10 ไอเดีย ที่จะทำให้ของใกล้ตัวในบ้านคุณสะอาดหมดจด
การทำความสะอาดสิ่งของแต่ละชิ้น กว่าจะสะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุมก็หมดเวลาไปไม่น้อย โดยเฉพาะของชิ้นใหญ่หรือมีคราบสกปรกตกค้างอยู่มาก จะทำให้เรื่องยาก ๆ เหล่านี้กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ด้วยทริคเด็ดที่จะเปลี่ยนของในบ้านที่สกปรกสุด ๆ เป็นของใช้ที่สะอาดเอี่ยมอ่อง เหมือนเพิ่งถอยออกจากร้านมาสด ๆ ร้อน ๆ เลยล่ะ ต้องทำอย่างไรบ้างลองไปดูกันค่ะ
1.ตู้เย็น
หากชั้นวางของในตู้เย็นมีทั้งคราบเหนียวๆ น้ำกระเด็นไปทั่ว หรือมีเศษอาหารชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มไปหมด จนรู้สึกว่าไม่อยากจะเอาอาหารเข้าไปแช่เย็นเลย ให้นำของในตู้เย็นออกมาทั้งหมด แล้วล้างชั้นวางของ ผนังตู้เย็น พร้อมทั้งลิ้นชักใส่ของให้สะอาด จากนั้นใช้ผ้าเช็ดตามจนแห้งสนิท ถ้าลิ้นชักกับชั้นวางสามารถเคลื่อนย้ายได้ ให้ถอดออกมาแล้วนำไปล้างในอ่างล้างจานแทน จะได้ปิดประตูตู้เย็นเพื่อประหยัดพลังงานไปในตัว
2.อ่างล้างจาน
แม้จะเป็นจุดที่เอาไว้ชำระล้างข้าวของเครื่องใช้ในครัว แต่แน่ใจแล้วหรือว่า อ่างล้างจานสะอาดอย่างที่เห็น ? หากไม่มั่นใจก็ควรจะเช็ดอ่างล้างจานด้วยน้ำสบู่ที่เพิ่งผสมขึ้นใหม่ (ไม่ใช่น้ำสกปรกที่เหลือจากการล้างจาน) ทำความสะอาดอ่างล้างจานอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ยังตกค้างออกไป พร้อมทั้งลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
3.อ่างอาบน้ำ
ยังจำภาพความสกปรกของอ่างอาบน้ำก่อนที่จะลงไปนอนแช่ได้หรือเปล่า ? สิ่งสกปรกและคราบสบู่เหล่านั้นจะเพิ่มมากขึ้นไปอีกหากเติมน้ำลงไปโดยไม่ทำความสะอาด และก่อนที่จะลงไปนอนแช่น้ำในอ่างก็กลายเป็นน้ำสกปรกไปแล้ว ฉะนั้นจึงควรทำความสะอาดอ่างอาบน้ำและผนังห้องน้ำอย่างน้อยเดือนละครั้ง ด้วยน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำทั่วไปก็พอ
4.เครื่องชงกาแฟ
ถึงแม้เครื่องชงกาแฟจะดูมีรายละเอียดที่ซับซ้อน แต่การทำความสะอาดนั้นง่ายนิดเดียว แค่เทน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงลงในช่องใส่น้ำ และเปิดเครื่องชงกาแฟให้ทำงานไปตามปกติ ทำซ้ำประมาณ 2 รอบ และล้างตามด้วยน้ำสะอาดอีก 3 รอบ เพื่อกำจัดกลิ่นและรสชาติของน้ำส้มสายชูออกจากเครื่องชงกาแฟให้หมดจด ก่อนเริ่มชงกาแฟครั้งต่อไป
5.ถุงพลาสติกใส่ของ
เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมไม่น้อยสำหรับคนที่รู้จักนำถุงพลาสติกเก่า ๆ กลับมาใช้ใส่ของหรืออาหาร แต่การนำถุงพลาสติกกลับมาใช้ใหม่โดยไม่ได้ทำความสะอาด เสี่ยงต่อการปนเปื้อนกับสิ่งแปลกปลอม หรือสิ่งที่เป็นอันตรายมากทีเดียว ฉะนั้นจึงควรเก็บรักษาถุงพลาสติกให้สะอาด โดยการเช็ดทั้งตะกร้าและถุงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ส่วนถุงผ้าก็ใช้วิธีซักล้างตามปกติ
6.ชามใส่อาหารสัตว์
สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงควรจะทำความสะอาดทั้งชามใส่อาหารและถ้วยใส่น้ำ พร้อมทั้งบริเวณรอบ ๆ ที่ตั้ง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วนบ้านที่เลี้ยงแมวก็อย่าลืมทำความสะอาดพื้นที่รอบ ๆ กระบะทรายของแมวด้วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรีย ก่อนที่แบคทีเรียเหล่านั้นจะขยายเป็นวงกว้าง
7.โคมไฟ
ส่วนเศษฝุ่นที่กระจายไปทั่วตัวครอบโคมไฟ และเป็นสาเหตุที่ทำให้โคมไฟทั้งดูสกปรก แถมยังกระจายแสงสว่างได้น้อยลง สามารถทำให้โคมไฟกลับมาสะอาด และสว่างเหมือนเดิมได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ลูกกลิ้งแถบกาวถูกไปรอบ ๆ โคมไฟ แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้คุณเซอร์ไพรส์
8.สวิตซ์ไฟ
ถึงแม้ว่าจะล้างมือทุกครั้งก่อนออกจากห้องน้ำ แต่สุดท้ายแล้วก็กลับไปสกปรกเหมือนเดิมอยู่ดีหลังจากกดปิดสวิตช์ไฟ จุดเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะสะอาด แต่เป็นจุดที่สกปรกมากอีกจุดหนึ่งของบ้านเลยล่ะ หากไม่อยากให้มือต้องสกปรกซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากล้างด้วยน้ำสบู่ ก็ควรจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดสวิตช์ไฟและบริเวณรอบ ๆ ทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรีย
9.ถังขยะ
บ่อยครั้งที่ในถังขยะมีทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์และคราบต่าง ๆ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของแบคทีเรีย หากยังทำความสะอาดด้วยวิธีเดิม ๆ นอกจากจะเสี่ยงอันตรายจากการปนเปื้อนแล้ว ยังทำให้เหล่าเชื้อโรคเติบโตและแพร่กระจายไปทั่วบ้านด้วย ฉะนั้นทุกครั้งที่เปลี่ยนถุงใส่ขยะ ก็ควรทำความสะอาดถังขยะตามทุกครั้ง เพื่อกำจัดเชื้อโรคไปพร้อมกัน
10.ช่องระบายอากาศ
สำหรับคนที่รู้สึกว่า ช่วงนี้จามบ่อยเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะว่าช่องระบายอากาศสกปรก ซึ่งสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ โดยฉีดน้ำยาทำความสะอาดลงไปบนช่องระบายอากาศ จากนั้นใช้ผ้าคลุมของปลายแหลมเช็ดตามซอกเล็ก ๆ ของตะแกรงบนช่องระบายอากาศทีละช่อง จนกระทั่งสะอาดครบทุกช่อง
Written by Yok Homedeedee