20 วิธี ทำให้ “ห้องเช่า” เป็นเหมือน “บ้าน”
สำหรับใครที่มีเหตุผลจำเป็นต้องย้ายไปอยู่นอก “บ้าน” หรือพักอาศัยในสถานที่ใหม่ ที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง บางครั้งสถานที่นั้นๆ อาจไม่สะดวกสบาย มุมหรือบรรยากาศต่างๆ แตกต่างไปจากบ้านที่ตัวเองอยู่ จึงทำให้เกิดอาการ Home Sick หรืออารมณ์คิดถึง “บ้าน” อยู่บ่อยครั้ง
ปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยากค่ะ เพราะเราสามารถสร้างบรรยากาศในสถานที่ใหม่ๆ ให้มีอารมณ์เหมือนอยู่ “บ้าน” ได้ไม่ยาก เช่นเคยค่ะ Sanook! Home รวบรวมนานาเทคนิคการสร้างบรรยากาศให้เหมือนบ้าน มาฝากคนติดบ้าน ไปกันเลยค่ะ
Heidi Lau Photography / Via jacquelynclark.com
1.จัดการเรื่องที่นอน : เชื่อหรือไม่ว่าการเพียงแค่คุณจัดการให้เบาะนอนอยู่บนเตียง หรือแท่นที่นอน มันจะทำให้บรรยากาศของห้องดีขึ้น แตกต่างจากการวางเบาะนอนไว้บนพื้นเพียงอย่างเดียว
2. ทำความสะอาดห้องใหม่ : แน่นอนว่าเจ้าของบ้าน หรือผู้เช่าคนเดิมอาจจะทำความสะอาดห้องไว้ให้ก่อนที่คุณจะเข้าไปเช่าเป็นคนต่อไป แต่ถ้าจะให้ดี คุณควรทำความสะอาดห้องอีกครั้ง ปัดฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ
3. จัดห้องน้ำ : การเติมของใช้ต่างๆ เข้าไปในห้องน้ำ เช่นม่านกั้นห้องอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว สบู่ล้างมือ เจลอาบน้ำ แชมพู หรือแม้แต่แผ่นยางกันลื่น จะทำให้ห้องน้ำดูน่าใช้มากยิ่งขึ้น
Ashley Poskin / Via apartmenttherapy.com
4. จัดมุมเสียงเพลง : การเพิ่มเสียงเพลงเข้าไปภายในห้องเช่า จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ภายในบ้านของตัวเอง
5. ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ต : ยุคสมัยนี้ใครๆ ก็ผูกติดอยู่กับโลกออนไลน์ การที่คุณย้ายออกจากบ้านเพื่อมาเช่าห้องอยู่ข้างนอก และหากคุณจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต คุณก็ควรจะติดตั้งอินเทอร์เน็ตไว้ภายในห้องพักของคุณเช่นกัน
6. แสงสว่างจากแสงเทียน : แสงสว่างจากเทียน หรือแม้แต่กลิ่นหอมจากเทียนหอม จะทำให้ให้คุณนึกถึงสถานที่ที่คุณเคยจากมาเป็นสถานที่สุดท้าย
7. ไปช้อปปิ้งและซื้อของ : ออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ แล้วซื้อของกิน ของใช้ต่างๆ มาเก็บไว้ในตู้เก็บของ หรือตู้เย็น จะทำให้ห้องเช่าของคุณดูเป็นบ้านมากกว่า การปล่อยให้ตู้เหล่านั้นโล่งว่าง
8.เดินเล่นไปรอบๆ ที่พักอาศัย : การเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบที่พักอาศัย จะทำให้เราได้รู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่พักอาศัย รวมทั้งยังอาจได้เห็นว่ามีร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ อยู่ตรงไหนบ้าง
9. ติดผ้าม่าน : จากหน้าต่างโล่งๆ ที่ไม่มีม่านกั้น การติดผ้าม่านจะทำให้ห้องดูอบอุ่น และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น รวมทั้งหากมีเพื่อนๆ หรือใครมาเยี่ยมที่ห้อง ห้องที่มีผ้าม่าน จะให้ความรู้สึกถึงความพร้อมในการต้อนรับแขกอยู่เสมอ
10. เลือกห้องสักห้องให้เป็นมุมอบอุ่นสำหรับคุณ : ลองหามุมหรือห้องสักห้อง แล้วจัดให้ห้องๆ นั้นมีบรรยากาศที่อบอุ่น ด้วยการเติมหมอน และผ้าห่มเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย หรือหากไม่มีห้องให้เลือก ก็ใช้ห้องนอนเป็นมุมอบอุ่นที่สุดสำหรับคุณก็ได้
11. ตกแต่งห้องร่วมกันหากคุณมี รูมเมท : หากต้องย้ายเข้าไปอยู่ร่วมกับรูมเมท การได้ร่วมกันตกแต่งห้องด้วยกันจะทำให้ห้องมีบรรยากาศของการพักอาศัยร่วมกันมากกว่าการเป็นห้องของใครคนใดคนหนึ่ง
12. แขวนประดับภาพ : การนำภาพถ่าย หรือ ผลงานศิลปะมาประดับห้อง จะทำให้ห้องนั้นมีบรรยากาศเหมือนบ้านมากกว่าการปล่อยผนังห้องไว้แบบโล่งๆ
13. จัดโต๊ะอาหาร : การจัดโต๊ะขึ้นมาในห้องจะทำให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แต่หากคุณไม่มีโต๊ะรับประทานอาหาร กล่องกระดาษแพคของที่คุณใช้ตอนย้ายบ้านก็สามารถนำมาจัดวางเป็นโต๊ะรับประทานอาหารดีๆ ได้เช่นกัน
14. ทาสีผนัง : หากคุณได้รับอนุญาตให้ทาสีห้องจากเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของห้อง คุณก็ลงมือทาสีห้องใหม่ได้เลย
15. ติดวอลเปเปอร์ : แต่หากคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทาสีห้อง อาจเลือกติดวอลเปเปอร์แบบลอกได้แทนก็ได้
16. แนะนำตัวเองกับเพื่อนบ้าน : คงจะดีกว่า หากคุณสร้างมิตรมากกว่าศัตรู ดังนั้นการแนะนำตัวเองกับเพื่อนบ้าน หรือห้องติดๆ กันน่าจะดีกว่า เพราะหากมีเหตุให้ต้องพึ่งพาอาศัยกันจะได้ไม่กระดากใจ
17. จัดมุมหนังสือ : หากตอนคุณย้ายออกมา มีหนังสืออยู่ในกล่องเยอะแยะ ให้คุณแกะหนังสือเหล่านั้นออกมาแล้วมาจัดใส่ชั้นวางหนังสือ เวลาคุณอยู่ที่ห้อง หากได้หนังสือดีๆ สักหนึ่งเล่มพร้อมนั่งจิบกาแฟไปด้วย นั่นถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งในที่พักอาศัย
18. เติมสีเขียวให้ห้อง : แน่นอนว่าการปลูกต้นไม้ไว้ในที่พักอาศัย จะช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับบ้าน ดังนั้นคุณอาจเลือกปลูกต้นไม้ชนิดที่ปลูกในร่มได้ หรือปลูกไม้อวบน้ำ ที่ดูแลง่ายแทนก็ได้
19. วางแผนต้อนรับแขก : คุณควรวางแผนต้อนรับแขกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อเติมสีสันให้กับชีวิต เพราะบางครั้งการย้ายจากที่พักเดิมมายังสถานที่ใหม่ๆ อาจทำให้คุณยังไม่มีเพื่อนมากนัก หรือหากเริ่มรู้จักเพื่อนบ้านมากขึ้นแล้ว จะเชิญเพื่อนบ้านมานั่งคุยหรือรับประทานอาหารร่วมกันก็ได้
20. หาที่พักให้สัตว์เลี้ยง : หากที่ๆ คุณย้ายไปอยู่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ คุณควรหาที่นอน และจัดเตรียมของใช้สำหรับมันให้เรียบร้อย รวมถึงถ้าเป็นสุนัขคุณต้องพามันไปเดินเล่นบ้าง
ภาพประกอบจาก http://www.buzzfeed.com