จีเซล บุนด์เชน นางแบบรวยที่สุดในโลก

ทั้งสวย และมีสมอง แถมยังได้ชื่อเป็น นางแบบที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วย สำหรับ "จีเซล บุนด์เชน" ซุปเปอร์โมเดลวัย 26 ชาวบราซิลเลี่ยน อดีตหวานใจของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ พระเอกฮอลลีวู้ดชื่อดัง ที่เลิกรากันไปแล้ว หลังจากควงกันมาเกือบ 5 ปี ทั้งนี้จากรายงานของฟอร์บส์ ผ่านเว็บไซต์ Forbes.com ว่าด้วย อันดับนางแบบที่มีรายได้มากที่สุดในโลกขณะนี้ ซึ่งฟอร์บส์ ประเมินมาจาก จำนวนสินค้า โฆษณา ที่นางแบบเหล่านั้นเป็นพรีเซ็นเตอร์ และการขึ้นปกนิตยสารต่างๆ รวมทั้งข้อมูล "อินไซด์" ที่ได้มาจากคนในวงการแฟชั่น ปรากฏว่า นางแบบสาวสวยของบราซิล มีรายได้นำโด่งมาเป็นอันดับ 1 ด้วยตัวเลขรายได้ต่อปี 33 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,105.5 ล้านบาท) ที่เข้ามาเพิ่มเติมในส่วนสินทรัพย์ที่เธอมีอยู่แล้วราว 150 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,025 ล้านบาท) ส่วน อันดับ 2 ได้แก่ นางแบบสาวชาวอังกฤษวัย 33 เคต มอส ที่ยังอยู่ยงคงกระพันในโลกแฟชั่น แถมตอนนี้ยังมีแบรนด์เสื้อผ้าของเธอเอง วางขายในห้างท็อปช็อป (Topshop) ที่อังกฤษด้วย โดยมอสมีรายได้ต่อปีราว 9 ล้านดอลลาร์ (ราว 301.5 ล้านบาท) ทั้งยังเป็นนางแบบคนใหม่ให้แก่แฟชั่นแบรนด์เนมของดีไซเนอร์ชื่อดัง สเตลล่า แมคคาร์ตนี่ย์ และเบลสต๊าฟ (Belstaff) สินค้าสปอร์ต แวร์ของอิตาเลียน อันดับ 3 ได้แก่ ไฮดี้ คลุม นางแบบสาววัย 34 ซึ่งปัจจุบันเป็น โฆษกให้แก่ชุดชั้นในชื่อดัง วิคตอเรียสซีเคร็ท และพิธีกรรายการ โปรเจ็ค รันเวย์ โดยคลุมมีรายได้ต่อปี 8 ล้านดอลลาร์ (ราว 268 ล้านบาท) ตามมาด้วย เอเดรียน่า ลิม่า และ เอเลสแซนดร้า แอมโบรซิโอ นางแบบสาวสวยในค่ายวิคตอเรียซีเคร็ทอีกเช่นกัน ที่มีรายได้ต่อปีราว 6 ล้านดอลลาร์ (ราว 201 ล้านบาท), อันดับ 6 ได้แก่ แคโรลิน เมอร์ฟี่ย์ 5 ล้านดอลลาร์ (ราว 167.5 ล้านบาท), 7. นาตาเลีย โวเดียโนว่า 4.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 150.75 ล้านบาท), 8. คาโรไลน่า ครูโคว่า และ ดาเรีย เวอร์โบวี่ ต่างมีรายได้ราว 3.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 117.25 ล้านบาท), 9. เกมม่า วาร์ด 3 ล้านดอลลาร์ (ราว 100.5 ล้านบาท), 10. ลิย่า เคเบเด 2.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 83.75 ล้านบาท), 11. ฮิลารี่ โรห์ดา และ ชาลอม ฮาร์โลว์ 2 ล้านดอลลาร์ (ราว 67 ล้านบาท), 12. ด๊อตเซน โคร และ เจสสิกา สแตม 1.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 50.25 ล้านบาท) สำหรับประวัติความเป็นมาของบุนด์เชน ชีวิตนางแบบของเธอเริ่มต้นเปิดฉาก หลังจากมีแมวมองจากเอเยนซี่นางแบบ ไปจ๊ะเอ๋เธอเข้า ในร้านแมคโดนัลด์ ที่บราซิล ขณะสาวน้อยวัย14 กำลังกัดบิ๊กแมค กินอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นชีวิตของสาวน้อยลูกพนักงานธนาคาร ส่วนพ่อเป็นอาจาร์ยมหาวิทยาลัยและนักเขียน ซึ่งมีพี่น้องอยู่ด้วยกัน 5 คน โดยเธอเป็นน้องคนสุดท้อง แถมยังมี "คู่แฝด" ด้วยก็พลิกผันแบบหน้ามือ เป็นหลังมือ เมื่อเธอและคู่แฝด ได้เข้าคอร์สเรียนการเป็นนางแบบ โดยมีห้องเสื้อวัยรุ่นแห่งหนึ่งเป็นสปอนเซอร์ สนับสนุน ให้เธอมีโอกาสเดินแบบบนเวทีเล็กๆ ก่อนจะพาเธอพร้อมนางแบบวัยรุ่นคนอื่นๆ มีโอกาสไปสัมผัสการเดินแบบบนเวทีใหญ่ที่นครเซาเปาโล กระทั่งไปสะดุดตา อีลิต (Elite) เอเยนซี่นางแบบชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งทั่วโลก ที่ส่งสาวน้อยบุนด์เชนเข้าประกวดชิงตำแหน่งสุดยอดนางแบบของอีลิตในบราซิล เวทีที่กรุยทางให้เธอได้เดินทางสู่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา จุดประกายให้เธอได้เป็นนางแบบให้กับแฟชั่นแบรนด์เนมดังเกือบทุกยี่ห้อในโลกในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน ดิออร์, เวอร์ซาเซ่, ราล์ฟ ลอว์เรน, วาเลนติโน, หลุยส์ วิตตอง, จีวองชี่, ฯลฯ และชุดชั้นในวิคตอเรีย"ส ซีเคร็ท ที่เธอเพิ่งหมดสัญญาไปเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือว่า เพราะเธอไม่พอใจที่ วิคตอเรียส ซีเคร็ท ไม่ยอมขึ้นเงินเดือนให้เธอเป็น 5 ล้านดอลลาร์ต่อปี หรือราว 167.5 ล้านบาท ตามที่ขอ นอกจากนั้นเมื่อปีที่แล้ว เธอยังได้เซ็นสัญญามูลค่าหลายล้านดอลลาร์เป็นนางแบบให้แก่หนังโฆษณาชุด "Get a Mac" ให้แก่บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ แอปเปิล ขณะที่ยังมีธุรกิจส่วนตัวที่ทำเงินให้มหาศาล ทั้ง โรงแรมชื่อพัลลาเดียม เอ็กเซ็คคูทีฟ (Palladium Executive) ตั้งอยู่ทางใต้ของบราซิล และ บริษัทผลิตรองเท้าและรองเท้าแตะภายใต้แบรนด์เนมอิพานีม่า (Ipanema) ที่เธอเป็นเจ้าของและขายดิบขายดี แม้จะมีราคาสูงถึงคู่ละ 230 ดอลลาร์ (ราว 7,705 บาท) และยังส่งผลให้เธอติดอันดับที่ 53 ในรายชื่อคนดังที่ทรงอิทธิพลของปี 2550 นี้ด้วย