ถึงเวลาเอาใจสาวหัวใจมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งกันแล้วนะคะ สำหรับคุณ MHEESKA จากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอมนั้นเป็นอีกสาวที่ดูแล้วน่าจะทำงานสไตล์อาร์ตๆ หน่อย แต่เธอก็แอบมีมุมหวานใส จากห้องพักเดิมที่อาจจะของไม่เยอะ แต่พออยู่ๆ ไปกลับมีของเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอจึงเกิดไอเดียจัดการกับห้องพักของเธอ Sanook! Home เลยนำเนื้อหาการตกแต่งห้องพักของเธอมาเป็นตัวอย่างให้สำหรับคนที่คิดจะตกแต่งห้องพัก คอนโดมิเนียม บ้านที่อาจจะมีพื้นที่เล็ก มาดูกันสิว่าเธอมีไอเดียอย่างไรบ้าง

เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วเคยรีวิวการแต่งห้องไว้ค่ะ http://pantip.com/topic/30978693
เมื่อเวลาผ่านไป ซื้อของเข้าห้องทุกเดือนๆ ของก็เยอะขึ้นค่ะ รกกว่าเดิมเยอะเลย 555
แต่ก็ยังอยากแชร์วิธีแต่งห้อง / เก็บของสไตล์คนญี่ปุ่นอีกครั้ง เลยขอมารีวิวอัพเดทห้องอีกรอบค่ะ

ตอนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น จองที่พักจาก airbnb เลยได้พักห้องพักของคนญี่ปุ่นจริงๆ
เลยเก็บเกี่ยววิธีการจัดของจากคนญี่ปุ่นมาบ้าง แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเอง

ขอเกริ่นนิดนึงก่อนค่ะ เราอาศัยอยู่บ้านกับครอบครัว แต่ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในห้องนอน
เลยทำให้มีของในห้องนอนเยอะมาก เป็นคนเยอะในบางเรื่องด้วยค่ะ
เช่น จะทานแต่น้ำเย็น ไม่ชอบน้ำอุณหภูมิห้อง เลยต้องมีตู้เย็นเล็กในห้องด้วย
งานอดิเรกคือวาดรูป อ่านหนังสือ มีบางครั้งรับงานฟรีแลนซ์มาทำที่บ้าน Workspace จึงสำคัญมาก
เพราะการที่เราจะนั่งทำงานที่บ้านแล้วมีความสุข พื้นที่นั้นต้องเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ
และที่สำคัญ เราเลี้ยงแมวด้วยค่ะ ทำให้ปัญหาเรื่องฝุ่น ขนแมว ค่อนข้างมีเยอะ
เราก็แก้ไขเรื่องความสะอาดของสิ่งของโดยการใช้กล่องแบบมีฝาซะเยอะ
รวมถึงกวาดห้องดูดฝุ่นทุกวัน ส่วนถูบ้าน ถ้าไม่ยุ่งก็จะ 2-3 วันครั้ง ถ้างานยุ่งก็จะสัปดาห์ละครั้ง

เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นไม้สีบีช เพราะทำให้ห้องดูอบอุ่น สบายตาดี
เฟอร์นิเจอร์ในห้องส่วนใหญ่ซื้อตามร้านโชว์ห่วยทั่วไปค่ะ เพราะหาตามโฮมโปรหรือร้านขายเฟอร์นิเจอร์ดังๆ จะไม่ค่อยเจอตามที่ตั้งใจ

เริ่มต้นกันที่

โซนห้องนอน

จริงๆ ไม่ใช่คนชอบสีชมพูค่ะ แต่ตอนที่เลือกซื้อเครื่องนอนมีแต่สีโทนชมพูที่รู้สึกว่าเข้ากับไม้สีบีช
เลยเลือกสีชมพูอ่อนๆ มา และเป็นคนนอนกับแมวด้วย เลยต้องมีที่นอนสำหรับแมวนิดนึง
(ตุ๊กตาคุมะบนหนังสือการ์ตูน ตั้งใจเอามาเป็นหมอนข้างค่ะ แต่...โดนแมวยึด)

ไปเจอธงกิ๊บเก๋ที่งาน Container Market ที่จัดทุกๆ ฤดูหนาว เห็นว่าน่ารักดี ราคาไม่แพง
แถมให้ห้องดูสดใสขึ้นด้วย เลยสอยมาแต่งห้องซะเลย
นาฬิกาสีขาวด้านบนจับฉลากได้มาจากงานปีใหม่ค่ะ แต่เห็นว่ามีขายที่เดอะมอลล์นะ

ช่วงนี้ติดการ์ตูนหนักมากค่ะ 555
เลยเอาการ์ตูนส่วนหนึ่งที่อยากอ่านซ้ำๆ จัดไว้ตรงหัวเตียง เผื่อกลางคืนนอนไม่หลับ ก็หยิบมาอ่านได้สะดวก
มี Tips เล็กๆ ในการแต่งห้องใส่ไปในภาพบ้างนะคะ อย่างเช่นในภาพพูดถึงเรื่องหมอน
เราเป็นคนหนุนหมอน 2 ใบ เมื่อก่อนก็ใช้หมอนธรรมดา 2 ใบซ้อนกัน แต่ไปเดินสำเพ็งเจอหมอนตุ๊กตา น่าสนใจดี
เลยนำมาหนุนให้ 2 Layers มันแตกต่างกันหน่อย ดูไม่จำเจ

ปกติเป็นคนไม่ชอบนอนในห้องมืดค่ะ ต้องมีแสงไฟสักนิด
ไปเจอโคมไฟมุ้งมิ้งที่สำเพ็งอีกเช่นกัน เอาไว้เปิดเวลานอน เวลาสะดุ้งตื่นจะได้ไม่ตกใจที่ห้องมืด
หนังสือที่ตอนนี้กำลังอ่านอยู่ เราแยกออกมาจากกองรวม เพื่อที่จะได้หยิบสะดวกขึ้น

มาต่อที่
โซนชั้นหนังสือ, ชั้นวางของ

สังเกตได้เลยค่ะ ว่าของ...แน่นมาก 555 (ซื้ออะไรเยอะแยะเนี่ยเธอ)

เจาะลึกตรง โซนเครื่องแต่งตัว, ครีมประทินผิว
เราจัดว่าเป็นคนที่เครื่องประดับกับของประทินผิวน้อยกว่าผู้หญิงคนอื่นนะคะ
ของเลยมีแค่นี้ ลิ้นชักเลือกใช้ลิ้นชักพลาสติกที่มองเห็นของด้านในได้
จะได้ไม่ต้องจำว่าชั้นไหนเป็นอะไร มองผ่านๆ ก็รู้แล้วว่าต้องเปิดชั้นไหน
ส่วนด้านบนลิ้นชัก วางครีม แป้ง โลชั่นต่างๆ ให้หยิบได้ง่ายขึ้น

ด้านในลิ้นชัก เราก็ใช้กล่องเล็กๆ วางลงไปอีก เพื่อแยกประเภทของได้ชัดเจน
จะได้ไม่ต้องวางรวมๆ กันแล้วรก เก็บง่าย หยิบง่าย

บนชั้นวางหนังสือ คือพื้นที่ๆ สามารถเก็บของได้คุ้มสุดๆ
กล่องบนชั้น ซื้อจาก Komonoya (โคโมโนยะ เซนทรัลพระราม 9) และ B2S ค่ะ

โลชั่นและครีมต่างๆ อันที่หยิบใช้บ่อยเอาไว้ด้านนอก
ส่วนในกล่องไม้ด้านหลังเป็นอันที่หยิบใช้บ่อยน้อยกว่าค่ะ

ชั้นวางหนังสือ ตอนนี้คือเต็มแน่นเอี๊ยดแล้ว เราใช้วิธีการวางซ้อน 2 แถวด้วย
หนังสือเล่มไหนมีความกว้างน้อย เราก็รวมประเภทแล้วแยกออกมา จะได้วางอยู่ด้วยกันได้
ดูเป็นระเบียบดีด้วยค่ะ

เราจะมีช่องๆ นึงเอาไว้วางของจุกจิก เช่น มือถือ
เวลากลับมาบ้านเราไม่ชอบเอามือถือไว้บนเตียง เพราะนอนกลิ้งไปมาแล้วจะหาไม่เจอ
เลยจะวางไว้ที่จุดนี้ก่อนค่ะ ส่วนบนหนังสือถ้าว่างๆ ก็วางของอย่างอื่นได้
แต่ถ้ามีเวลาเหลือ แนะนำให้เก็บของเข้าที่ดีกว่านะคะ ตรงนี้เป็นแค่จุดพักของเท่านั้น

ถัดมานิดหนึ่ง ตรงประตู
ไปเจอไอเทมอันแสนชาญฉลาดจากอีเกียในราคา 99 บาทเท่านั้น
ขอบอกว่ามันทำให้เก็บของได้คุ้มค่ามากค่ะ เอาไว้แขวนกระเป๋าต่างๆ ได้
(บางวันการแต่งกายของผู้หญิง ต้องเปลี่ยนกระเป๋าเพื่อให้เข้ากับชุดด้วยค่ะ)
ส่วนใบอื่นๆ เราจะมีห้องเก็บของในบ้านแยกค่ะ แขวนไว้เฉพาะใบที่ใช้บ่อย

โซนสัตว์เลี้ยง
เลือกใช้กรงพับได้ แบบเดียวกัน เพราะวางซ้อนต่อกันได้ ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

ขยับมานิดตรงปลายเตียง
ชั้นไม้ปลายเตียงอะแด๊ปมาจากชั้นวางหนังสือแถวเดียวอันเก่าค่ะ
เผอิญว่าซื้อกล่องจากโคโมโนยะแล้วมาเสียบในช่องได้พอดี เลยเป็นที่เก็บของ
ส่วนตะกร้าผ้าเตรียมซักก็วางไว้หน้าตู้เสื้อผ้าเลย จัดเป็นหมวดหมู่ไป

Workspace
โซนที่เราชอบที่สุดในห้อง และ...เปลี่ยนการจัดวางบ่อยมาก 555

เรามีคติอยู่ว่า ถ้าจะต้องมีมุมทำงานในห้อง มุมนั้นต้องน่ารักที่สุด
และหยิบใช้ของได้สะดวกที่สุด

ชั้นต่างๆ ซื้อจากตลาดนัดรถไฟ, ไดโซะ, โคโมโนยะค่ะ
เลือกซื้อชั้นไม้ที่มีสีคล้ายคลึงกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ทำให้ห้องสไตล์ไม่หลุดจากกัน

คราวที่แล้วเราเก็บเทปในกล่องไม้ แต่ตอนนี้เทปงอกค่ะ 555
เลยหาซื้อชั้นดีๆ มาวางซะเลย หยิบใช้ง่ายด้วย แต่ราคาแอบแรงนิดนึง สีสวยเลยยอมควักกระเป๋าจ่าย

ลิ้นชักไม้นี้ซื้อที่ไดโซะสาขาสีลมคอมเพล็กซ์ค่ะ
1 เซ็ต คือ 3 ชิ้น (ลิ้นชัก 2 + กล่องไม้ 1 = 180 บาท)

อุปกรณ์ประดิดประดอย งาน craft ต่างๆ เราเลือกใช้ลิ้นชักใสในการเก็บค่ะ
เพราะแต่ละชั้นเราสามารถแยกประเภทได้ และหยิบได้ง่ายเพราะมองเห็นจากข้างนอกด้วย
ที่สำคัญ ดูสวย ไม่แพง และไม่หลุดจากสไตล์ของห้องค่ะ

ตอนไปญี่ปุ่น หยอดกาชาปองมาเยอะมากค่ะ ตัวไหนมาเป็นเซตเราก็จับมาแต่งห้องซะเลย
แต่วางเฉยๆ ก็ดูธรรมดาไป เอากล่องไม้มาวางด้วยกัน ดูมุ้งมิ้งขึ้นเยอะ

ด้านบนลิ้นชัก ใช้กล่องมีฝาปิดวางเก็บของได้ค่ะ
แต่ควรเก็บของที่นานๆ ใช้ทีเท่านั้น เพราะถ้าต้องหยิบใช้บ่อยๆ น่าจะลำบากเกินไป

ด้านหลังพนักพิงเก้าอี้ ใช้ตะขอตัวเล็กมาแขวน ทำให้เราแขวนผึ่งเสื้อผ้าได้ด้วย
(จริงๆ มีแขวนยกทรงด้วยค่ะ แต่ก่อนถ่าย ขอนุญาตเอาออก ไม่ทำร้ายสายตาผู้อื่น 555)
จุดนี้เราจะเอาไว้แขวนกางเกงที่ใส่ 2-3 ครั้งซักหนนึง หรือชุดนอนที่ใส่ 2 คืนค่อยซัก (แลดูซกมก)

อันนี้เป็นไอเทมที่ฟลุ๊กมาก ไปเจอที่ร้านโชว์ห่วยยูเนี่ยนมอลล์
ร้านที่ขายทุกอย่าง 20 บาทค่ะ ได้แท่นแขวนมา 20 บาท ดอกไม้ปลอมอีก 29 บาท คุ้มมาก ชอบมาก

ปิดท้ายด้วยมุมตู้เสื้อผ้านะคะ (ขออนุญาตให้ดูแต่นอกตู้ ด้านในของผู้หญิงเย๊อะ...เยอะ)

เราเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าที่มีกระจกติดอยู่เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องใช้โต๊ะเครื่องแป้ง
ยืนแต่งตัวไม่ลำบาก แถมส่องได้ครึ่งตัวด้วย (ก็เพียงพอแล้วล่ะ)
ที่สำคัญ กระจกนี้ทำให้ห้องเราดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ จริงๆ ห้องเล็กมากๆ แต่ได้กระจกช่วยให้ดูสบายตา
ด้านบนตู้เสื้อผ้า ซื้อลังพลาสติกมาเก็บของต่างๆ ได้อีกมุมนึงด้วยค่ะ

หลายๆ ท่านอาจจะนำไอเดียที่เราแต่งห้องไปปรับใช้กับตัวเองได้ไม่มากก็น้อย
แต่ขอขอบคุณที่รับชมค่ะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการตกแต่งพื้นที่ส่วนตัวกันนะคะ

ความสุขง่ายๆ เริ่มต้นได้ที่ห้องของเราค่ะ ^^

แต่งห้องสไตล์สาวมุ้งมิ้ง จากห้องรกๆ ก็เก็บให้เป็นระเบียบได้

แต่งห้องสไตล์สาวมุ้งมิ้ง จากห้องรกๆ ก็เก็บให้เป็นระเบียบได้37 / 42

แต่งห้องสไตล์สาวมุ้งมิ้ง จากห้องรกๆ ก็เก็บให้เป็นระเบียบได้