ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีกี่วิธี และควรตรวจบ่อยแค่ไหน?

"มะเร็งปากมดลูก" ภัยเงียบของผู้หญิงทั่วโลกและดูเหมือนจะเป็นปัญหาเดียวกันของผู้หญิงทั่วโลกเช่นกันที่มักจะละเลยการให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและกว่าจะตรวจพบก็อาจลุกลามเข้าสู่ระยะที่อยากต่อการรักษา

American Cancer Society (ACS) หรือ สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา แนะนำให้เริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกภายหลังเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกประมาณ 3 ปี สำหรับคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไป สำหรับระยะห่างของการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ถ้าเป็นการตรวจด้วย Pap smear ควรทำทุกปี แต่ถ้าตรวจด้วย Liquid-based cytology: LBC ควรตรวจทุก 2 ปี

ปัจจุบันการตรวจหามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกทำได้ 3 วิธี ได้แก่ ตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบแปปเสมียร์ (Conventional PAP Smear) โดยแพทย์จะใช้ไม้พายเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกแล้วนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pathtezt เป็นการตรวจคัดกรองที่พัฒนามาจากวิธี Pap Smear โดยวิธีการเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ จากนั้นใส่ลงในขวดน้ำยากำจัดมูกเลือด ก่อนนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ และตรวจหาเชื้อเอชพีวี (HPV DNA Test) เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ระดับ DNA ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวี ได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกทำให้สามารถป้องกันและรักษาได้ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูก สามารถระบุลงลึกไปได้ถึงสายพันธุ์ของเชื้อ HPV ไม่ว่าจะเป็น สายพันธุ์ 16 และ สายพันธุ์ 18 ที่มีความเสี่ยงสูงสุดและเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึง 70%

แผ่นอนามัยตรวจมะเร็งปากมดลูก นวัตกรรมใหม่ให้คุณตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้เอง
เพราะปัญหากวนใจสาวๆ จนทำให้ไม่กล้าไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกคือ รู้สึกเขินอายที่ต้องขึ้นขาหยั่ง แต่ปัจจุบันมีนวัตกรรมทางเลือกให้ผู้หญิงสามารถตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล ไม่ต้องขึ้นขาหยั่งด้วยแผ่นอนามัยตรวจมะเร็งปากมดลูก

แผ่นอนามัยตรวจมะเร็งปากมดลูก คือ ชุดสำหรับตรวจหาความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกข้อดีของ แผ่นอนามัยตรวจมะเร็งปากมดลูก คือ ใช้งานง่าย ออกแบบมาให้คล้ายกับผ้าอนามัย เป็นชุดตรวจที่ non-invasive ซึ่งไม่ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้หญิง เพิ่มทางเลือกให้คุณตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกโดยไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาล ไม่ต้องเขินอายกับการขึ้นขาหยั่ง และยังทดสอบได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เพียงสวมไว้ 6-8 ชั่วโมง แล้วส่งผลกลับมาที่แล็บพันธมิตรของบริษัท โดยจะรายการผลทางอีเมลจึงมีความเป็นส่วนตัวสูง  

ในกล่องแผ่นผ้าอนามัยตรวจมะเร็งปากมดลูกควรจะมีอะไรบ้าง​

1. กล่องผลิตภัณฑ์
2. แผ่นทดสอบ
3. สติกเกอร์ผนึกกล่องก่อนส่งกลับ
4. คู่มือการใช้
5. หลอดและนำ้ยาบรรจุชุดทดสอบ
6. สติ๊กเกอร์ข้อมูลส่วนบุคคล (แปะบนหลอดทดสอบ)
7. ซองไปรษณีย์สำหรับส่งชุดตรวจ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.gyncarethailand.com/ 
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bffbangkok.com 
หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง LINE OA : bff_bkk

ดูวิธีใช้งานเพิ่มเติมได้ที่ https://www.instagram.com/p/CTJ_JYUBH17/?utm_medium=share_sheet

[Advertorial]