Feels like Tuscany รีโนเวทอะพาร์ตเมนต์ให้บรรยากาศเหมือนหนังเรื่องโปรด

Feels like Tuscany รีโนเวทอะพาร์ตเมนต์ให้บรรยากาศเหมือนหนังเรื่องโปรด

Feels like Tuscany รีโนเวทอะพาร์ตเมนต์ให้บรรยากาศเหมือนหนังเรื่องโปรด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงปลายปีแบบนี้ทำให้เรานึกถึงลมเย็นๆ กับแสงแดดอบอุ่น ได้ออกไปจิบกาแฟทานขนม นั่งเพลินๆ ที่ริมระเบียง เดินเล่นสบายๆ ในสวน หรือแม้แต่นอนดูหนังฟังเพลงที่ชอบแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว และบ้านที่เราจะพาทุกคนไปเปิดประตูทักทายก็แสนจะอบอุ่นลงตัวกับบรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยไอเดียตกแต่งอพาร์ตเมนต์ของคุณเดียร์-สุพิชญา นันต๊ะ ที่มีกลิ่นอายคันทรีนิดๆ วินเทจหน่อยๆ เป็นมู้ดแอนด์โทนที่น่ารักน่าอยู่มากเลยทีเดียว

ทันทีที่ได้ยินเสียงคนแปลกหน้าเจ้าสองสหายเฟรนช์ บูลด็อกของคุณเดียร์ก็วิ่งออกมาพร้อมส่งเสียงทักทายด้วยท่าทีสงสัยว่าใครมาบ้านเรานะ “สวัสดีค่ะ เขาเป็นแบบนี้ค่ะเวลาใครมาจะตื่นเต้นวิ่งไปวิ่งมาอยากเล่นด้วย ตัวสีดำชื่อโจ๊กเกอร์ ส่วนสีขาวคือจาโก้ยแปลว่าปาท่องโก๋” คุณเดียร์เปิดประตูต้อนรับพวกเราและแนะนำสมาชิกสองตัวจิ๋วของบ้าน

“ก่อนหน้านี้เดียร์อยู่คอนโดฯ ขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร ตอนนั้นเรารู้สึกว่าห้องค่อนข้างเล็ก อยากจะแต่งห้องในสไตล์ที่ชอบก็ทำได้ไม่สะดวกเท่าไรเพราะเป็นห้องเช่า จะมีกฎและข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งเดียร์เคยมาถ่ายแบบห้องของพี่สไตลิสต์ที่อพาร์ตเมนต์นี้ ห้องก็กว้างและพี่เขาตกแต่งสวยมาก เห็นแล้วแบบดีจังเลย ตอนนั้นถามเขาเหมือนกันว่ายังมีห้องว่างไหมแต่เต็มหมด จนผ่านไปประมาณ 1 ปีก็ลองทักมาถามเขาอีกที เป็นจังหวะพอดีกันกับที่มีคนกำลังย้ายออกเราเลยได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่”

เมื่อสิ่งที่เห็น (ห้องของพี่สไตลิสต์) กับสิ่งที่เป็น (สภาพห้องจริง) แตกต่างกัน คุณเดียร์บอกกับเราว่าอยากร้องไห้เหมือนกันนะ “ตอนที่มาดูห้องบอกเลยว่าบรรยากาศต่างกับห้องของพี่ที่เราเคยไปถ่ายแบบมากๆ ห้องค่อนข้างโทรม บวกกับเป็นอพาร์ตเมนต์เก่าอายุประมาณ 50-60 ปี ในห้องให้ความรู้สึกเหมือนบ้านผีสิง มืดๆ ผนังมีรอยเขียน ห้องน้ำมีสนิม มีน้ำรั่ว กลับไปร้องไห้เลย นี่เราคิดถูกหรือเปล่านะ เพราะเราเห็นแค่ตอนที่พี่เขาตกแต่งเสร็จเรียบร้อย แต่ไม่ได้เห็นสภาพห้องก่อนหน้านั้น อีกอย่างตอนนั้นเราไม่ได้ต่อสัญญาเช่าคอนโดฯ แล้วด้วย เลยปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเรามารีโนเวตใหม่ จะได้แต่งในสไตล์ที่ชอบที่อยากแต่งไง มันทำได้แหละ (หัวเราะ) พอมาอยู่จริงๆ ก็รู้สึกว่าตัดสินใจถูกมากๆ เลย ได้ห้องที่กว้างกว่าเดิม มีสเปซให้เราได้ทำโน่นทำนี่ไม่อึดอัด”

หลังจากตัดสินใจแล้วก็ถึงเวลาแปลงโฉมอพาร์ตเมนต์กันแล้ว “เราไม่ได้ทุบอะไรเลย แปลนห้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว คงโครงสร้างเดิมกับงานบิลต์อินที่มีอยู่แล้ว ถ้าสังเกตคือส่วนที่เป็นงานเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มๆ จะเป็นของอพาร์ตเมนต์ที่ทำไว้อย่างเคาน์เตอร์บาร์ เคาน์เตอร์ครัว ตู้แขวน ตู้เก็บของ ส่วนที่เราทำใหม่หลักๆ คือทาสี ปูกระเบื้องห้องน้ำ และเดินระบบไฟใหม่ทั้งหมด”

สำหรับพื้นที่ภายในจะแบ่งเป็นส่วนนั่งเล่น มุมทานข้าว และครัว โดยมีเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ด้านข้างทำหน้าที่เสมือนเป็นผนังห้อง แบ่งโซนการใช้งานสเปซที่เปิดโล่งนี้ให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นโดยไม่ทำให้ห้องดูแคบและอึดอัด นอกจากนี้ยังมีห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก ห้องทำงาน และมุมระเบียงอีกสองฝั่งซึ่งเลือกใช้ประตูกระจกบานเลื่อนและช่องหน้าต่างแบบบานเกล็ด ให้ความรู้สึกคลาสสิก สามารถเปิดรับลม ระบายอากาศ และช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ห้องไม่มืดจนเกินไป

“ฟังก์ชันที่ใช้งานหลักๆ คือส่วนลิฟวิง อย่างห้องนอนเดียร์จะชอบนอนห้องเล็กๆ มากกว่า อบอุ่นๆ ไม่รู้สึกโล่งจนเกินไป บวกกับเป็นฝั่งที่วิวสวย เปิดหน้าต่างไปแล้วเห็นวิวต้นไม้สีเขียวๆ เราจึงเลือกนอนห้องเล็กแทน ส่วนห้องนอนใหญ่ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้งานอะไร อีกห้องที่เหลือก็ไว้นั่งทำงาน สำหรับการตกแต่งก็ปรับให้เป็นสไตล์ที่เราชอบ มีช่วงหนึ่งเดียร์ไปเที่ยวตุรกีแล้วเห็นเขาใช้พรมแนวเปอร์เซีย มีโซฟาสีน้ำเงินตัดกับหมอนสีแดงสวยมากเลย เราก็เก็บไอเดียนั้นมาแต่งลิฟวิงรูม ส่วนห้องอื่นๆ แต่ละห้องก็จะต่างกันไป”

ในส่วนของห้องครัวคุณเดียร์บอกกับเราเพิ่มเติมว่า “ครัวเรายังคงคาแรกเตอร์เดิมๆ ของเขาไว้ และเราก็ชอบสไตล์ประมาณนี้อยู่แล้วด้วย โดยส่วนตัวเดียร์ชอบดูหนังฝรั่งอย่างเรื่อง Under The Tuscan Sun, Call Me by Your Name แล้วเราจะติดภาพและชอบกลิ่นอายแบบฝรั่งเศส อิตาลี ดูคันทรี อบอุ่นๆ เลยพยายามแต่งให้เป็นสไตล์นั้น ส่วนเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นสีขาวกับงานไม้โทนสีเข้มๆ หน่อย เวลาไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาเพิ่มก็จะเลือกไม้ที่โทนสีอ่อนหน่อยห้องจะได้ดูไม่มืด ส่วนใหญ่จะเป็นมือสองที่เราชอบไปเลือกซื้อตามโกดังญี่ปุ่น

“สำหรับฟังก์ชันใช้งานส่วนตัวเดียร์ไม่ค่อยทำอาหารเพราะทำไม่เป็น แต่มีช่วงโควิดที่อินกับการทำขนมมากๆ เตาที่เห็นก็เป็นของเดิมที่มีอยู่แล้วแต่เราไม่เคยเปิดใช้เลย มันดูเก่ามากจนเราคิดว่าน่าจะใช้ไม่ได้ พอเริ่มทำขนมเลยลองเสิร์ชหาชื่อรุ่น เป็นเตาของแบรนด์อะไร จนไปเจอวิธีใช้งานในยูทูบจึงรู้ว่าต้องเปิดเตาแก๊สก่อนแล้วใช้ปืนแก๊สจุดอีกทีไฟถึงจะติด และโชคดีมากที่เตายังใช้งานได้ แต่เวลาอบขนมอาจจะต้องคอยดู เพราะอุณหภูมิความร้อนอาจจะไม่ค่อยเสถียรเท่าไร”

และตอนนี้พื้นที่จัดเก็บเริ่มไม่พอแล้ว จนคุณเดียร์บอกว่าอยากทำเคาน์เตอร์ครัวเพิ่ม “ตอนแรกข้างๆ เคาน์เตอร์ยังโล่งๆ พอทำขนมก็เริ่มมีชั้นวางของ วางแก้ว ที่เก็บสต๊อกต่างๆ ในอนาคตถ้าอยากทำอะไรเพิ่มคิดว่าน่าจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว เราจะได้มีสเตชันไว้ทำขนมมากขึ้น ตอนนี้ทำบนโต๊ะทานข้าวรู้สึกไม่ค่อยถนัดเลย พอทำขนมเสร็จต้องเก็บให้เรียบร้อยก่อนเพื่อที่เราจะใช้โต๊ะนั่งทานข้าวทานขนมได้

“อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่ย้ายมาอพาร์ตเมนต์นี้คือเขาค่อนข้างให้อิสระในการรีโนเวตตกแต่งห้อง จะทำอะไรก็ได้แต่ต้องไม่กระทบหรือสร้างความเสียหายกับโครงสร้าง สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย อย่างก่อนหน้านี้ไม่ชอบทำอาหารเลย พอมีสเปซมากขึ้น มีห้องครัวสไตล์ที่ชอบก็ทำให้เราสนุกกับการทำอาหารมากขึ้น ทำเสร็จแล้วก็มานั่งทาน จัดจานจัดโต๊ะให้สวยๆ คือแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ Feels like Tuscany รีโนเวทอะพาร์ตเมนต์ให้บรรยากาศเหมือนหนังเรื่องโปรด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook