่เป็นนางงามสวย แล้วสามารถที่จะดึงธุรกิจ ดึงคอนเนคชั่น ดึงกลุ่มใหม่ ชายจริงหญิงแท้ หรือเพศใดก็ตาม ให้เข้ามาอยู่ในวงของมิสแกรนด์มากขึ้น
เพราะฉะนั้นคำว่า สวยพิมพ์นิยม สวยที่สุดแล้วต้องได้ครองมงกุฏ สำหรับมิสแกรนด์บอกตรงๆ สวย แต่ถ้าไม่ตอบโจทย์เลย ไม่ได้ครองตำแหน่งชนะเลิศแน่นอน
"เราต้องเข้าสู่ยุคปัจจุบันว่า ความจริงคนเราอยู่แบบไหน และความสำเร็จของคนเราในปัจจุบัน ต้องพึ่งพาอะไรบ้าง มีแต่พิมพ์นิยมอย่างเดียว แต่มันไม่มีอย่างอื่นเลย นาทีนี้เราต้องมานั่งคิดว่า เราจะใช้ชีวิตกับเขาแล้วทำให้มีมูลค่าบวกความสวยได้อย่างไร ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เราต้องยอมรับว่า คนสวยรองๆ ก็โดดเด่นได้ ถ้าฟูลแพ็คเกจ"
ณวัฒน์ บอกต่อว่า ณ วันที่ 21 ต.ค. ก่อนที่การประกวดรอบพรีลิมมินารี่ จะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค. และรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 25 ต.ค. ที่ เซนตูล์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เขามีนางงามในใจ 5 คน มีลุ้นครองตำแหน่งมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2022
"ในใจหนึ่งเดียวยังไม่มี แต่ว่ามีในใจตอนนี้ถ้าสามารถเป็นที่หนึ่งได้ มีอยู่ประมาณ 5 คน แต่ยังไม่ฟันธงว่าจะเป็นใคร เพราะเนื่องจากต้องรอดูในรอบพรีลิมฯ และรอดูพฤติกรรม วิธีการในการวางแผนของพวกเขา และพยายามตรวจสอบในสิ่งที่เขาพยายามจะบอก เช่นเขาจะบอกว่าฉันเป็นนางงามพร้อมใช้ คำสัมภาษณ์บางทีไม่ได้บอกว่าจริงหรือเท็จ"
"อย่างบอกว่ารักเด็ก ทำการกุศลประจำ ช่วยเหลือคนโน้นคนนี้ เราอยู่ตรงนี้เราไม่รู้หรอก แต่เราสามารถสืบได้ ถ้าเขาพูดแล้วเรามาค้นหาดู ถ้ามันไม่เจอเลย แสดงว่ามันก็หายากมาก เขาอาจจะทำก็ได้ แต่ทำแล้วไม่ได้รับความนิยมก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเรา"
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ณวัฒน์ ได้แสดงความชื่นชมชาวเวียดนาม แสดงให้เห็นพลังความสามัคคี โดยไม่มีเงื่อนไข ทุ่มไลก์ และแชร์ภาพนางงามตัวแทนประเทศ ถล่มทลาย เพื่อสนับสนุน จนมิสแกรนด์เวียดนามมีคะแนนเบียดบี้กับอิงฟ้า ในการชิงตำแหน่ง คันทรี พาวเวอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ ที่จะประกาศผลในการประกวดรอบตัดสิน ซึ่งผู้ชนะจากตำแหน่งนี้ จะได้ผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้ายโดยอัตโนมัติ
"คิดตำแหน่งนี้ขึ้นมา เพราะเราอยากจะปลุกระดมความรักชาติ ความรู้สึกของพลังของคนที่อยู่ข้างหลัง ทำให้ผู้ติดตามอินสตาแกรมมิสแกรนด์ฯ พุ่ง 6 ล้าน เยอะที่สุดของเวทีการประกวดในโลกนี้"
ขณะเดียวกันเวียดนาม ทำให้ควรจะดูเขาเป็นต้นแบบ ในความเป็นคนรักชาติ การสนับสนุนนางงามเป็นวาระแห่งชาติ มีการนำเสนอข่าวออกทีวี ออกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ให้ดารา พิธีกร นักร้อง รวมถึงเจ้าของร้านค้าต่างๆ ปริ้นโปสเตอร์ ออกมาและติดทุกที่ และมีการใช้คิวอาร์โค้ดช่วยโหวตสนับสนุนมิสแกรนด์เวียดนาม
"ทุกเวทีหันมาช่วยมิสแกรนด์เวียดนามกันสุดหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นมิสยูนิเวิร์สเวียดนาม มิสซูปร้าเนชั่นแนลเวียดนาม หรือเวทีเล็กๆ ในเวียดนาม โพสต์สนับสนุนทุกเวที เขาดูภูมิใจในความรักชาติ"
"ผิดกับคนไทย แฟนนางงามที่ชอบมิสยูนิเวิร์ส นอกจากไม่มีการโพสต์ช่วย ในฐานะที่อิงฟ้า วราหะ เป็นตัวแทนประเทศไทย ไม่โพสต์ไม่ว่า ยังมีติ่งนางงามเล็กๆ คอยก่นด่า คุณไม่ภูมิใจในความเป็นคนไทย หรือคุณไม่อยากต่อสู้ในความเป็นไทยแลนด์บ้างเลยเหรอ"