5 เคล็ดลับลดหน้าท้องฉบับเร่งด่วน ปลอดภัย ไม่ทำลายสุขภาพ
สาวๆ คนไหนที่ชอบความเร่งรีบ หรือไม่ชอบรออะไรนานๆ แม้แต่การลดหน้าท้องก็อยากให้เห็นผลเร็วไว และที่สำคัญต้องไม่ทำลายสุขภาพของตัวเอง มาค่ะ วันนี้เราได้เตรียม 5 เคล็ดลับที่ช่วยลดหน้าท้องให้แบนราบได้อย่างปลอดภัย ถือเป็นเคล็ดลับฉบับเร่งด่วนของสาวๆ ที่อยากเห็นผลลัพธ์ในเร็ววันมาแชร์กันค่ะ
1.ควบคุมอาหารการกิน
เริ่มจากการควบคุมอาหารการกินก่อนเลย โดยจะต้องงดกินขนมขบเคี้ยว อาหารประเภททอดมัน อาหารที่มีไขมัน และอาหารที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งการงดอาหารเหล่านี้จะต้องมาพร้อมกับการควบคุมปริมาณอาหารการกินในแต่ละมื้อด้วยเช่นกัน ถ้าปกติสาวๆ กินอาหารวันละ 3-4 มื้อ ก็ควรลดปริมาณให้เหลือเพียง 2 มื้อ หรือถ้าอยากกิน 4 มื้อเหมือนเดิม ก็ควรลดอาหารที่กินในแต่ละมื้อให้เหลือครึ่งหนึ่ง ที่สำคัญควรเลือกกินผัก ผลไม้ และนมเปรี้ยว เพื่อย่อยอาหารและเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายไปด้วย
2.นอนหลับให้เพียงพอ
ถ้าอยากให้หน้าท้องแบนราบ สาวๆ จะต้องให้ความสำคัญที่การนอนหลับให้เพียงพอ โดยแนะนำว่าควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และนอนยาวต่อเนื่องให้ได้ประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำให้ร่างกายสามารถหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานออก จึงช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้ดีนั่นเอง
3.ออกกำลังกายเป็นประจำ
นอกจากจะควบคุมอาหารการกินแล้ว ก็ต้องให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเป็นประจำด้วยเช่นกัน ซึ่งการออกกำลังกายที่มีส่วนช่วยให้หน้าท้องแบนราบได้ดีก็คือ การซิทอัพ ทั้งนี้แนะนำให้ทำการซิทอัพวันละ 20 ครั้ง วันต่อมาจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น
4.ดีท็อกซ์ลำไส้
การดีท็อกซ์ลำไส้ สาวๆ ทำได้ด้วยการกินโยเกิร์ตบ่อยๆ หรือจะดื่มน้ำมะนาวผสมในน้ำอุ่น ดื่มหลังตื่นนอนทันทีก็ได้เช่นกัน ซึ่งการดีท็อกซ์ลำไส้จะเป็นการทำความสะอาดไขมันที่เกาะอยู่ตามลำไส้ โดยไขมันเหล่านี้จะมีส่วนทำให้ตับ ม้าม และกระเพาะอาหารเกิดการดูดซึมได้น้อยกว่าปกติ
5.ฝึกหายใจเข้าออก
การฝึกหายใจเข้าออกก็มีส่วนช่วยลดหน้าท้องได้เช่นกัน ซึ่งการหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ และลึกๆ มีส่วนช่วยให้ระบบไหลเวียนและระบบเผาผลาญทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับสาวๆ ที่อยากลดหน้าท้องให้เห็นผลเร็วและปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกาย ลองเอา 5 เคล็ดลับนี้ไปลองปรับใช้ให้เข้ากับบริบทการใช้ชีวิตของตัวกันค่ะ อย่าลืมนะคะว่าอยากให้หน้าท้องแบนราบในเร็ววัน ก็ต้องมีวินัยในการควบคุมอาหารการกิน การออกกำลังกาย การฝึกหายใจ การดีท็อกซ์ลำไส้ และการพักผ่อนให้เพียงพอด้วยเช่นกัน