THE LITTLE CRAFT BRANDS รวม 6 แบรนด์งานฝีมือที่ไม่ควรพลาด
แบรนด์ยิ่งใหญ่ระดับโลกหลายแบรนด์มีจุดเริ่มต้นมาจากระดับท้องถิ่นหรือแม้แต่ในระดับหมู่บ้าน สิ่งที่ทำให้แบรนด์เหล่านั้นเติบโตมาอย่างยาวนาน นั่นเป็นเพราะสินค้ามีคุณค่ามากกว่าตัวของมันเอง หากแต่เป็นตำนาน มีเรื่องราว และกระบวนการผลิตที่ละเมียดละไม ทำให้ผู้บริโภคยินดีควักเงินจำนวนมหาศาล เพื่อซื้อของชิ้นนั้นมาไว้ในครอบครอง ซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว
และด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ล้ำหน้า โซเชียลเน็ตเวิร์คช่วยให้ผู้ผลิตมีช่องทางในการนำเสนอสินค้ามากขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย สามารถบอกเล่าความเป็นมาได้ลึกซึ้งกว่าเดิม rผ่านรูปแบบร้านค้าออนไลน์ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงใช้เป็นสื่อช่วยกระจายข่าวการจัดตลาดนัดงานฝีมือ และสตูดิโอเวิร์คชอปที่มีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
สิ่งเหล่านี้ทำให้เหล่าผู้หลงใหลงานฝีมือสามารถเปิดเผยตัวตนจนกลายเป็นผู้ผลิตสินค้าที่น่าจับตามอง ทีมงาน room จึงได้คัดเลือก 6 แบรนด์ สินค้างานฝีมือ ที่กำลังสร้างตัวเองขึ้นบนพื้นที่เล็ก ๆ ผลิตสินค้าด้วยความตั้งใจ มีคุณภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงมีเรื่องราวความเป็นมา และกระบวนการทำที่น่าหลงใหล จนแทบจะกลายเป็นงานสะสมที่คุณต้องรีบคว้าไว้ก่อนใคร ๆ เพราะพวกเขากำลังเติบโตจนฉุดไม่อยู่ในขณะนี้
1. TITLE GOODS
แบรนด์ผลิตภัณฑ์เซรามิกให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ร่วมสมัย เปิดตัวเมื่อปี 2013 เน้นสร้างลวดลายด้วยรูปทรงเรขาคณิตเข้าถึงง่าย อย่างลายจุด วงรี สี่เหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด พร้อมถาดลองไม้สักธรรมชาติ
เซรามิกเป็นงานแฮนด์เมดที่มีกระบวนการซับซ้อน และมีความละเมียดอ่อนอยู่ในตัว ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นในแก้วทุก ๆ ใบ สิ่งพิเศษกว่านั้นคือ ในขั้นตอนการทำลวดลาย ได้เว้นช่องทีละช่องก่อนชุบน้ำเคลือบ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทนมากกว่าการชุบน้ำเคลือบธรรมดา ทั้งยังให้ความรู้สึกสม่ำเสมอดูสมมาตร เป็นลวดลายที่ตอบโจทย์การแต่งบ้านได้อย่างดี
ราคา 450-550 บาท
ติดต่อ
TITLE GOODS
โทร. 08-1696-1599
www.facebook.com/titlegoods
2.OLD HAND STUDIO
สัตว์น้อยใหญ่หล่อขึ้นจากเรซินเหล่านี้ ดูมีชีวิตอย่างประหลาด ทั้งความรู้สึก อารมณ์กวน ๆ และมีบุคลิกเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าก่อนจะหล่อขึ้นรูปด้วยเรซิน จากก้อนดินต้นแบบ ศิลปินได้บรรจงปั้นแต่ง แปะ ติด ขูด ปรับแต่งอย่างละเอียดแม้กระทั่งเส้นขน ผลงานทุกชิ้นจึงไม่ใช่แค่ของแต่งบ้าน แต่เป็นงานประติมากรรมที่มีคอนเซ็ปต์ชัดเจน เใช้เวลาการสร้างสรรค์ด้วยมืออย่างประณีตทุกขั้นตอน
งานปั้นเป็นงานที่มีเสน่ห์ เพราะเป็นงานสามมิติที่ต้องมองเห็นได้รอบด้าน จึงต้องใช้ความละเอียดสูง และแฝงไว้ด้วยลายเส้นตามเทคนิคเฉพาะของนักปั้นแต่ละคน บางชิ้นถึงกับมีลายนิ้วมือของศิลปินติดอยู่ด้วย สัตว์แต่ละตัวของแบรนด์นี้จึงมีลักษณะและหน้าตาแตกต่างกันไป เหมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องราวตามอารมณ์และสถานการณ์ของนักปั้นขณะนั้น
ราคา 1,000-10,000 บาท
ติดต่อ
จตุจักรพลาซ่า (JJ Plaza ) โซน B, ซอย 2 ,ห้องเลขที่ 137
โทร. 08-9117-1775
www.facebook.com/oldhandstudio
3. HARE & HOUNDS
แบรนด์เครื่องหนังแฮนด์เมดผลิตจากหนังฟอกฝาด หนังวัวที่ผ่านการฟอกสีด้วยวัสดุธรรมชาติ และยังใช้วิธีตากแดดให้แห้งตามธรรมชาติ คุณสมบัติของหนังชนิดนี้มีความหนาหลายขนาดตั้งแต่บางมากไปจนถึงหนามาก จึงสามารถผลิตสินค้าได้หลากหลาย ตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องแต่งกาย ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ โดยสีของหนังจะเปลี่ยนไปตามการใช้งาน นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งให้แก่ชิ้นงาน
ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและความคลาสสิกของสี ทำให้เครื่องหนังแบรนด์นี้เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย และไม่เป็นสองรองใครในเรื่องรายละเอียดการเย็บที่เน้นคุณภาพ มีความทนทานสูง และเย็บด้วยมือทุกชิ้น จึงสามารถเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดีกว่าการเย็บจักร ถ้าใครชอบงานหนังเนี้ยบ ๆ ละก็ ขอรับรองว่าแบรนด์นี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
ราคา 100-3,500 บาท
ติดต่อ
HARE & HOUNDS
โทร. 08-1832-2633
www.facebook.com/hah.studio
4. FATCAT
สำหรับคนที่ติดตามแบรนด์เฟอร์นิเจอร์แบบแฮนด์คราฟท์ คงจะรู้จัก FATCAT ในชื่อของงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม่เพียงหยุดอยู่แค่นี้ แต่ยังผลิตหมอนพิมพ์ลายออกมาวางจำหน่าย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามเช่นเคย เพราะยังคงรักษาความเป็นงานคราฟท์เอาไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย จากการขึ้นลายด้วยสีน้ำที่ต้องใจเย็นและละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ
แม้คอลเล็คชั่นของหมอนพิมพ์ลายใบไม้นี้จะดูหลุดออกมาจากความขี้เล่นสนุกสนานแบบ FATCAT ไปบ้าง แต่กลับช่วยขยายตลาดไปสู่วงกว้างและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ลายธรรมชาติที่ดูสบายตาเป็นความสวยงามที่ลงตัว เพียงนำไปวางบนโซฟาสักตัวก็กลายเป็นของตกแต่งบ้านได้ทันที อีกทั้งยังเลือกใช้วัสดุคุณภาพ อย่าง ใยบอล (ball) ที่ไม่จับตัวเป็นก้อน และคืนรูปง่าย ส่วนปลอกหมอนก็ผลิตจากไมโครไฟเบอร์ให้สัมผัสนุ่มสบายทำความสะอาดง่าย เรียกได้ว่าเป็นหมอนอิงที่ใช้งานได้จริง และยังสวยงามเหมือนงานศิลปะ
ราคา 900-1,390 บาท
ติดต่อ
FATCAT
สุขุมวิท 50 กรุงเทพฯ
โทร. 08-1623-4654
www.facebook.com/fatcatfurniture
5 IF I WERE A CARPENTER
แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้สุดเท่สไตล์รัสติกผลิตจากไม้เก่า ให้สีและลวดลายเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เน้นดีไซน์เรียบ ๆ เพื่อโชว์ผิวไม้เต็มที่ ให้ความรู้สึกเป็นงานคราฟท์ตั้งแต่ระบวนการเฟ้นหาไม้เก่าทีละแผ่น ออกแบบให้เข้ากับไม้แต่ละแบบ ไปจนถึงการเก็บงานขัดหน้าไม้ก่อนส่งถึงมือลูกค้า
ข้อดีของไม้เก่าคือเมื่อนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เนื้อไม้จะยืดหดบวมน้อยกว่าไม้ใหม่ ทั้งยังมีร่องลอยที่กลายเป็นเสน่ห์ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ไม้ทุกแผ่นล้วนมีที่มาและเรื่องราวในตัวเอง เช่น อาจเคยเป็นบ้านสักหลังในต่างจังหวัด ผู้ซื้อสามารถสอบถามกับทางร้านได้ทุกชิ้น
ราคา 650-40,000 บาท
ติดต่อ
If I were a carpenter.
ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 แยก 12
โทร. 08-5754-2828
www.ifiwereacarpenterbkk.com
6. The Archivist
จากคำถามที่ว่ากราฟิกดีไซเนอร์สามารถจบงานด้วยตัวเองทั้งกระบวนการได้ไหม นำมาสู่พริ้นต์สตูดิโอที่เชื่อมโยงงานดิจิตัลและงานแฮนด์เมดให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
สกรีนพริ้นต์เป็นหนึ่งในเทคนิคอันหลากหลายของงานภาพพิมพ์ ใช้วิธีการฉายฟิล์ม ขึ้นบล็อก และสกรีนลงบนกระดาษ ซึ่งต้องมีความเชี่ยวชาญพิเศษในการแยกสีออกเป็นเลเยอร์ ภาพที่ได้จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีการทำซ้ำในจำนวนจำกัด จึงเหมาะเป็นงานสะสมไปในตัว
นอกจากที่นี่จะมีงานออกแบบโดยสตูดิโอเองแล้ว ยังมีโปรเจ็คท์ร่วมมือกับศิลปินหลากหลายแขนงเพื่อสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นปกแผ่นเพลง สมุด ภาพถ่าย ไปจนถึงกราฟิกดีไซเนอร์คนอื่น ๆ ที่สนใจทดลองถ่ายทอดงานเป็นสกรีนพริ้นต์รูปแบบใหม่ นอกจากคนทำงานจะสนุกที่ได้ทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ แล้ว คนซื้อก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นงาน พริ้นต์ที่เหนือความคาดหมาย ผลิตออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ
ราคา 100-20,000 บาท
ติดต่อ
The Archivist
ซอยสุขสวัสดิ์ 25/1 แยก 5
โทร. 08-4066 -4960
www.thearchivist.co
ที่มา
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ