10 วิธียืดอายุตู้เย็นให้ “อึด” เป็น 10 ปี

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าคู่บ้าน คู่ครัว สำหรับเก็บอาหารสด อาหารแห้ง น้ำดื่ม ฯลฯ หลังจากซื้อตู้เย็นมาแล้ว มีคุณแม่บ้านจำนวนไม่น้อยมักละเลยที่จะดูแลเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้ เนื่องจากระบบการทำงานของมันไม่ได้ซับซ้อน และคิดว่ามันก็ทำงานง่ายๆ และคงจะอยู่กับเราไปนาน ไม่มีวันพัง

หารู้ไม่หากเราไม่เอาใจใส่ ดูแล “ตู้เย็น” ของเรา หรือเราใช้งานไม่ถูกวิธี “ตู้เย็น” ก็อาจจะอยู่คู่ครัวเราได้ไม่นานอย่างที่เราคิด แล้วมันมีวิธีการดูแลตู้เย็นให้อยู่กับเรานานๆ ได้อย่างไร พร้อมแล้วมาดูกันดีกว่า

1.กำหนดระยะห่างให้เหมาะสม
เรื่องระยะห่างของการตั้งตู้เย็นมีความสำคัญ เพราะจะทำให้ตู้เย็นระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ดังนั้นเราควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังโดยด้านหลังห่างประมาณ 100 มม. ด้านข้างประมาณ 20 มม. และด้านบนประมาณ 300 มม.

2.หมั่นตรวจทานสายไฟ
หากสายไฟชำรุด จะทำให้เกิดไฟช็อตได้ ซึ่งจะเกิดอันตรายกับตัวเอง

3.ห้ามเสียบปลั๊กตู้เย็นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น
ในเต้าเสียบเดียวกัน ห้ามเสียบปลั๊กตู้เย็นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นอื่น เพราะตู้เย็นใช้กำลังไฟฟ้าเยอะ ดังนั้นควรเสียบปลั๊กตู้เย็นโดยตรงกับเต้ารับ และเสียบให้สนิทด้วย

4.ไฟดับต้องรีบถอดปลั๊ก
หากไฟดับต้องรีบถอดปลั๊กตู้เย็นออกทันที และเมื่อไฟติดถึงเสียบปลั๊กเข้าไปตามปกติ โดยควรเว้นระยะเวลาห่างออกจากกันประมาณ 5 นาที

5.ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม
ตั้งอุณหภูมิช่องแช่แข็งควรตั้งในอุณหภูมิ 3-6 องศาเซลเซียส ส่วนช่องแช่แข็งติดตั้งอุณหภูมิประมาณลบ 15-18 องศาเซลเซียส เพื่อความประหยัดและลดทำงานของตู้เย็น

6.อย่านำของร้อนเข้าตู้เย็น
ห้ามนำของร้อนเข้าตู้เย็น เพราะของร้อนจะทำไปเพิ่มอุณหภูมิภายในตู้เย็นมากกว่าปกติ ทำให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น กินไฟเพิ่มขึ้น ควรปล่อยให้ของร้อนเย็นตัวลงก่อน

7.อย่าเก็บสิ่งอันตรายไว้ในตู้เย็น
สิ่งที่ไม่ควรนำเข้าตู้เย็นคือสารเคมี สี สารไวไฟ เพราะจะทำให้เกิดการเจือปนกับอาหารและเกิดปฏิกิริยากับความเย็นทำให้เป็นอันตราย

8.อย่าเปิดตู้เย็นทิ้งไว้
การเปิดประตูตู้เย็นไว้นานๆ จะทำให้ความร้อนเข้าไปภายในตู้เย็น ตู้เย็นจะต้องเริ่มทำงานสะสมความเย็นใหม่ ถ้าอยากประหยัดไฟจึงไม่ควรเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้

9.ห้ามนำเบียร์ น้ำอัดลมแช่แข็ง
เครื่องดื่มเหล่านี้มีก๊าซที่สามารถขยายตัวได้เมื่อเจอความเย็นจัด ดังนั้นไม่ควรแช่เครื่องดื่มเหล่านี้ไว้ในช่องแข็ง เพราะจะทำให้เกิดการระเบิดได้

10.หมั่นทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ
ควรดูดฝุ่นที่เกาะอยู่ตรงขดลวดด้านหลังตู้เย็นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง จะทำให้ขดลวดได้รับลมเย็นๆ และคลายความร้อนได้ดีมากขึ้น

ตรวจสอบการรั่วไหลของตู้เย็น
ตู้เย็นที่ใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ บริเวณยางขอบตู้เย็นอาจเสื่อม ดังนั้นเราสามารถลองใช้กระดาษแทรกลงไประหว่างยางและประตูตู้เย็น เมื่อปิดตู้เย็นสนิท ถ้ายังขยับกระดาษที่แทรกขึ้นลงได้สะดวก แสดงว่ายางตู้เย็นเสื่อมและควรเปลี่ยนใหม่

ภาพจาก www.istockphoto.com