10 ทริคสำหรับใครที่คิดจะมีบ้านสไตล์ “มินิมอลลิสท์”
แม่บ้าน Sanook! Home เชื่อว่าหลายๆ คนคงคุ้นกับคำว่าสไตล์มินิมอลลิสท์ดี แล้วรู้ไหมทำไมบางคนก็หลงใหลบ้านสไตล์นี้กันนัก ทั้งๆ ที่บ้างคนก็รู้สึกว่ามันโล่ง เรียบ นิ่ง และเลี่ยนจนเกินไป แต่จริงๆ แล้วบ้านสไตล์มินิมอลลิสท์มันดีตรงที่ทำความสะอาดง่าย ทำให้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านโดดเด่น และยังไม่วุ่นวายอีกด้วย ว่าแต่ถ้าเราอยากให้บ้านเรามีสไตล์แบบนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง ลองมาดู 10 ข้อต่อไปนี้
1.เริ่มต้นด้วยเฟอร์นิเจอร์ สิ่งสำคัญที่สุดในห้องสไตล์มินิมอลลิสท์คือเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ในห้องนั้นแนะนำให้ใช้ไม่กี่ชิ้น และเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย เช่นโต๊ะกาแฟดีไซน์เรียบๆ ในโทนสีอ่อน
2.เลือกเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น ลองมองไปในห้องของคุณแล้วคิดว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นจริงๆ หรือไม่ ถ้าคุณสามารถใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่ต้องมีของเหล่านั้นก็ลองเอาเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน
3.ทำพื้นให้เลียบโล่ง นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว คุณควรเคลียร์พื้นห้องให้โล่ง ไม่มีสิ่งใดกีดขวางหรือตั้งอยู่บนพื้น
4.ผนังต้องมีความชัดเจน บางคนชอบแขวนอะไรไว้บนผนังเต็มไปหมด ดังนั้นวิธีคือการเคลียร์ผนังให้โล่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออาจเลือกประดับของบนผนังเพียงไม่กี่ชิ้น
5.กำจัดข้าวของที่รกสายตา ของที่กีดขวางสายตา หากคุณจะตกแต่งห้องในสไตล์มินิมอลลิสท์เราแนะนำให้กำจัดโดยนำพวกมันใส่ลิ้นชัก หรือชั้นวางให้เรียบร้อย
6.งานอาร์ตง่ายๆ บางคนอาจจะรู้สึกว่าห้องโล่งเกินไป แนะนำให้ประดับตกแต่งบ้านด้วยกรอบรูปแบบเรียบๆ โทนสีอ่อนหรือสีทึบลงบนผนังตามต้องการ
7.ตกแต่งห้องในสไตล์เรียบง่าย การใส่แจกันดอกไม้ กระถางต้นไม้ไว้ในห้องถือเป็นการตกแต่งที่เรียกว่าใช่สำหรับสไตล์นี้ แต่หากห้องของคุณสีอ่อนคุณอาจเลือกใช้สีแดง หรือสีเหลืองตกแต่งเพื่อทำให้ห้องดูมีพลังขึ้น
8.เลือกใช้หน้าต่างธรรมดา หน้าต่างโล่งๆ หรือมีม่านสีอ่อน สีทึบ หรือม่านไม้ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงสไตล์มินิมอลลิสท์ได้เช่นกัน
9.รูปแบบธรรมดา สีทึบคือสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปูพื้น หลีกเหลี่ยงการใช้ลายดอกไม้ หมากฮอสเพราะมันจะดูยุ่งเหยิงมากกว่า
10.สีอ่อน คุณสามารถใช้สีสดใสตกแต่งห้องได้ แต่ส่วนใหญ่ห้องสไตล์มินิมอลลิสท์จะเป็นสีอ่อน สีขาวคลาสสิก สีเข้ม สีน้ำเงิน สีเขียว พวกนี้ก็ได้เช่นกัน
ทราบเสน่ห์และข้อได้เปรียบของบ้านสไตล์มินิมอลลิสท์พร้อมวิธีจัดบ้านให้เรียบง่ายกันแล้ว ลองทำกันดูนะคะ
เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก http://zenhabits.net
ภาพจาก www.istockphoto.com