เปลี่ยน “บ้าน” ยุค 70’s เป็น Muchroom ออฟฟิศของคนคอเดียวกัน

เปลี่ยน “บ้าน” ยุค 70’s เป็น Muchroom ออฟฟิศของคนคอเดียวกัน

เปลี่ยน “บ้าน” ยุค 70’s เป็น Muchroom ออฟฟิศของคนคอเดียวกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่นี่เป็น “ตรงกลาง” ระหว่าง บ้าน สำนักงาน และร้านกาแฟ…นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งคอนเซ็ปต์หลักของ Coworking Space ไอเดียธุรกิจที่ฮิตมาตลอดในช่วงกว่า 1 ปีให้หลัง และเช่นเดียวกันสำหรับ Muchroom สำนักงานเล็กๆ กลางเมืองที่นำ “บ้านเก่า” ยุค 70’s มารีโนเวทเป็นออฟฟิศบรรยากาศสบายๆ เปิดให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการหาสถานที่ทำงานแบบไม่จำเจ

ภาพบ้านภายนอก มีพื้นที่สีเขียวโดยรอบ

บ้านหลังเดิมเป็นบ้านเดี่ยวสีขาวตั้งอยู่บนพื้นที่ร่วมของบ้านเดี่ยว 3 หลัง สำหรับบ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นมีพื้นที่ทั้งสิ้น 300 ตารางเมตร รอบบ้านเป็นสวนร่มรื่นพร้อมพื้นที่จอดรถ เดิมทีเคยปล่อยเช่าสำหรับพักอาศัยแต่เนื่องจากผู้เช่าเดิมไม่ค่อยดูแลรักษา สภาพบ้านก่อนมาถึงมือคุณแจง-สรินธี นวลจันทร์ฉาย หนึ่งในหุ้นส่วน Muchroom จึงค่อนข้างไม่เรียบร้อย

“หลังลาออกจากงานเกิดไอเดียอยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่ไม่มีออฟฟิศของตัวเองเวลาจะนัดลูกค้าคุยงาน จะชวนไปที่บ้านหรือร้านกาแฟก็ไม่สะดวก เลยคิดหาออฟฟิศนั่งทำงานเป็นของตัวเอง พอดีไปเจอโมเดลธุรกิจ Coworking Space จัดสรรพื้นที่ให้เช่าทำงาน เลยเริ่มหาสถานที่ทำออฟฟิศของตัวเอง และแบ่งพื้นที่เช่าให้ฟรีแลนซ์ที่ต้องการหาสถานที่ทำงานเหมือนๆ กัน”

เพราะความตั้งใจหาสถานที่ทำงานที่มีบรรยากาศแตกต่างจากการนั่งทำงานบนตึกสูงอย่างที่ตนเองเคยทำและรู้สึกเบื่อหน่ายมรตลอด เจ้าของธุรกิจอย่างคุณแจงจึงเลือกที่จะใช้ “บ้านเดี่ยว” แทนการหาพื้นที่เช่าในตึก หรืออาคารสูง ซึ่งจะทำให้เธอรวมถึงคนที่เข้ามาแชร์พื้นที่รู้สึกเหมือนนั่งทำงานอยู่บ้าน

“พอเห็นบ้านหลังนี้ก็รู้สึกชอบเพราะเป็นบ้านยุค 70’s ที่มีการออกแบบโดดเด่นด้วยหน้าต่างและประตูทรงสูง เมื่อเข้าไปแล้วรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายตา หลังได้บ้านมาแล้วเราก็เริ่มรีโนเวท ใช้เวลาทำประมาณ 1 เดือนครึ่ง แต่ปรับเปลี่ยนอะไรไม่มากนัก เพียงทาสี เพิ่มเติมพื้นที่ด้านหน้าเป็นห้องรีเซฟชั่นแทนทางเดินและประตูหน้าบ้านแบบเดิม”

บ้าน 2 ชั้นถูกจัดสรรพื้นที่หลักใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานร่วมกัน มีมินิออฟฟิศแทรกตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ของบ้าน โดยมินิออฟฟิศเปรียบเสมือนสำนักงานส่วนตัวที่สมาชิกและผู้สนใจใช้บริการจะต้องจับจองเป็นเจ้าของล่วงหน้า ซึ่งมีขนาดห้องรองรับที่นั่งต่ำสุดอยู่ที่ 2 คนไปจนถึงจุได้จำนวน 7 คน

นอกจากนี้ยังมีห้องประชุม พื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ บริการ internet WIFI เครื่องดื่ม อาหารว่าง บริการอาหารตามสั่ง แฟ็กซ์ เครื่องถ่ายเอกสาร สแกนเนอร์ พนักงานรับส่งเอกสาร และพนักงานรับโทรศัพท์ไว้ให้บริการสำหรับผู้เข้ามาใช้พื้นที่ทำงานทุกคน

เรื่องการตกแต่งเจ้าของใส่ใจรายละเอียดและเลือกโทนสีที่ให้ความรู้สึกไม่แตกต่างจากการนั่งทำงานอยู่ในบ้านมากนัก มีทั้งชั้นวางหนังสือ การตกแต่งผนังบ้าน โซฟานั่งเล่น ต้นไม้เพิ่มความสดชื่นภายใน รวมไปถึงการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ที่นั่งสบายเหมาะสำหรับการนั่งทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พื้นที่นอกบ้านเน้นความร่มรื่น จะมีบางมุมจากมินิออฟฟิศที่สามารถมองออกมาเห็นวิวสวน ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากการทำงานอยู่บนอาคารสูง

“อย่างที่บอกว่าเราเป็นพื้นที่ตรงกลางระหว่างบ้าน สำนักงานและร้านกาแฟ ถ้าอยู่บ้านเราอาจต้องใช้พลังมหาศาลในการผลักดันให้ตัวเองทำงาน เพราะมันมีสิ่งเร้ามากมายทั้งทีวี เตียงนอน สารพัดสิ่งที่จะทำให้เราขี้เกียจ แต่ที่นี่เราไม่ได้เซ็ทให้มีความเป็นบ้านขนาดนั้น แต่มันมีบรรยากาศที่พยายามบอกให้เราทำงาน หรือถ้าคุณบอกว่าไปทำงานที่ร้านกาแฟก็คล้ายกัน แต่ที่ร้านกาแฟ คุณไม่สามารถลุกไปจากที่นั่งเดิมโดยทิ้งของไว้บนโต๊ะได้ แต่สำหรับ Coworking space มีความปลอดภัยแน่นอน”

นอกจาก Coworking space จะให้พื้นที่ในการทำงานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งซึ่งผู้มาใช้บริการได้รับและถือเป็นประโยชน์สูงสุดนั่นคือการได้เข้าร่วมในชุมชนย่อมๆ เพราะพื้นที่ทำงานในลักษณะนี้มักเป็นที่รวมตัวกันของบุคคลหลากหลายอาชีพ ซึ่งอาจจะทำให้ทุกคนที่เข้ามาทำงานที่นี่มีคอนเนคชั่นในการทำงานเพิ่มมากขึ้น

Muchroom จึงเปรียบเสมือนชุมชนเล็กๆ ของกลุ่มคนทำงานที่ต้องการนั่งทำงานในบรรยากาศสบายใจ ได้ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดและไอเดียต่างๆ ร่วมกันได้

Muchroom
ถนนประดิพัทธ์ซอย 23
โทร.02 618 7800,081 699 9872
https://www.facebook.com/muchroomthailand



อัลบั้มภาพ 41 ภาพ

อัลบั้มภาพ 41 ภาพ ของ เปลี่ยน “บ้าน” ยุค 70’s เป็น Muchroom ออฟฟิศของคนคอเดียวกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook