พาชมห้องนอนไซส์จิ๋ว กับวิธีจัดสารพัดมุมต่างๆ ให้เป็นระเบียบ

เรื่องการจัดห้อง จัดบ้านเป็นงานที่ค่อนข้างน่าเบื่อ โดยเฉพาะถ้าเราเป็นคนที่สะสมข้าวของเยอะแยะ และถ้าห้องยิ่งแคบลงๆ ยิ่งยาก แต่คุณ pippopunkie  จากเว็บไซต์พันทิป เธออุตส่าห์มาแนะนำและเปิดห้องนอนไซต์เล็กพร้อมวิธีจัดมุมต่างๆ ในห้องของเธอที่ดูแล้วเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ไปดูกันดีกว่าว่าเธอมีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปค่า~
เราเคยตั้งกระทู้จัดโต๊ะเครื่องแป้งไปได้ไม่นาน เป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่บ้านเก่าสมัยเรายังอยู่ไทย ถ้าสนใจก็แวะไปอ่านกันก่อนได้ค่ะ Makeover: เปลี่ยนโต๊ะเครื่องแป้งสุดรกให้กลายเป็นโต๊ะเรียบหรูดูน่านั่งขึ้น 10 เท่า

ตอนนี้เราย้ายบ้านจากดูไบมาอยู่อาบูดาบีได้หลายสัปดาห์แล้ว ก่อนย้ายออกมาเลยทำวิดีโอพาทัวร์ห้องนอนในบ้านเก่าไว้ เพราะอยากแชร์วิธีการจัดของในห้องนอนและห้องน้ำขนาดเล็กให้เป็นระเบียบ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ กันบ้าง สามารถกดดูวิดีโอได้ด้านล่างนี่เลยค่ะ

เคล็ดลับการจัดห้องส่วนใหญ่เราดูมาจาก AlejandraTV รวมถึง Youtuber ชาวต่างชาติหลายๆ คน เราไม่ได้เน้นว่าต้องจัดห้องให้สวย แต่แค่ให้ข้าวของเป็นระเบียบ ทุกอย่างมีที่เก็บเป็นสัดส่วน เพราะห้องนอนมีขนาดเล็กมากด้วยเลยปล่อยรกไม่ได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์จัดห้อง หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในโพสต์นี้ ถ้าเราหาลิงค์เจอก็จะทำเป็นลิงค์ที่ชื่อผลิตภัณฑ์ไว้ให้นะคะ ส่วนใหญ่ก็ได้มาจาก IKEA และตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ

ภาพรวมห้องนอน

   
มุมนี้ถ่ายจากหัวเตียงฝั่งมุมห้อง ซ้ายสุดเป็นตู้วางทีวี ถัดมาเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ทางขวาข้างประตูเป็นตู้เครื่องประดับ (เราไม่ได้ถ่ายรูปด้านในตู้ไว้ค่ะ แต่ในวิดีโอมีเปิดให้ดูด้านใน ถ้าอยากชมก็กดดูวิดีโอแทนนะคะ)  ส่วนตู้เสื้อผ้าจะเป็นบานประตูสีขาวทางขวาสุดของภาพค่ะ

มุมแรกมาดูมุมโต๊ะเครื่องแป้งกันก่อน

   
เราเคยโพสต์เกี่ยวกับการจัดโต๊ะเครื่องแป้งไปแล้วที่กระทู้นี้ Makeover: เปลี่ยนโต๊ะเครื่องแป้งสุดรกให้กลายเป็นโต๊ะเรียบหรูดูน่านั่งขึ้น 10 เท่า!~ แต่ตอนนั้นเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่บ้านเก่าสมัยที่ยังอยู่ไทย ซึ่งพอย้ายมาดูไบแล้วก็ยังใช้วิธีจัดของคล้ายๆ เดิมอยู่ เปลี่ยนแค่เฟอร์นิเจอร์เท่านั้น

ทางซ้ายของโต๊ะ เราจะมีตู้เก็บของที่เป็นลิ้นชัก 4 ชั้น ด้านบนตู้เราวางกระจกไว้ใช้ส่องใกล้ๆ เวลาแต่งหน้า กับลำโพงไอโฟน ไว้ฟังเพลงเพลินๆ ตอนแต่งหน้า วางแจกันใส่ดอกไม้ปลอมเพิ่มสีสันให้โต๊ะนิดหน่อย และกระบอกใส่แปรงแต่งหน้าซึ่งจริงๆ แล้วเป็นอุปกรณ์ในห้องน้ำ เรามีสองแบบคือ แบบ 3 กระบอก กับ แบบกระบอกเดี่ยว ทั้งหมด 4 ชิ้นไว้ใช้ใส่แปรงต่างขนาด ต่างหน้าที่ แยกเป็นกลุ่มๆ

เปิดลิ้นชักแต่ละอันให้ดูด้านใน

  
1.    ชั้นบนสุด – เก็บแปรง หวี และอุปกรณ์แต่งผมต่างๆ
2.    ชั้นที่สอง – เก็บของจุกจิกต่างๆ ยางรัดผม โบ กิ๊บติดผม น้ำหอมขวดจิ๋ว ฯลฯ โดยเก็บไว้ในกล่องแบ่งช่องเพื่อไม่ให้ของในลิ้นชักปนกันจนหาอะไรไม่เจอ
3.    ชั้นที่สาม – ด้านหน้าเก็บผลิตภัณฑ์ประเภทขวดสูง เช่นพวกแป้งเด็ก โลชั่น ครีมกันแดด สเปรย์ฉีดหน้า ฯลฯ เอาไว้ในกล่องพลาสติก ส่วนด้านหลังๆ เก็บน้ำหอม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งผมที่เป็นขวดสูงมากๆ ก็เอามาวางแนวนอนแทน
4.    ชั้นล่างสุด – ด้านหน้าเก็บพาเลทแต่งตา ส่วนด้านหลังเราเก็บพวกเครื่องสำอางที่ซื้อสำรองไว้ หรือพวก Sample ขวด/ซองเล็กๆ ไว้ในกล่องพลาสติก แยกเป็นสัดส่วน

บริเวณโต๊ะเครื่องแป้ง

โต๊ะเครื่องแป้งนี้จริงๆ เป็นแค่โต๊ะทำงานปกติ เราติดกระจกที่กำแพงกับรางหลอดไฟทั้งสองข้าง และติดตั้งรางวางกรอบรูปแล้วเอาสีทาเล็บสารพัดสีมาวางเรียง (จะล้นแล้ว 55+) ด้านขวาสุดวางแอลกอฮอลล์เจลไว้ทำความสะอาดมือระหว่างแต่งหน้า

ส่วนใต้ราง จากซ้าย เราวางกล่องลิ้นชักอะคริลิคใสจาก Muji สองอัน เอาไว้เก็บขนตาปลอมและอุปกรณ์แต่งหน้า ข้างๆ กันก็วางกล่องทิชชูไว้เช็ดมือ ส่วนทางขวาของโต๊ะจะมีรูกลมๆ ไว้เดินสายไฟ แต่เราเอามาใส่ไดร์เป่าผมได้ลงล็อคพอดี หยิบใช้สะดวกขึ้นเยอะ

ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง

เราใช้ถาดอะคริลิคใสจากร้าน Komonoya มาวางเรียงด้านใน เพื่อแบ่งหมวดหมู่เครื่องสำอาง ที่พื้นลิ้นชักเราใช้แผ่นรองกันลื่นจากร้านไดโซมาวางรองไว้ เวลาเปิดปิดลิ้นชักแรงๆ ถาดจะได้ไม่ขยับ

แถวบนจากซ้ายไปขวา สองช่องแรกเป็นรองพื้น ถัดๆ มาคือไพรเมอร์ คอนซีลเลอร์ แป้ง บลัชกับบรอนเซอร์ และสองถาดขวาคือผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับตาแบบแท่งกับแบบพาเลท/กระปุกเล็กๆ

ส่วนแถวล่างจากซ้ายคือลิปกลอส/ผลิตภัณฑ์สำหรับปากแบบแท่งๆ ถัดมาก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับปาก แต่มีแป้งแซมไว้ด้วยสองตลับเพราะถาดที่ใส่แป้งแน่นหมดแล้ว 55+ ส่วนสองถาดทางขวาเป็นลิปสติกค่ะ

ต่อมาเป็นโซนตู้ข้างเตียง

  
ตู้ข้างเตียงแบบสองลิ้นชัก วางแผ่นกระจกไว้ ด้านบนด้วย บนตู้เราวางเทียนหอม Bath & Body Works ไว้เวลาอยากให้ห้องหอมๆ ก็มาจุด .. วางแจกันดอกไม้ปลอมวางแต่งไว้ข้างๆ กัน .. และมีโคมไฟจาก IKEA ที่เราซื้อแยกฐานกับโคมมาประกอบเองค่ะ

อีกฝั่ง เราวางนาฬิกาปลุกเสียบ ไว้ใต้แผ่นกระจก เวลาอยากดูเวลาตอนมืดๆ ก็ออกแรงกดเบาๆ ไปที่หน้าปัด จะโดนปุ่มเปิดไฟที่ด้านหลังพอดี .. ข้างๆ มีตัวหนีบสายไฟเวลาหยิบสายชาร์จตอนดึกๆ จะได้สะดวกๆ ไม่ต้องไล่หาสายที่กองที่พื้น ส่วนปลั๊กนั่นเราเอาไว้ข้างเตียงเพราะเราชอบอ่าน Ebook ใน iPad ก่อนนอนนิดหน่อย ถ้าเอาไว้ที่พื้นสายชาร์จก็ยาวไม่พอ เลยเอามาไว้ข้างเตียงนี่เลย สะดวกดี .. ถ้าใครกลัวไฟดูดตายระหว่างหลับก็ไม่ต้องทำตามนะ 55+ .. กล่องดำๆ นั่นเป็นลำโพง 5.1 ต่อยาวมาจากทีวี เวลาดูหนังแล้วกระหึ่มรอบห้องดี

เปิดให้ดูลิ้นชักด้านใน

1.ลิ้นชักตัวบน – เราใช้กล่องผ้าจัดระเบียบมา แบ่งเป็น 3 ส่วน ด้านหลังเราเอาไว้ใส่หนังสือที่กำลังอ่าน ณ ช่วงนั้นๆ กับไดอารี่หลายเล่มที่เริ่มเขียนมาตั้งแต่อยู่ป.6 (สอดไว้ข้างๆ นั่นก็ด้วยค่ะ พอดีมีช่องว่างเลยเอามาสอดไว้ให้เต็มๆ) ไว้อ่านเวลาเบื่อๆ อยากคิดถึงอดีต .. ส่วนด้านหน้าฝั่งซ้าย เราเอาไว้ใส่พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคต่างๆ สายชาร์จ เกม DS โทรศัพท์สำรอง หูฟัง ฯลฯ ส่วนแผงยา(แก้โรคกระเพาะไว้กินก่อนนอน)อันนั้นเราโยนลงไปเก็บผิดข้างค่ะ จริงๆ ต้องอยู่ฝั่งขวา ซึ่งเราเอาไว้ใส่พวกอุปกรณ์บิวตี้ต่างๆ ลิปบาล์ม ยาหม่อง ยาดม แผ่นปิดตา ทรีตเมนท์บำรุงหน้าเวลาอ่านหนังสือก่อนนอนดึกๆ ติดพัน แล้วหน้าเริ่มแห้งๆ เพราะแอร์ ก็จะหยดใส่มือมาแปะๆ หน้า

2. ลิ้นชักตัวล่าง – ใช้กล่องผ้าจัดระเบียบมา แยกเป็นสองส่วนเหมือนกัน ด้านหลังเราเก็บน้ำขวดจิ๋วๆ เอาไว้เยอะๆ เวลาดึกๆ ถ้าหิวน้ำจะได้ไม่ต้องเดินลงมาชั้นล่างให้เมื่อย .. ส่วนด้านหน้ากลมๆ สองอันนั่นคือเทียนหอม Bath & Body Works กลิ่นอื่นๆ ค่ะ เวลาเบื่อกลิ่นที่อยู่ข้างโคมไฟก็จะสลับเอากลิ่นอื่นมาจุดแทน เวียนๆ กันไป

ต่อมาเป็นโซนตู้เสื้อผ้า

   
ตู้เสื้อผ้าที่นี่เป็นแบบ Built-in พื้นที่เล็กมาก เราเลยต้องยัดทุกอย่างเข้าไปให้ได้มากที่สุด (ตอนย้ายมาใหม่ๆ คัดเสื้อผ้าออกไปบริจาคหลายถุงเลยค่ะ ไม่มีที่เก็บ)

ฝั่งซ้ายด้านบน เราเก็บพวกกระเป๋าเครื่องสำอาง ด้านในก็ใส่พวกถุงผ้าอันเล็กอันน้อยที่เราใช้แพ็คของเวลาเดินทาง (ดูได้ในกระทู้นี้ค่ะ Howto: แพ็คกระเป๋าไปเที่ยวให้เป็นระเบียบ ทั้งกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง + OOTD)

ตรงกลางตู้จะเป็นส่วนหลักๆ ที่ไว้เก็บเสื้อผ้า เราก็อัดเสื้อผ้าที่จำเป็นต้องแขวนไว้แน่นเลย ทีแรกว่าจะเอาไปบริจาคอีก แต่ไหนๆ จะย้ายแล้ว และบ้านใหม่ตู้ก็ใหญ่ขึ้นเลยยัดแบบนี้ไปก่อน แฮ่ๆ .. ด้านล่างจริงๆ แล้วจะมีแผ่นไม้รองเป็นชั้นไว้ให้หนึ่งชั้น แต่เราเอาออก แล้วไปเอาโครงลิ้นชักจาก IKEA มาใส่แทน จะเก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น ด้านบนก็เอากล่องผ้าจัดระเบียบแบบแบ่งช่องไว้เก็บพวกชุดชั้นใน

ให้ดูด้านในแต่ละลิ้นชัก

  
1. กล่องผ้าจัดระเบียบ – วางไว้ด้านบนสุดของโครงลิ้นชัก ไว้เก็บชุดชั้นใน ขออนุญาตเบลอเพื่อลดความอุจาดค่ะ 55+

2. ลิ้นชักช่องบนสุด – ไว้เก็บเสื้อยืด ซึ่งเสื้อผ้าที่ต้องเอามาใส่ลิ้นชัก เราจะพับซ้อนกันด้านข้างแบบนี้ ไม่วางทับเป็นตั้งๆ จะได้เห็นครบทุกตัว ประหยัดเนื้อที่และหยิบใช้ง่ายกว่ากันเยอะ

3. ลิ้นชักช่องกลาง – ไว้เก็บเสื้อนอน/กางเกงนอน

4. ลิ้นชักอันใหญ่ชั้นล่างสุด – ไว้เก็บกางเกงยีนส์และกางเกงขาสั้น

ตู้ฝั่งขวามือ

      
ตู้ฝั่งขวานี่เราจะเอาไว้เก็บกระเป๋าและรองเท้าเป็นหลัก เพราะเนื้อที่ในห้องไม่มีที่พอจะวางตู้เก็บรองเท้าแล้ว เลยต้องมาแบ่งช่องวางเป็นสัดส่วนในตู้ค่ะ .. จริงๆ แล้วตู้เดิมจะมีแผ่นไม้วางเป็นชั้นๆ ไว้ให้ แต่เราเอาออกไปอันนึง แล้วยกอันนึงไปวางไว้บนโครงชั้นวางรองเท้าสีครีม ดูลงตัวกว่า

ชั้นบนสุดเราวางกระเป๋าที่ต้องรักษารูปทรง กับตะกร้าผ้าทางขวามือที่ได้มาจากร้านไดโซที่ดูไบ เอาไว้เก็บกระเป๋าคลัช กระเป๋าใบเล็กๆ .. ส่วนชั้นถัดมาเราวางกระเป๋าที่ไม่จำเป็นต้องรักษารูปทรง ใบไหนที่เป็นกระเป๋าผ้าที่จะทรงย้วยๆ หน่อย เอามาวางเรียงไม่อยู่ก็เอาเก็บไว้ในกระเป๋าผ้าใบใหญ่สุดทางซ้าย

โซนรองเท้า

    
พอดีว่าเรามีโครงชั้นวางรองเท้าอยู่แล้ว และคิดว่าเวลาเอามาตั้งข้างนอกมันดูไม่ค่อยสวยไงไม่รู้ เลยเอาไปเก็บเข้ากรุไว้นานเลย พอตอนจัดห้องใหม่เพิ่งเห็นถึงประโยชน์ เลยเอามาวางซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า ใช้วางรองเท้าได้หลายคู่เลย แต่ชั้นวางจะแคบหน่อย วางรองเท้าสองคู่เรียงกันไม่ได้ เลยต้องวางสับหว่างแบบนี้ จะเก็บรองเท้าได้เยอะกว่าเดิมค่ะ .. ส่วนทางขวามือที่เห็นเป็นโครงเหล็กนั่นคือชั้นวางของแบบพับขาได้ที่เราได้มา จากร้านไดโซในดูไบเหมือนกัน เอามาวางเรียงเป็นชั้นๆ ใช้วางรองเท้าได้ลงตัวพอดี

เปิดลิ้นชักของตู้ให้ดูด้านใน

  
1. ลิ้นชักแรก – แถวหน้าเก็บเสื้อกล้ามเรียบๆ .. แถวหลังเก็บเสื้อผ้าออกกำลังกาย

2. ลิ้นชักกลาง – แถวหน้าสุดเก็บถุงเท้าที่จับคู่เป็นก้อนๆ ไว้ให้หยิบใช้ง่าย .. แถวกลางเราเอากล่องเหล็กคุ้กกี้ทรงยาวมาวางได้พอดี เลยเอาเข็มขัดมาม้วนเก็บ เพราะเวลาเอาไปแขวนที่ราวแล้วห่วงกลางเข็มขัดชอบตกหายตลอด .. ส่วนแถวหลังเราเอาเข็มขัดแบบสั้นๆ เข็มขัดเดรสมาวางเรียง

3. ลิ้นชักล่างสุด – เราเอาไว้เก็บพวกชุดว่ายน้ำ เชือกรองเท้า หมวกบีนนี่ ถุงมือ/เลกกิ้งหน้าหนาว ซึ่งเป็นของที่ไม่ได้หยิบมาใช้บ่อยมาก เลยเอามาวางให้เป็นสัดส่วนเฉยๆ ไม่ได้จัดเรียงให้หยิบง่ายเหมือนชั้นอื่นๆ

   
ที่ประตูตู้ เราติดราวแขวนสองแบบ .. อันบนเป็นแบบมีขอเกี่ยวเอาไว้แขวนหมวก ส่วนอันล่างเป็นราวธรรมดาเอาไว้แขวนผ้าพันคอ ทั้งสองแบบเป็นแบบติดเทปกาวและมีตะปูเล็กๆ ติดมาให้เพื่อให้รับน้ำหนักได้ดีขึ้น เราซื้อมาจากร้าน HomesRUs ที่ดูไบค่ะ


ต่อไปจะพาไปดูห้องน้ำกัน

     

ห้องน้ำเล็กๆ เปิดประตูเข้ามาจะเจออ่างล้างหน้าทางขวามือก่อน

เราวางกล่องลิ้นชักสีขาวไว้ 4 อัน เป็นกล่องใส่รองเท้าแบบลิ้นชักได้มาจากเซ็นทรัล ฝั่งซ้ายวางแปรงสีฟันไฟฟ้ากับแท่นชาร์จ ส่วนฝั่งขวาวางสกินแคร์ต่างๆ ที่ใช้ทุกวัน .. ข้างๆ ลิ้นชักซ้ายมือก็วางเจลล้างมือ กระบอกใส่ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งเป็นข้าวของที่มักเปียกเสมอๆ เลยวางไว้ข้างล่าง

ตอนแรกวางกล่องลิ้นชักฝั่งละสองชั้น แต่สายชาร์จแปรงสีฟันไฟฟ้าทางซ้ายนั่นมันสั้นไปหน่อย เลยต้องเสริมฝั่งซ้ายให้สูงกว่า สายชาร์จจะได้ใกล้ปลั๊กขึ้นค่ะ

ด้านในลิ้นชักฝั่งซ้ายมือทั้งสามอัน

   
1. กล่องบนสุด – เราเอาไว้เก็บพวกอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ต่างๆ ที่ใช้บ่อยๆ สายชาร์จแปรงสีฟัน เครื่องถอนขน บลาๆ แยกใส่กล่องใสที่ได้มาจากเซ็นทรัลเหมือนกัน

2. กล่องกลาง – แผ่นมาสค์หน้าที่ตุนเอาไว้ค่ะ

3. กล่องล่างสุด – อุปกรณ์ต่างๆ แยกใส่กล่องใสเป็นสัดส่วน มีผ้าคาดผมตอนล้างหน้า หวีแปรง สำลีแผ่น คัตตอนบัด ไหมขัดฟันแบบใช้แล้วทิ้ง

ฝั่งขวาเราวางพวกสกินแคร์ที่ใช้บ่อยไว้ด้านบนค่ะ

ในลิ้นชักก็ใส่พวกผลิตภัณฑ์รักษาสิว อุปกรณ์เกี่ยวกับผิว และมาสค์หน้าแบบกระปุกๆ

ถัดมาเป็นโซนตู้ใต้อ่างล้างหน้า
เราพยายามหาวิธีที่จะจัดการกับตู้ใต้อ่างล้างหน้าว่าจะทำไงดีให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มที่สุด จนมาลงตัวที่แบบในภาพค่ะ

เราวางกล่องลิ้นชักใสแบบก้นลึกแยกเก็บของต่างๆ ส่วนฝั่งซ้ายมือบนสุดเราวางตะกร้าหวายไว้ใส่พวกผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาตุนไว้ (รู้สึกว่าจะตุนทุกสิ่งอย่าง 55+) ส่วนใหญ่เป็นแบบขวดสูงๆ .. ด้านขวาบนสุดก็วางหน้ากระดาษแม็กกาซีนเก่าๆ ไว้ห่อผ้าอนามัยใช้แล้ว

ข้าวของในลิ้นชักแต่ละอันไล่จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง

  
1. กล่องซ้ายสุด – เก็บผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาตุนไว้ที่เป็นแพ็คเกจขนาดเล็กๆ และขวดแบ่งขนาดต่างๆ ไว้ใช้เวลาเดินทาง

2. กล่องแถวกลางอันบน – เก็บมีดโกนสำรอง แปรงสีฟันสำรอง

3. กล่องแถวกลางอันล่าง – เก็บสำลีแผ่นสำรอง อุปกรณ์ดัดผม ถุงมือล้างแปรงแต่งหน้า กระเป๋าใส่ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำเวลาเดินทาง บลาๆ อะไรหาที่ลงไม่ได้ก็จะโยนมาใส่กล่องนี้ 55+

4. กล่องแถวขวาอันบนสุด – เก็บผ้าอนามัยแบบต่างๆ

5. กล่องฝั่งขวาอันกลาง – เก็บทิชชู่สำรอง .. เหลืออันสุดท้ายแล้ว จริงๆ จะเก็บได้ 6 ม้วนค่ะ

6. กล่องฝั่งขวาอันล่างสุด – เก็บพวกกล่อง แก้วใส่ของ ถาดวางสบู่ บลาๆ ที่ไม่ได้ใช้

2. หันมาทางฝั่งซ้ายของห้องน้ำ ด้านซ้ายของภาพเราแขวนผ้าขนหนูคลุมผม กับตระกร้าผ้าถักจาก IKEA ไว้ใส่ผ้าขนหนูเช็ดหน้าที่ใช้แล้ว เตรียมไว้ซักแยก .. ด้านล่างเป็นถังขยะ .. ถัดมาตรงกลางเป็นตระกร้าใส่เสื้อผ้ารอซักแบบมีฝาปิดที่ได้มาจากร้าน HomesRUs ในดูไบ .. ถัดไปทางขวาเป็นชั้นวางของล้อเลื่อนจากร้าน Home Centre ในดูไบ

   
3. ชั้นบนสุดวางผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ใช้แทบทุกวัน .. ชั้นที่สองวางผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่บ่อยมาก .. ชั้นที่สาม วางผ้าขนหนูเช็ดหน้าที่เราจะเก็บซักทุกครั้งหลังใช้เสร็จ .. ชั้นล่างสุด วางหมวกอาบน้ำแบบฟอยล์ที่ได้มาจากไดโซ ไว้ใช้เวลาหมักผมค่ะ

ภาพสุดท้ายแล้ว เราวางนาฬิกาตั้งโต๊ะไว้ที่หลังชักโครก เวลาอาบน้ำจะได้ชะโงกดูได้ว่าเลทรึยัง (เลทตลอดแหละ ไม่ต้องห่วง 55+)

ตอนนี้เราก็ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ได้เกือบเดือนแล้ว แต่ยังจัดของไม่ลงตัวเพราะพื้นที่เก็บของไม่เหมือนที่เก่า เลยต้องคิดหาไอเดียใหม่ๆ มาใช้ เอาไว้ถ้าจัดเสร็จเรียบร้อยจะพาชมกันค่ะ

ถ้าเพื่อนๆ มีข้อสงสัย คำถาม หรือแค่อยากแชร์วิธีการจัดของบ้างก็โพสได้ที่ช่องคอมเมนท์ด้านล่างเลยนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาชมกระทู้เราค่า

ติดตามเรื่องราวต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ pippopunkie.com