รีวิวของถูกและดี IKEA DIY Build-in ห้องทำงาน ห้องเก็บของแต่งตัว งบไม่เกิน 30000
ไอเดียการตกแต่งห้องทำงาน ห้องเก็บของและห้องแต่งตัวของคุณปุ้ย ซึ่งเธอเป็นบล็อกเกอร์ด้านความงามและการตกแต่งบ้านจากบล็อค Pui is me ผลงานด้านการตกแต่งบ้านของเธอน่าสนใจและมีสไตล์มาก โดยเฉพาะกับการ DIY บิวท์อินห้องเก็บของนี้ เพราะเธอเลือกของเองทุกชิ้น รวมทั้งพยายามเก็บเงินจนได้ห้องในฝัน สำหรับคุณผู้หญิงที่ใฝ่ฝันว่าอยากมีห้องทำงาน ห้องเก็บของ และห้องแต่งตัวน่าจะลองอ่านไอเดียของเธอดูนะคะ
สวัสดีค่ะ ปุ้ยเองค่ะ
จากกระทู้ รีวิวของถูกและดี IKEA D.I.Y. Build-in ห้องทำงาน ห้องเก็บของ+แต่งตัว งบไม่เกิน 30,000 และตบท้ายด้วยมุม Beauty โถงทางเดิน ที่ได้รับกระแสตอบรับดีมาก ปุ้ยจึงขอเอามาเล่าในรูปแบบของ Blog ที่จะอ่านง่านกว่า
บล็อกนี้เป็นความภาคภูมิใจที่มากๆ ในชีวิตเลย เพราะเกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของปุ้ยเอง เพราะที่บ้านไม่อนุมัติงบเฟอร์นิเจอร์
สร้างบ้านจบแล้วเงินหมด (สามีบอกให้ปูเสื่อนอนพื้น) ปุ้ยจึงต้องเก็บเงินทำ DIY เองค่ะ
แบบนี้เป็นทางที่พอจะเป็นไปได้ ที่จะทำฝันให้เป็นจริงได้มากที่สุด
ทั้งหมดนี้เกิดจากไอเดียการออกแบบ การวัดพื้นที่ เลือกซื้อของทุกชิ้นเอง จ่ายเอง (โดยมีคุณสามีช่วยติดตั้งให้)
โอเค ขอเข้าเรื่องเลยค่ะ
โดยเริ่มจากพื้นที่ที่ใช้สอยบ่อยๆ ก่อนค่ะ ที่จะมารีวิวในบล็อกนี้ มี 3 ส่วน คือ ห้องทำงาน (my Work Studio) ห้องเก็บของ (my StoreRoom) และมุมบิ้วตี้ตามทางเดินในบ้าน (my Beauty Station in Hallway)
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ ส่วนใหญ่เลย 95% ซื้อจาก IKEA งบไม่เกิน 30,000 /ห้อง
(ออกตัวไว้ก่อน ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ค่าจ้างรีวิวซักบาทนะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่า เชียร์เพราะมีเบื้องหลัง)
ที่ชอบอีเกีย เพราะว่าราคาไม่เว่อร์ ดีไซน์ดี คุณภาพโอเคกว่า พวก Index และ SB (ในชิ้นที่ราคาเท่าๆ กัน)
แถมที่เว็บและแคตตาล็อกมีภาพไอเดียการใช้งานมาแชร์เยอะ เราเห็นแล้วเกิดไอเดียอยากทำบ้าง
การ เลือกสินค้าจากอีเกีย ปุ้ยจะเลือกของที่ประยุกต์ใช้งานได้ในราคาที่ไม่แพงเกินชิ้นละ 3 - 4,000 บาท (สินค้าอีเกียแพงๆ เยอะ แต่ของถูกและดี ก็มีไม่น้อย ต้องเดินนานๆ ดูให้ทั่วๆ ค่ะ) หลักการของปุ้ยคือ พยายามจะ DIY จากของชิ้นถูกๆ แต่เน้นใช้แรงมากหน่อยค่ะ คือ อยากได้ห้องสวยๆ แต่งบไม่เยอะ
ส่วนรูป ปุ้ยเป็นคนถ่ายเอง ถ่ายมั่วๆ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพ มากนัก บางรูปอาจจะเห็นว่าตู้เบี้ยวๆ เอียงๆ จริงๆ ไม่ได้เบี้ยวนะคะ คือ ยืมเลนส์พี่เขยมา แล้วเลนส์คล้ายๆ จะเป็นเลนส์ Wide เลยทำให้รูปป่องๆ ตรงกลาง
มาพูดถึงอุปกรณ์ที่เราจะต้องใช้ก่อนค่ะ
1) อุปกรณ์การวัด ได้แก่ ตลับเมตร ไม้บรรทัดยาว ไม้วัดระดับ
2) ดินสอ
3) กระดาษ Post-it พับเป็นตัว L เอาไว้รองฝุ่นที่เจาะ
4) อุปกรณ์เจาะ ได้แก่ สกรูไฟฟ้า
5) อุปกรณ์ติดตั้ง ได้แก่ น็อตและพุก เบอร์ 7 - 8 (เตรียมไว้ทั้งหัวแบบและหัวกลม) ไขควง ค้อนยาง
6) บันได
วิธีการ
1. ค้นหาแรงบันดาลใจ โดยส่วนใหญ่แล้วปุ้ยก็หาจาก pinterest.com และก็ IKEA Catalogue ประกอบกัน
2. สำรวจสินค้าตามแหล่งซื้อเฟอร์นิเจอร์
3. วัดพื้นที่หน้างานที่จะติดตั้งจริง แล้วก็เชคดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่เราเลือก นำไปวางได้พอดีมั้ย
4. ออกแบบ วาดรูปคร่าวๆ ว่าอะไรจะวาง จะแขวนตรงไหน โดยวิเคราะห์จากการใช้สอยในชีวิตจริงๆ ของเรา
5. ไปซื้อของ เตรียมลิสท์ไป ถ้าเดินโชว์รูม เดินช้าๆ เพราะว่าถ้าเราหยิบของไม่ครบตามลิสท์จะต้องย้อนกลับมาใหม่ มันจะไกลเลยค่ะ แล้วก็ถ้าเจอเฟอร์นิเจอร์ที่จะซื้อในโชว์รูมถ่ายรูปรหัสตำแหน่งในสต๊อกด้วย เผื่อจะได้ไม่ต้องไปถามพนักงานว่าของชิ้นนี้อยู่ตรงไหนในโกดังค่ะ
6. เตรียมติดตั้ง วัดระดับที่จะติด โดยใช้ไม้วัดระดับช่วย เพื่อให้ตู้แขวนผนังไม่เอียง แล้วเอาดินสอขีดไว้ หรือถ้าต้องเจาะรู เอาดินสอจุดได้ ถ้าเมีคนช่วย ก็ให้เค้าช่วยเอาน็อตจริงๆ มาเสียบที่รู แล้วใช้ค้อนตอกลงไปให้ไปรอยว่า รูที่จะเจาะคือ “ตรงนี้นะ”
7. ขั้นตอนการติดตั้ง ดูตามคู่มือที่แนบมากับเฟอร์เจอร์ชิ้นนั้นๆ ได้เลย
** ข้อแนะนำในเรื่องการซื้อสินค้า IKEA สามารถให้เค้ามาส่งที่บ้านได้ค่ะ ถ้าอยู่ในเขตกรุงเทพก็ 590 บาท ถ้าไกลกว่านั้นก็ขึ้นกับระยะทาง
และถ้า เฟอร์นิเจอร์ ราคาไม่สูงเว่อร์ ก็ใช้ช่างเค้าประกอบให้ คิดราคา 7% ของราคาสินค้า อย่างตู้บางชิ้นรายละเอียดเยอะ ปุ้ยซื้อมา 1,000 ให้เค้าประกอบให้ เพิ่มอีก 70 บาท แบบนี้สามียิ้มเลยค่ะ(ให้ช่างประกอบให้ เสียเงินเล็กๆ น้อยๆ ดีกว่าที่ต้อง วานสามี กว่าจะต้องรอดูอารมณ์วันไหนอารมณ์ดี ที่ไม่เสี่ยงต่อการโดนบ่น บางทีรอเป็นเดือน)
รูปด้านล่างนี้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งห้องทำงานค่ะ
มาดูผลงานกันเลยค่ะ
ใน การรีวิวนี้ ปุ้ยจะอธิบายวิธีคิด แล้วก็การใช้บัดเจ็ดไปด้วยเลย (บัดเจ็ดจะแจงเฉพาะเฟอร์นิเจอร์และของที่ติดตั้งบนผนัง) เผื่อใครจะลองจดไปใช้กันได้ค่ะ
ห้องแรกเป็นห้องสตูดิโอ สำหรับนั่งเล่น อ่านหนังสือ นั่งทำงาน
โดย ความตั้งใจ อยากให้ห้องสว่างมากๆ เพราะงานส่วนใหญ่ของปุ้ยต้องพึ่งแสงธรรมชาติค่ะ ดังนั้นผนัง 2 ด้านจึงเป็นหน้าต่างบานสูง ดังนั้นห้องนี้ก็จะมีพื้นที่ให้ตกแต่งเหลือแค่ 2 ด้านเท่านั้นเอง
ซึ่งห้องสตูดิโอนี้ มีขนาด หน้ากว้าง 3.7 เมตร ลึก 6 เมตร ปุ้ยแบ่งโซนด้วยการใช้บันได 3 ขั้น ช่วยให้ห้องดูมีมิติขึ้น เริ่มรีวิวจากชั้นบนหรือด้านหลังก่อนนะคะ
รูปที่ 2 ตอนนี้ทาสี ติดแอร์ และปูพื้นแล้ว
รูปที่ 3 หลังจากตกแต่งเสร็จ
ในเรื่องของพื้น ปุ้ยเลือกพื้นกระเบื้องยางเพราะดูแลง่าย เลือกลายสีเทาอ่อน เพราะเป็นคนชอบสีโทนเทาๆ มากกว่าโทนสีน้ำตาล กระเบื้องยางสมัยนี้ดีมาก คือออกแบบมาเป็นระบบคลิ๊กล็อคไม่ต้องใช้กาว ติดตั้งเหมือนลามิเนตเลย แต่กันน้ำ และทนกว่าลามิเนต ส่วนผิวสัมผัสก็มีหลายแบบทั้งการเลียนแบบเทคเจอร์ของไม้จริง และเทคเจอร์แบบลามิเนตค่ะ
ที่ห้องนี้ ปุ้ยลงทุนใช้ของดีหน่อย เป็นยี่ห้อ Alfa ราคาประมาณ 780 บาท/ตรม. (รวมค่าติดตั้งแล้ว และแถมบัวผนังด้วย) เวิร์คมาก ช่วยให้ห้องดูดีขึ้นมาเลย [เพจของยี่ห้อง Alfa http://www.facebook.com/alfaflooring]
** สำหรับคนที่สนใจกระเบื้องยาง ปกติกระเบื้องยางลายไม้จะตกเฉลี่ยอยู่ที่ ตรม. ละ 350 - 800 บาท ขึ้นกับคุณภาพและยี่ห้อค่ะ)
แต่ พอติดแอร์ ช่างดันทำให้ปุ้ยเฟล เลย คือ ท่อแอร์สีคนละสีกับผนัง แล้วก็เห็นท่อแบบดูไม่สวยเลย สุดท้าย ปุ้ยไปเอาสีทาบ้าน ปีนบันไดขึ้นไปทาค่ะ มันดูโอเคขึ้น แล้วก็ตกแต่งอีกหน่อย ก็ช่วยพลาง เปลี่ยนจุดสนใจ ให้เราละสายตาจากจากท่อแอร์ไปได้
มาดูกันแบบละเอียดๆ เจาะทีละมุมกันค่ะ
เริ่มจากที่เห็นไกลๆ ก่อน คือ ผ้าม่าน ซึ่งช่วยให้ห้องดูดีขึ้นมาก บอกเลยว่าคุ้มค่า กับบัดเจ็ดประมาณ 1,350 บาท
โดยปุ้ยใช้ชุดราวสีดำ ให้สอดคล้องกับวงกบหน้าต่าง ส่วนผ้าม่านโครตคุ้ม คือ ดีและถูกมาก เป็นผ้าโปรงที่ยาวจรดพื้น
พอติดลงไปแล้วช่วยให้ห้องสว่างขึ้น เพราะกันแสงไม่ให้แชร์ออกไปยังโถงทางอีกฝั่งของห้อง ซึ่งเป็นหน้าต่างบานกระจกใส
และช่วยพลางตาจากโถงทางเดินด้วยค่ะ
ตรงกลางห้องเป็นโต๊ะเล็กๆ เซ็ทแบบลอยตัว คือเคลื่อนย้ายได้ตามจังหวะการใช้งาน อันนี้ขอข้ามนะคะ
RÄCKA curtain rod combination THB 356
Min. length: 120 cm, Max. length: 210 cm, Max. load: 5 kg
LILL net curtains, 1 pair THB 159
Length: 250 cm, Width: 280 cm, Weight: 0.40 kg
ใช้ชุดราวม่าน RÄCKA 2 ชุด 356x2 = 712 บาท
ผ้าม่าน LILL 4 ชุด 159x4 = 636
---------------------- รวมเซ็ทผ้าม่านจาก Ikea 1,348 บาท
ส่วนตรงข้างบันได
เป็นตู้กระจกด้านขวา
ซึ่งก็คือตู้ใส่เครื่องประดับ แบบสไลด์เปิดออกมาได้
อันนี้ได้มาฟรี
ขอเพื่อนมาจาก Her Anything
เพราะช่วยเค้าทำ Online Marketing อยู่ค่ะ
(ไม่ใช่โฆษณาแฝงนะคะ เพราะตู้รุ่นนี้ ไม่มีนำเข้ามาขายแล้วค่ะ)
มุมนี้จริงๆ เราสามารถใช้กระจกเงาธรรมดาหรือ กรอบรูปมาตกแต่ง หรือจะหาโคมไฟตั้งพื้นมาวางก็ได้เหมือนกันค่ะ
(รูปนี้เพื่อนถ่ายให้ ตอนมาเยี่ยมบ้านค่ะ)
ส่วนผ้าม่านอีกฝั่งนึง เป็นม่านปรับแสงสีขาว เลือกแบบที่ถูกที่สุด ของบางกอกการม่าน ราคา 2 บาน ประมาณ 4,000 บาท
และข้างบันไดด้านขวา ตกแต่งด้านการติดกรอบรูปเล็กๆ สีขาว เรียงกัน 2 แถว ช่วยให้ห้องดูมีรายละเอียดน่ารักขึ้น
ต่อมาเรามาดูการตกแต่งผนัง โดยปุ้ยตกแต่งให้เต็มผนังเลย
มาดูผนังฝั่งซ้ายก่อน
ไอเดียการสร้างแรงบันดาลใจจากปกแมกกาซีนที่เราชื่นชอบ
ใช้ชั้นวางรูปภาพ RIBBA สีดำขนาดยาว 115 ซม.และ 55 ซม. ที่ IKEA เค้ามี 2 ไซส์ โดยออกแบบช่องไฟให้แต่ละชั้นห่างกันซัก 40-45 ซม. จะกำลังสวยค่ะ ไม่อึดอัดเกินไป
จากนั้นก็หากรอบรูป (ซื้อตามงานเฟอร์นิเจอร์ชิ้นละ 50-250 บาท)หรือแม็กกาซีนปกสวยๆ มาวางประดับค่ะ
ส่วนผนังว่างๆ ด้านหลังกรอบรูป
ปุ้ยลองใช้กระจกเงามาติดดู ช่วยให้ห้องดูกว้างและดูหรูหรา มีมิติขึ้น เพราะจะมีเงาสะท้อนให้ดูมีสีเงาๆ เงาๆ เล่นกับไฟดีขึ้น
ซื้อจาก IKEA เช่นกัน กระจกเงา LOTS ขนาด 30x30 ซม. จะมี 4 ชิ้นค่ะ เค้าจะให้เทปโฟมกาว มาให้ ติดตั้งไม่ยาก แต่ต้องแม่น เพราะถ้าติดแล้วขยับไม่ได้ ถ้าจะแกะก็ลำบากเลยค่ะ
RIBBA Picture ledge, black THB 199
Length: 55 cm, Depth: 9 cm, Max. load: 5 kg
RIBBA picture ledge, black THB 349
Length: 115 cm, Depth: 9 cm, Max. load: 7.50 kg
LOTS mirror THB 199 /4 pieces
Length: 30 cm, Width: 30 cm, Package quantity: 4 pieces
แล้วก็มีราวแขวน ซีรีย์ FINTORP มีขอแขวน กระป๋องไว้ใส่ของ จริงๆ คือ ตั้งใจจะไว้เสียบพวกเครื่องเขียนค่ะ
FINTORP rail THB 269
Length: 57 cm, Diameter: 1.6 cm
FINTORP hook THB 119 /5 pieces
Depth: 3 cm, Height: 7 cm, Package quantity: 5 pieces
FINTORP cutlery stand THB 239
Diameter: 13 cm, Height: 13 cm
งบที่ใช้ ชั้นวางรูปภาพ RIBBA ไซส์เล็ก 199 บาท
ชั้นวางรูปภาพ RIBBA ไซส์ใหญ่ 349 x 3 = 1,047 บาท
กระจกเงา LOTS 199x4 = 796 บาท
ราวแขวนติดผนัง FINTORP ไซส์เล็ก 269 บาท
ตะขอแขวน FINTORP 119 บาท
ตะกร้า FINTORP 239x2 = 478 บาท
-------------------- รวมผนังครึ่งซ้าย 2,908 บาท
ด้านล่างของผนังฝั่งซ้ายเป็นตู้ลิ้นชัก HELMER เรียงแถวกัน 6 ตู้
อันนี้อาจจะประหยัดงบไปใช้เป็นชั้นวางของโปร่งๆ ได้ค่ะ หรือใครจะใช้เป็นตู้โชว์ยาวๆ ก็จะดูเรียบร้อยดี
แต่สำหรับปุ้ย ใช้จำแนกเก็บของต่างๆ ให้เป็นระเบียบ แบ่งตามประเภทและหมวดหมู่ค่ะ ลิ้นชักนี้ขนาดเล็กมากๆ ช่องนึง สูงแค่ 10 ซม. กว้างยาวประมาณใส่กระดาษ A4 แล้วเหลือนิดๆ
ปุ้ยใช้เก็บของทุกอย่างที่ใช้ในห้องนี้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นของชิ้นเล็กๆ เอามาจัดใส่ตู้ทั้งหมด แล้วเขียนกำกับไว้ เวลาหยิบใช้ก็ง่ายเลย ปุ้ยชอบที่มันเป็นลิ้นชักเล็กๆ เตี้ยๆ ช่วยให้ของก็ไม่กองสุมกันจนหาไม่เจอ
ตู้นี้รายละเอียดเยอะ เวลาประกอบจริงๆ ไม่ยาก ไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่ใช้เวลานาน ถ้าซื้อเยอะๆ แนะนำให้จ้างช่างจากอีเกียเลย ค่าประกอบ เฉลี่ย 100 บาท แต่ถ้าอยากประหยัด ก็ใช้เวลามากหน่อย เท่านั้นเองค่ะ
HELMER drawer unit on castors THB 1,390
Width: 28 cm, Depth: 43 cm, Height: 69 cm
ตู้ลิ้นชัก HELMER 1,390 x 6 = 8,340 บาท (คือ งบมาหนักตรงนี้)
ต่อมาเราพูดถึงผนังฝั่งขวาบ้าง ผนังนี้ค่อนข้างจับฉ่าย คือ มีอะไรเหลือๆ ก็เอามาติดๆ ให้มันดูเต็มๆ
เริ่มจากท่อแอร์ ใช้หลอดไฟหนีบๆ อันนี้เคยซื้อมาตั้งหลายปีแล้ว ก็เอามาใช้หน่อย จำได้ซื้อจากอีเกีย เนี่ยแหละ อันละ 199 บาท แต่ตอนนี้เค้าไม่มีขายแล้ว (หาไม่เจอ)
ลงมาติดชั้นวางรูปภาพ RIBBA สีดำ
แผ่นบอร์ดเหล็กไว้ติดโน็ตต่างๆ SPONTAN สีขาว (ซื้อมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เห็นขายแต่สีเงินค่ะ)
และชั้นวางของ LACK สีดำ และโต๊ะวางแล็ปท็อป VITTSJÖ สีดำ
เก้าอีกจาก Index (190 บาท)
SPONTAN magnetic board THB 399
Width: 37 cm, Depth: 2 cm, Height: 78 cm
LACK wall shelf THB 590
Length: 110 cm, Depth: 26 cm, Thickness: 5 cm
VITTSJÖ laptop table THB 990
Width: 100 cm, Depth: 36 cm, Height: 74 cm
งบผนังฝั่งขวา
บอร์ดเหล็ก SPONTAN 399 บาท
ชั้นแขวนผนัง LACK 590 บาท
โต๊ะวางแล็ปท็อป VITTSJÖ 990 บาท
-------------------- รวม 1,979 บาท
ห้องฝั่งนี้ตั้งใจจะไว้เป็นมุมอ่านหนังสือ แล้วก็กะว่าจะซื้อทีวีมาติดผนัง
แต่ยังไม่ได้จัดงบตรงนี้ เลยเอากระจกเงามาติดก่อน พอดีไปเดินงานสถาปัตฯ ‘2015 แล้วไปเจอมาถูกใจมาก
เค้าลดราคาพอดี เหลือ 2,100 บาท ติดกระจกนี่ ทำให้ผนังฝั่งนี้ดูดีขึ้นเยอะเลย
ส่วนตู้ตรงกลาง คือ ตู้รองเท้า STÄLL แต่ปุ้ยนำมาประยุกต์เป็นตู้ในของ เช่นพวกกระดาษวาดเขียน ถุงกระดาษ กระเป๋าผ้า หรืออะไรที่แบนๆ สูงๆ ชิ้นไม่ใหญ่มาก จริงๆ อยากได้ตู้แบบไสตล์เตาผิงของฝรั่ง แต่ว่างบมีแค่นี้ค่ะ เอาตู้นี้มาวางพิงผนังไว้ก็ได้ แนวคล้ายๆ กัน
ตู้รองเท้านี้ ซื้อมาตอนโปรโมชั่น 2,290 บาท
ส่วนตู้หนังสือแขวนผนัง ด้านซ้าย ได้มากจาก Index หลายปีแล้ว ปุ้ยจำราคาได้ว่า 990 บาท
STÄLL shoe cabinet with 4 compartments THB 4,490 Promotion 2,290
Width: 96 cm, Depth: 17 cm, Height: 90 cm
บนผนังฝั่งซ้าย ใช้ที่แขวนหนังสือพิมพ์ KVISSLE ประยุกต์มาไว้วางแม็กกาซีนปกสวยๆ ค่ะ ข้างๆ กันเป็นที่วางซีดี ราคา 199 บาท
ซื้อมาจาก IKEA แต่ว่าซื้อนานแล้ว ตอนนี้เค้าไม่มีขายแล้วค่ะ (สงสัยตอนนี้คงไม่มีใครใช้ CD/DVD แล้ว เค้าเลยเลิกผลิต)
บน ผนังฝั่งขวา จะเป็นชั้นโชว์แม็กกาซีนปกสวยๆ เป็นการตกแต่ง สร้างบรรยากาศในมุมอ่านหนังสือ และแรงบันดาลใจในการทำงาน โดยใช้ชั้นวางรูปภาพ RIBBA สีขาวไซส์ใหญ่ค่ะ ตำแหน่งการติดตั้ง ปุ้ยให้ช่องล่างสุด มีช่วงช่องไฟกว้างกว่าชั้นบน พอมองจะระดับสายตาขึ้นไป จะได้เห็นระยะที่พอดี อีกอย่างช่วยให้หยิบหนังสือง่ายขึ้น จากบน-ล่าง 35-40 ซม.
ลงมาข้างล่างเป็นโต๊ะวางแล็ปท็อป VITTSJÖ สีขาวค่ะ ช่วยให้มุมนี้ดูเต็มขึ้น แต่ถ้าใครไม่ต้องใช้โต๊ะเยอะ ก็ไม่จำเป็น ปล่อยวางไว้ ก็สะอาดตาดีค่ะ
KVISSLE wall newspaper rack THB 459
Length: 46 cm, Width: 34 cm, Depth: 9 cm
VITTSJÖ laptop table THB 990
Width: 100 cm, Depth: 36 cm, Height: 74 cm
RIBBA picture ledge THB 349
Length: 115 cm, Depth: 9 cm, Max. load: 7.50 kg
งบจากผนังด้านหน้านี้
กรอบกระจกเงาใหญ่ 2,100 บาท
ตู้รองเท้า STÄLL 2,290 บาท
ที่แขวนหนังสือพิมพ์ KVISSLE 459 บาท
ที่วางซีดี 199 บาท
รูปภาพ RIBBA สีขาวไซส์ใหญ่ 349x4 = 1,396 บาท
โต๊ะวางแล็ปท็อป VITTSJÖ สีขาว 990 บาท
-------------------- รวม 7,434 บาท
นอกจากนี้แล้ว ก็มีโซฟาสีเหลืองที่ราคาถูกและเบา ทำให้เคลื่อนย้ายไปได้ทุกมุมของห้อง เปลี่ยนบรรยากาศในการนั่งอ่านหนังสือได้
โซฟานี้ เหมาะสำหรับคนน้ำหนักเบานะคะ เพราะว่าด้านล่างเป็นผ้าใบ ไม่มีบุฟองน้ำ เป็นแค่ผ้านวมหุ้มไว้ ก็ไม่ได้นั่งสบายมาก แต่ก็พอโอเค สะดวกกว่านั่งพื้นเป็นไหนๆ ค่ะ
KNOPPARP two-seat sofa THB 1,990 Width: 119 cm, Depth: 76 cm, Free height under furniture: 21 cm โซฟา 2 ที่นั่ง 1,990 บาท
นอกนั้นก็เป็นพวกของตกแต่งชิ้นเล็กๆ ไว้ใส่ของ ไว้เพิ่มบรรยากาศในห้องค่ะ
ทิ้งท้ายด้วยกรอบรูป เอาตุ๊กตาหมีห้อยโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้แล้ว ลองเอามาติดดู น่ารักดีค่ะ
รวมงบประมาณที่ใช้กับเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด
----------------- เซ็ทผ้าม่านจาก Ikea 1,348 บาท
----------------- ผนังด้านหลังครึ่งซ้าย 2,908 บาท
----------------- ตู้ลิ้นชัก HELMER 1,390 x 6 = 8,340 บาท
----------------- ผนังด้านหลังฝั่งขวา 1,979 บาท
----------------- ผนังด้านหน้ารวม 7,434 บาท
----------------- โซฟา 2 ที่นั่ง 1,990 บาท
รวมเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA 23,999 บาท
จาก INDEX (ม้านั่งและตู้หนังสือ) 1,189 บาท
ผ้าม่านปรับแสงจากบางกอกการม่าน 4,000 บาท
รวมๆ แล้วห้องนี้ใช้งบตกแต่งไป ทั้งสิ้น 29,188 บาท
ห้องสตูดิโอนี้ จัดแบบเบาๆ ฟรุ้งฟริ้งๆ ค่ะ
งบแบบพอไปไหว ทะยอยซื้อที่ละชิ้น 2 ชิ้น ห้องนี้รวบรวมมา 4-5 เดือนค่ะ
ปุ้ย ออกแบบอยู่ 3 วัน ไปซื้อของ 4 ครั้ง พอได้ของมาครบประมาณนึง ก็วัดตำแหน่ง มาร์คจุดที่จะเจาะไว้ ของขาดก็ไปซื้อเพิ่ม ของเกิน/วางไม่พอดี ก็เอาไปคืนได้ภายใน 100 วัน (มีช่วงนึงไปอีเกียทุกสัปดาห์เลย ทั้งที่บ้านก็ไกลมาก ถ้าเค้ามีบริการ Online Shopping ก็คงดี เพราะค่ารถไปกลับ นี่พอๆ กับค่าบริการส่งสินค้าขั้นต่ำของอีเกียเลย)
ใช้ เวลาเจาะ-ติดตั้ง ประมาณ วันนึงเต็มๆ ช่วยกันกันสามีและเพื่อนของปุ้ยที่บอกว่ายกตู้ฟรีมาให้ เลยใช้งานซะเลย เป็นงานที่สนุกและภูมิใจค่ะ
จบห้องทำงานไว้เท่านี้ก่อน หวังว่าจะ มีประโยชน์สำหรับคนที่อยากตกแต่งห้องหรือผนัง แต่ว่าไม่มีงบมากขนาดจะซื้อตู้ใหญ่ๆ หรือว่าบิวท์อินแพงๆ แบบนี้ก็พอช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องดูน่าอยู่และน่ารักขึ้นได้ค่ะ
________________________________________
ขอบคุณ สามีที่ช่วยติดตั้งให้ | ขอบคุณ เถ้าแก่เจ้าของร้าน Her Anything ที่ยกตู้มาให้และมาช่วยเป็นลูกมือติดตั้ง
ขอบคุณพี่รุต ปุ้ยที่ถ่ายคู่กับกระจกให้ ทำให้คนอ่านมโนหนังหน้าปุ้ยได้ เวลาอ่านรีวิว 555
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่ได้การสนับสนุน ให้กำลังใจ และให้การตอบรับที่ดี เป็นกำลังใจอย่างดีเยี่ยม ที่ทำให้หายเหนื่อยค่ะ
ขอบคุณ www.puyisme.com
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ