สุดหรรษา "บ้านเปิ้ล นาคร" พร้อมลูกๆ ที่น่ารัก
เราคงคุ้นเคยกับศิลปิน นักแสดงเรียกรอยยิ้มอย่าง “เปิ้ล” นาคร ศิลาชัย กันเป็นอย่างดี ทุกวันนี้นอกจากการทำรายการทีวี ให้ภรรยาทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเสริมและความงามจนร่ำรวยแล้ว เปิ้ล นาครและจูน กษมา ภรรยาคนสวยยังเป็นคุณพ่อ และคุณแม่ของลูกสาวและลูกชายรวมทั้งหมด 4 คนคือลูกสาวคนโตออกัส ส่วนคนที่สองคือออก้า ลูกชายคนที่ 3 คือออกู๊ด และลูกคนที่ 4 คือออเกรซ เรียกได้ว่าบรรยากาศภายในบ้าน “ศิลาชัย” จึงเต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน ครื้นเครงจากเสียงสดใสของเด็กๆ
บ้านหลังแรก
บ้านสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบๆ ของครอบครัวศิลาชัยถูกออกแบบโดยเปิ้ล นาครทั้งหมด โดยเขาเริ่มตั้งแต่ตระเวนหาซื้อที่ดินและบ้านในแบบที่ตนเองต้องการ หลังจากเป็นมนุษย์คอนโดมิเนียมมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เขาใช้เวลาอยู่นานจนกระทั่งมาพบบ้านและที่ดินในทำเลที่ชื่นชอบ
“ตอนแรกก็หาทั้งบ้านทั้งที่ดินแถวๆ เรียบทางด่วนรามอินทรา เพราะอยากให้มันห่างเมือง รถจะได้ไม่ติด โครงการแรกที่ไปดูทั้งบ้านทั้งที่ดินรวมกันราคา 30 ล้านบาท ได้ที่ดินแค่ 100 ตารางวา เรารู้สึกว่ามันแพงไป เลยตระเวนหาใหม่ จนมาเจอบ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่เหลือหลังสุดท้าย ตั้งอยู่มุมสุดของหมู่บ้าน ราคาบ้านรวมที่ดินประมาณ 11 ล้าน ตอนแรกก็คิดว่าจะตกแต่งเพิ่มเติมอีกประมาณ 5 ล้าน แต่ทำไปทำมาตกแต่งไปอีก 10 กว่าล้าน”
เนื่องจากเป็นบ้านในหมู่บ้าน ลักษณะดั้งเดิมของบ้านทุกหลังจึงเหมือนกันหมด รวมถึงบ้านของเขาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของบ้านไอเดียบรรเจิดอย่างเปิ้ล นาคร ย่อมคิดที่จะปรับเปลี่ยนบ้านหลังแรกของเขาให้เป็นไปอย่างที่ตัวเองต้องการอย่างแน่นอน
“ป่า” ล้อม “บ้าน”
ด้วยปกติเปิ้ล นาคร ชอบเดินทางไปเที่ยวเขาใหญ่ ดังนั้นอีกหนึ่งความฝันของเขาคือการปลูกต้นไม้ตกแต่งไว้รอบๆ บ้านเพื่อให้เขาและครอบครัวสามารถนั่งมองต้นไม้ และชื่นชมความร่มรื่นได้จากในบ้าน
ต้นไม้ในบ้านเปิ้ล นาครจึงมีหลากหลายชนิดทั้งต้นสาละ ต้นลีลาวดี ต้นแคนา ต้นจันทน์ผา ต้นมะลิ ฯลฯรวมถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เขายังวางแผนที่จะปรับปรุงพื้นที่โดยรอบของห้องรับแขก เพื่อปลูกต้นไม้เพิ่มเติมอีกด้วย
“ต้นไม้แต่ละต้นที่ปลูกมีที่มาที่ไป และเลือกตำแหน่งการจัดวางทั้งหมด อย่างต้นสาละตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แสงแดดส่องถึงเพื่อช่วยกรองแสง ให้ร่มเงา อย่างต้นลีลาวดีต้นนี้ราคา 2 แสน เพราะฟอร์มของต้นมันสวย เลยต้องตั้งอยู่กลางบ้านเพื่อเป็นแลนด์มาร์ก ส่วนต้นจันทน์ผาที่ใบมีลักษณะแหลม ตั้งใจปลูกไว้ทั้งสองฝั่งของรั้วหน้าบ้าน เพื่อเป็นตัวแทนของสิ่งที่ใช้ป้องกันอันตราย ส่วนต้นมะลิเราก็ปลูกไว้ติดหน้าต่างตรงห้องรับแขก เพื่อให้เวลาเปิดหน้าต่างแล้วลมพัดเอากลิ่นหอมของมันลอยเข้ามา”
“บ้าน” สองอารมณ์
แม้โดยส่วนตัวจะชื่นชอบบ้านสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบง่าย ใช้สีน้อยๆ แต่เมื่อมีครอบครัว บ้านจึงถูกปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานของสมาชิกในครอบครัวทุกคน ดังนั้นนอกจากโทนสีขาว ดำ เทา ซึ่งเป็นโทนสีหลักของบ้านหลังนี้ ยังมีสีสันสดใสทั้งสีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน และสีเหลืองฯลฯ ในพื้นที่ของลูกๆ ทั้งสองอยู่ด้วย
“ปกติเป็นคนชอบสีเทา เพราะคิดว่าจะเอาอะไรไปวางมันก็เด่น ก่อนมีลูกของทุกชิ้นในบ้านจึงเน้นสีขาว สีดำ สีเทา แต่พอมีลูก ก็ต้องยอมให้มีของสีๆ เข้ามาในบ้าน”
สำหรับการแบ่งพื้นที่ใช้สอยในบ้าน เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านจะถูกแบ่งเป็นโถงด้านหน้า ที่ทางด้านซ้ายและด้านขวาเป็นห้องนั่งเล่นในสไตล์แตกต่างกัน ห้องนั่งเล่นทางด้านซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นสำหรับครอบครัว ซึ่งปัจจุบันถูกดัดแปลงเป็นพื้นที่สำหรับลูกๆ ทั้งสอง ส่วนห้องทางด้านขวาเป็นห้องที่เตรียมไว้ต้อนรับแขก ดังนั้นจึงมีลักษณะและโทนสีเรียบๆ ดูเป็นทางการมากยิ่งขึ้น
ในพื้นที่ใกล้เคียงกันแบ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และเคาน์เตอร์ประกอบอาหารเล็กๆ ส่วนด้านหลังเป็นห้องครัวแบบไทย สำหรับประกอบอาหารแบบจริงจัง สำหรับชั้นที่สองของบ้านมีห้องนอนใหญ่ที่สมาชิกในครอบครัวนอนรวมกันทั้งหมด และยังมีส่วนเชื่อมต่อกับห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ค่อนข้างกว้าง
บ้านหลังกะทัดรัดของครอบครัวศิลาชัยหลังนี้ เมื่อมองจากภายนอก แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่โต หากแต่เมื่อเข้าไปแล้วจะรับรู้ถึงความครบครันทั้งต้นไม้ สายน้ำ แสงแดด กลิ่นหอมของดอกไม้จากบางต้น แต่สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดน่าจะเป็นเสียงหัวเราะของเด็กๆ ทั้งสอง ซึ่งกลายเป็นสีสันและสร้างชีวิตชีวาให้กับบ้านหลังนี้ได้เป็นอย่างดี
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ