10 ชิ้นในบ้าน มัวแต่ใช้ แล้วรู้ไหมทำความสะอาดตอนไหน
ของใช้ภายในบ้านตอนใช้เราก็ใช้ซะเพลิน จนลืมคิดว่าควรจะทำความสะอาดตอนไหน นอกจากการลืมทำความสะอาดจะทำให้ของใช้เหล่านั้นดูสกปรก สีสันไม่น่ามองแล้ว ของใช้ที่ไม่ได้ถูกนำมาซัก ล้าง ทำความสะอาดยังเป็นที่สะสมเชื้อโรคอีกด้วย
Sanook! Home จึงรวบรวม 10 ของใช้ที่เราอาจจะลืมว่าควรทำความสะอาดมันบ้าง มาให้คุณแม่บ้านทุกคนเก็บไว้ในคลังข้อมูล จะได้มีของใช้ที่สะอาดปราศจากเชื้อโรค
ภาพจาก http://indulgy.com/post/OruoiLRRI1/hankies-to-edge-pillow-case
1.ปลอกหมอน: สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เนื่องจากปลอกหมอนเก็บสะสมทั้งฝุ่น คราบเหงื่อ ความสกปรกต่างๆ ดังนั้นเมื่อใช้งานไปประมาณ 1 สัปดาห์ ควรทำความสะอาดปลอกหมอนด้วยน้ำร้อน และปั่นแห้งเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
2.กางเกงยีนส์: หลังจากใส่ไปแล้ว 4-5 ครั้งค่อยซักกางเกงยีนส์ มันจะดีมากถ้าคุณใส่กางเกงยีนส์ก่อนซัก เพราะในระยะยาวมันจะไม่ทำให้กางเกงยีนส์คุณด่าง แต่ถ้าคุณซักกางเกงยีนส์บ่อยๆ มันกลับจะทำให้กางเกงคุณหมดอายุการใช้งานก่อนกำหนด วิธีการทำความสะอาดคือกลับด้านในกางเกงยีนส์ออกมาไว้ด้านนอก แล้วนำไปซักในน้ำเย็น จากนั้นปั่นแห้ง
3.พรม: เป็นวัสดุตกแต่งบ้านที่ช่วยตกแต่งห้องต่างๆ ภายในบ้านให้ดูเด่นสง่างาม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละออง เชื้อโรค ดังนั้นเราควรทำความสะอาดพรมครั้งใหญ่ทุกๆ 6 เดือน แต่ในระหว่างนั้นอาจมีการทำความสะอาดโดยการดูดฝุ่น ซึ่งจะทำทุกวันหรือ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้
4.เตาไฟฟ้า: เราไม่ควรปล่อยให้เตาไฟฟ้ามีคราบสกปรกโดยเด็ดขาด ดังนั้นจึงควรหมั่นทำความสะอาดเตาไฟฟ้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะบริเวณที่จุดไฟ โดยใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
5.เครื่องปรับอากาศ: ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้หลายๆ บ้านคงเปิดแอร์ทุกวัน ดังนั้นจึงควรถอดฟิลเตอร์แอร์ออกมาล้างทุก 15 วัน เพื่อลดการอุดตัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนั้นการปรับระดับความเย็นของเครื่องปรับอากาศเราควรตั้งไว้ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
6.ผ้าม่าน: การทำความสะอาดผ้าม่านนั้นสามารถทำความสะอาดได้ทุกอาทิตย์ โดยทำควบคู่ไปกับการทำความสะอาดบ้าน ด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดไล่จากด้านบนมาจนถึงด้านล่างของผ้าม่าน ก่อนการใช้เครื่องดูดฝุ่นควรเช็คความสะอาดของแปรงและล้อของเครื่องดูดฝุ่นว่าสะอาดพอที่จะทำความสะอาดผ้าม่าน เพราะมิเช่นนั้นจะยิ่งเป็นการเพิ่มความสกปรกให้กับผ้าม่านได้
ภาพจาก http://www.diynatural.com/how-to-clean-a-washing-machine/
7.เครื่องซักผ้า: การทำความสะอาดเครื่องซักผ้านั้น เราอาจแยกเป็นการทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า โดยการใช้สเปรย์ฉีดทำความสะอาดและขัดทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน และควรหมั่นทำความสะอาดทุกๆ 2-3 เดือนเพื่อป้องกันเชื้อราและสารตกค้างจากผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม นอกจากนี้ในตัวเครื่องซักผ้ายังมีตัวกรองผ้า ซึ่งการทำความสะอาดตัวกรองผ้าทุกๆ สัปดาห์จะช่วยขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี โดยการใช้แปรงกวาดฝุ่นที่เกาะอยู่ก่อนนำมาล้างทำความสะอาด
8.ตู้เย็น: คงขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ตู้เย็นของคุณสกปรกเร็วแค่ไหน หากคุณใช้ตู้เย็นแช่อาหาร ผัก ผลไม้ ฯลฯ เป็นจำนวนมากๆ เพราะภายในบ้านมีสมาชิกหลายคน ตู้เย็นอาจสกปรกเร็ว ดังนั้นอาจทำความสะอาดตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้งก็ได้ วิธีทำความสะอาดตู้เย็นควรนำอาหารออกจากตู้เย็นก่อน จากนั้นถอดส่วนที่ทำความสะอาดได้ แล้วนำฟองน้ำชุบน้ำยาล้างจาน เช็ดทำความสะอาดภายในตู้เย็น
ภาพจาก http://www.listotic.com/55-must-read-cleaning-tips-tricks/2/
9.ฟองน้ำล้างจาน: ฟองน้ำล้างจานเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี หลังล้างจานเราจึงควรทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานทุกครั้ง ว่าแต่มันควรทำอย่างไรล่ะ วิธีแรกคือนำไปผึ่งแดดจัดๆ สักประมาณ 2- 3 ชั่วโมง หรือจะนำน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่า จากนั้นนำฟองน้ำแช่ทิ้งไว้ค้างคืน กรดจากน้ำส้มสายชูจะช่วยฆ่าจุลินทรีย์ อ่อ…ควรเปลี่ยนน้ำผสมน้ำส้มสายชูทุกๆ วันนะคะ
10. ฟูกนอน : ฟูกนอนเป็นของใช้ที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ดังนั้นการคิดจะทำความสะอาดแต่ละครั้งเลยเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาเยอะ จนทำให้คุณแม่บ้านท้อใจและพลอยไม่อยากทำความสะอาดฟูกนอนไปเลย แต่จริงๆ แล้วเราควรทำความสะอาดฟูกนอนทุก 3 เดือน เบื้องต้นใช้เครื่องดูดฝุ่น โดยถอดผ้าปูที่นอนออกก่อน จากนั้นใช้น้ำสบู่เช็ดคราบสกปรกบนที่นอน ไม่ว่าจะเป็นคราบอาหารหรือคราบเลือดแล้วใช้แปรงสีฟันขัดคราบเหล่านั้นไปเบาๆ ข้อแนะนำคือหากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของสารเคมีชนิดรุนแรงเพราะสารเคมีเหล่านั้นจะสะสมและติดอยู่กับฟูกนอน ซึ่งจะส่งผลทำให้ผิวของเราระคายเคืองได้