ประโยชน์ของมันม่วง และสรรพคุณของเนื้อสีม่วงที่ชวนให้อยากกิน
กระแสของ “มันม่วง” แรงดีไม่มีตก เนื่องมาจากรสชาติที่หอมหวานละมุน แถมสีสันชวนน่ากิน ทำให้ผู้คนต่างตกหลุมรัก เพราะไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็เจอหลายเมนูที่นำมันม่วงมาเป็นส่วนประกอบทั้งอาหารคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม แล้วเคยสงสัยไหมว่า “มันม่วง” ทำไมต้องเรียกว่ามันม่วง แล้วสีม่วงนั้นเกิดจากอะไร และมีประโยชน์อย่างไร วันนี้ G&C จะพามาไขข้อสงสัยเหล่านี้กัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับมันม่วงกันก่อน
มันเทศสีม่วง หรือ มันม่วง (Purple Sweet Potato) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ จากนั้นได้มีคนนำเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1600 ซึ่งเริ่มแรกได้ทำการเพาะปลูกในโอกินาวาเมืองทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ต่อมาได้ขยายไปสู่ฮาวาย ในตอนนั้นมันม่วงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนกระทั่งมีการส่งออกจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยก็นิยมปลูกอยู่ทั่วทุกภาค โดยมีสายพันธุ์หลักๆ คือ พันธุ์โอกุด พันธุ์ไทจุง พันธุ์แม่โจ้ พันธุ์ห้วยสีทน และพันธุ์พิจิตร 1
ส่วนสาเหตุที่ต้องเรียกว่ามันม่วงเพราะเนื้อสีม่วงที่เป็นลักษณะเฉพาะของมันม่วงนั้น เกิดจากสาร แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) หรือสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยจะมีสีแดง ม่วง และน้ำเงินตามธรรมชาติ ส่วนเนื้อสีที่ได้จะเข้มหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงสารแอนโทไซยานินด้วย และสารชนิดนี้ก็เป็นเม็ดสีเดียวกันกับในกะหล่ำปลีแดง กะหล่ำดอกสีม่วง เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี องุ่น และแครอตสีม่วง
ซึ่งแอนโทไซยานินถือว่าเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา โดยจะช่วยรักษาสุขภาพของสมองให้แข็งแรง ลดภาวะสมองเสื่อม อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบตา-แคโรทีน ที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ช่วยส่งเสริมสุขภาพตาและระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ในมันม่วงยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินซี และไฟเบอร์ แถมยังมีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีมาก แถมยังอร่อยขนาดนี้ ใครจะปฏิเสธไหว