8 จุดใน “บ้าน” เตรียมให้พร้อม รับ “หน้าร้อน” แบบชิล ชิล
อากาศที่ทวีความร้อนขึ้นทุกวัน และยังมีการบอกต่อกันมาอีกว่าในปีนี้จะเป็นปีที่บ้านเรามีอุณหภูมิสูงถึงกว่า 40 องศา แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวเพียงใด Sanook!Home ก็อยากให้ทุกคนใจเย็นๆ ถือโอกาสเตรียมความพร้อม “บ้าน” ในช่วงหน้าร้อนนี้ซะเลย
ทาสีบ้านใหม่ การทาสีบ้านใหม่ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะบ้านที่ผ่านร้อน หนาว ฝนมานานสีก็เริ่มจะซีดจาง แล้วแดด กับ ลมในช่วงหน้าร้อนนี่แหละจะทำให้สีแห้งไวกว่าการทาสีบ้านในช่วงฤดูอื่น นอกจากนี้ยังควรทาสีกันผนังชื้นเพื่อป้องกันน้ำฝนที่จะโดนบ้านโดยตรง
ล้างแอร์ครั้งสุดท้ายเมื่อไร ในช่วงหน้าร้อนใครๆ ก็หันมาใส่ใจตรวจเช็คการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ หากเลย 6 เดือนมาแล้วที่คุณยังไม่ได้ล้างแอร์ ก็ควรเรียกช่างให้มาล้างแอร์เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าหน้าร้อนกันเสียที หรือถ้าแอร์โทรมมากแนะนำให้เปลี่ยนเป็นแอร์ประหยัดไฟแบบเบอร์ 5
ทาสีย้อมไม้กันเถอะ ใครมีบ้านไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ในช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทาสีย้อมไม้ หรือลงน้ำมันรักษาเนื้อไม้ เนื่องจากต้องใช้เวลาแห้งนานหลายชั่วโมงถึงจะทารอบใหม่ได้ สำหรับในส่วนของประตูหน้าต่างหรือโครงสร้างไม้นอกบ้าน วิธีการคือเราควรขัดสีที่เสียหายออกให้ถึงเนื้อไม้ ก่อนจะปรับผิวให้เรียบก่อนลงสีใหม่ โดยการทาสีย้อมไม้จะต้องทา 2-3 ชั้น โดยแต่ละชั้นควรทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 6 ชั่วโมง สีที่ใช้ควรเป็นสีน้ำมัน สีน้ำพลาสติกสำหรับงานไม้โดยเฉพาะ หรือสีย้อมไม้เพราะจะทนทานต่อน้ำและแสงแดด รวมถึงควรทาน้ำยากันปลวก มด แมลงด้วย ส่วนระเบียงหรือพื้นทางเดินที่ต้องตากแดดตากฝนควรขัดผิวและทาด้วยสีย้อมพื้น หรือสีย้อมไม้สำหรับไม้นอกบ้านทุกๆ 3 ปี ส่วนเฟอร์นิเจอร์การจัดเคลือบผิวจะช่วยให้ไม้ไม่ดูดซับความชื้นมากจนเกินไป
เพิ่มกันสาด สำรวจให้รอบๆ บ้านว่ามีพื้นที่ตรงส่วนไหนที่แสงแดดส่องถึงเข้าไปในตัวบ้านได้ โดยดูจากทิศที่แดดส่องถึง ซึ่งจะเป็นทิศใต้กับทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จากนั้นดูว่าในบริเวณนั้นมีกันสาดหรือเปล่า โดยเฉพาะทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถ้ายังไม่มีกันสาดก็ควรเพิ่มเพราะนอกจากกันสาดจะช่วยกันแดดแล้วยังช่วยกันฝนอีกด้วย หรือถ้าเป็นแสงแดดตอนบ่ายๆ ไปจนถึงตอนเย็นต้องดูว่าสามารถส่องได้ในองศาที่ต่ำประมาณเท่าไร จากนั้นอาจเพิ่มเครื่องกำบังเช่นม่าน ฟิล์มกรองแสง หรือปลูกต้นไม้ในบริเวณนั้น
เช็ครางน้ำฝน รองเช็คว่ารางน้ำฝนมีกิ่งไม้ ใบไม้อุดตันหรือเปล่า หากมีให้รีบกำจัดเสียเพราะจะทำให้การระบายน้ำคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นควรหาตะแกรงมาปิดรางน้ำฝนเพื่อป้องกันเศษใบไม้ตกลงมาสะสมอีก
เช็ครอยโหว่ รอยร้าว นอกจากแสงแดดจากหน้าร้อนแล้ว ในหน้าร้อนนี้ยังมีฝนตกร่วมด้วย ดังนั้นหากกรอบหน้าต่างทำด้วยไม้ซึ่งจะมีการยืดหดตัวตามธรรมชาติมีช่องโหว่เกิดขึ้นให้ทาซิลิโคนแบบที่ใช้กับไม้ ชนิดใช้ภายนอกมาอุดรอยโหว่ให้เรียบร้อย ส่วนผนังเราต้องตรวจตราหากมีรอยร้าวจากปูนฉาบแตกร่อน ก็ควรซ่อมแซมเช่นใช้วัสดุยาแนว
เช็คบ่อพัก ท่อน้ำทิ้ง ควรตรวจเช็คให้แน่ใจว่ามีสิ่งอุดตันอยู่ในบ่อพักหรือท่อน้ำทิ้งหรือเปล่า ทั้งเศษดิน เศษหิน ใบไม้ ถ้ามีของเหล่านี้ทับถมอยู่ควรขุดลอดเพื่อกำจัดเศษวัสดุต่างๆ ทิ้งไป
รั้วบ้าน หากเป็นรั้วเหล็กอาจเกิดสนิมขึ้นได้ง่าย ดังนั้นควรขัดสนิมเก่าออกให้หมดแล้วทาสีใหม่ ส่วนรั้วอัลลอยด์ สีอาจซีดจางดังนั้นควรทำความสะอาดและทาสีใหม่ สำหรับรั้วไม้หากพบว่ามีชิ้นส่วนใดของรั้วไม้เสียหายควรรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ส่วนรั้วปูนหากพบรอยแตกร้าวควรรีบแก้ไข
การตรวจตราบ้านไว้ให้พร้อมก่อนรับหน้าร้อน ถือเป็นการวางแผนการใช้ชีวิตในบ้านอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากหลายๆ วิธีช่วยทำให้บ้านของคุณเย็นลง คุณจะได้ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศให้เปลืองค่าไฟ รู้แบบนี้แล้วเร่งเตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆนะคะ
ภาพจาก www.istockphoto.com