14 เทคนิคใน “บ้าน” ง๊ายง่าย ลดรายจ่ายใน “ กระเป๋า”

14 เทคนิคใน “บ้าน” ง๊ายง่าย ลดรายจ่ายใน “ กระเป๋า”

14 เทคนิคใน “บ้าน” ง๊ายง่าย ลดรายจ่ายใน “ กระเป๋า”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงที่ข้าวของราคาแพงแบบนี้ เราอาจต้องหาวิธีลดค่าใช้จ่ายหลายๆ ทาง Sanook!Home จึงมีเทคนิคการประหยัดเงินในกระเป๋าจากการใช้ชีวิตปกติใน “บ้าน” ที่คุณแทบไม่เชื่อว่าที่ผ่านมาคุณใช้ชีวิตสิ้นเปลืองไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แม้จะเป็นการประหยัดเล็กๆ น้อยๆ แต่เชื่อเถอะว่า หากทำสม่ำเสมอเงินในกระเป๋าสตางค์เหลือเฟือ

1.ของจำพวกสำลีก้อน ที่ใช้สำหรับเช็ดเครื่องสำอาง หรือของจำพวกหนังยาง ยาสีฟัน ควรซื้อแบบเป็นจำนวนมากๆ เพราะมันจะประหยัดกว่าซื้อแบบแยกชิ้น

ภาพจาก www.istockphoto.com

2.เว้นการซื้อน้ำบรรจุขวด แล้วใช้วิธีการกดน้ำจากตู้แทน

3.ปิดสวิทซ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดก่อนคุณออกจากบ้านไปทำงาน เพราะถือเป็นกฎพื้นฐานสำหรับการประหยัดรายได้ค่าไฟฟ้า

4.ลดการดูทีวี นอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังลดความหวั่นไหวต่อโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ได้อีกด้วย

5.สบู่แบบก้อนดีกว่า ประหยัดเงินกว่าการใช้ครีมหรือสบู่อาบน้ำ และยังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย

ภาพจาก http://stylecaster.com

6.ขายเครื่องสำอางที่ยังไม่ได้ใช้ทางอินเทอร์เน็ต ดีกว่าปล่อยมันทิ้งไว้ ก็เหมือนคุณกองเงินทิ้งไว้เฉยๆ

7.ใช้โน้ตบุ๊คแทนคอมพิวเตอร์พีซี เนื่องจากโน้ตบุ๊คช่วยประหยัดไฟได้ดีกว่า

8.ขายหนังสือใช้แล้ว แผ่นดีวีดีทางอินเทอร์เน็ต เป็นการเพิ่มรายได้ และเพิ่มพื้นที่ใช้งานภายในบ้าน

9.ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดขณะปรุงอาหาร แทนการใช้กระดาษเพราะมันประหยัดกว่า

ภาพจาก www.istockphoto.com

10.เมื่อใช้ยาสีฟันใกล้หมดหลอด ให้คุณใช้กรรไกรตัดปลายหลอดยาสีฟัน เพราะมันยังมีเศษยาสีฟันเหลืออยู่อีกเยอะ

11.ตอนเช้าทำกาแฟดื่มเองในบ้าน หรือทำกาแฟดื่มเองในออฟฟิศ แทนที่จะไปซื้อกาแฟดื่มจากร้านทั่วไป ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะ

12.แทนที่จะซื้อครีมสครับให้ใช้น้ำตาลทรายแดงผสมกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่คุณชื่นชอบ

ภาพจาก http://stylecaster.com

13.ลงทุนซื้อเครื่องหนังดีๆ สำหรับของเหล่านี้เช่นกระเป๋า แจ๊คเก็ต รองเท้าบูท เพราะมันคุ้มค่าและใช้ได้นาน แถมยังเข้ากับชุดทุกชุด

14.ถ้าคุณรักและหลงใหลสไตล์มินิมอลลิสต์ พยายามจัดตู้เสื้อผ้าของคุณให้เรียบง่ายที่สุด

เรียบเรียงข้อมูลจาก http://stylecaster.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook