เยี่ยมบ้าน “หนุ่ย นันทกานต์” บ้านหลังน้อย กับความสุขเต็มพื้นที่

เดิมทีนักร้องและนักแต่งเพลงคุณภาพอย่าง “หนุ่ย นันทกานต์ ฤทธิวงศ์” ใช้ชีวิตเหมือนกับคนวัยทำงานส่วนใหญ่ที่เลือกพักอาศัยในคอนโดมิเนียมใกล้ที่ทำงานย่านใจกลางเมือง แต่เมื่อชีวิตกล่องสี่เหลี่ยมขนาดมาตรฐาน 30 กว่าตารางเมตรในย่านอโศกเริ่มตอบสนองชีวิตอย่างที่เธอต้องการได้ไม่เต็มที่ เธอจึงเกิดความคิดอยากมี “บ้าน” หลังย่อมๆ เพื่อหาความสุขจากผืนดินแทนความสุขความผืนฟ้าเหมือนการอยู่ในคอนโดมิเนียมเช่นแต่ก่อน

 

บ้านหลังย่อม แต่ความสุขเต็มที่

บริเวณรอบตัวบ้าน

“ตอนแรกซื้อคอนโดใกล้ตึกแกรมมี่ หลังๆ เริ่มคิดอยากหาที่ปลูกต้นไม้ และเรามีจักรยานพับได้ พออยู่คอนโดมันไม่มีที่ขี่ ทีนี้เลยคิดว่าควรหาพื้นที่ และต้องหาบ้านเพื่อจะได้ขี่จักรยาน ตอนนั้นตระเวนหาบ้านอยู่ประมาณ 2 ปี ขับรถหาไปทั่ว แต่มันไกลไป จนมาเจอละแวกนี้เรารู้สึกว่ามันใกล้ออฟฟิศ แล้วก็ญาติๆ เราอยู่แถวนี้ อีกอย่างมันอยู่ติดวงแหวนไปได้ทุกทิศ ขึ้นเหนือได้ ลงใต้ ออกหัวหิน พัทยา ใกล้สุวรรณภูมิ เวลาเดินทางไปต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดก็สะดวกดี”
คุณหนุ่ยซื้อบ้านหลังนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง และอยู่อาศัยมาได้ 6 ปีแล้ว บรรยากาศโดยรวมของหมู่บ้านและรอบๆ บ้านค่อนข้างเงียบสงบเป็นส่วนตัว ซึ่งตรงกับความต้องการของคุณหนุ่ย

โถงนั่งเล่น ที่เจ้าของบ้านมักใช้เวลาส่วนใหญ่พักผ่อนที่นี่

“ตอนนั้นเหลือแค่ 4 หลังสุดท้าย เราเลยเลือกบ้านหลังนี้ก่อนเลยด้วยศาสตร์อะไรหลายๆ อย่างทั้งตัวเลข ทำเล ทิศ ที่ชอบที่นี่เพราะมันเงียบ เราต้องการแบบนั้นเพราะเราพักผ่อน ตื่นเที่ยง ไม่ใช่เช้ามาเสียงดัง มีรถเข็นขายของ แต่ที่นี่เงียบทั้งวัน เพื่อนบ้านและสภาพแวดล้อมดีมาก”

พื้นที่บ้านประมาณ 50 ตารางวา ตัวบ้านสร้างจนเกือบเต็มพื้นที่เว้นพื้นที่รอบๆ ไว้ปลูกต้นไม้ บ้านเดี่ยว 2 ชั้นย่อมๆ แบ่งพื้นที่ด้านล่างเป็นโถงรับแขกที่เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร กั้นเป็นห้องครัวและห้องน้ำ ส่วนบริเวณด้านบนแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องและห้องพระ 1 ห้อง โดยห้องนอน 1 ห้องเป็นของคุณหนุ่ย ส่วนอีก 1 ห้องนอนนั้นกลายเป็นห้องเก็บเสื้อผ้า

เนื่องจากปกติคุณหนุ่ยชื่นชอบการออกแบบและตกแต่งอยู่แล้ว เมื่อมีบ้านเป็นของตนเองเธอจึงลงมือออกแบบบ้านเองทุกมุม โดยยึดหลักการตอบสนองความต้องการและการใช้งานของตัวเองเป็นหลัก

 

ของสะสมที่สามารถนำมาตกแต่งบ้านได้ด้วย

“เรื่องการตกแต่งเราทำเอง มันกึ่งๆ ผสมกันระหว่างยุโรปนิดๆ มีของสะสมจากการเดินทาง และชอบซื้อติดไว้เช่นแม๊กเน็ต เวลาเดินทางไปแต่ละประเทศต้องมีอะไรติดไม้ติดมือมาเสมอ ด้านล่างของบ้านถ้าตามแปลนบ้านจะต้องมีโต๊ะทานข้าว แต่เราเลือกทำเป็นบาร์เหล้าไว้วางอาหารสำหรับทานข้าว เพราะปกติเวลาเราตื่นนอนจะลงมาหาอะไรทานรองท้องเบาๆ ก่อนเข้าครัวทำอาหาร และบ้านหลังนี้คนไม่เยอะ ไม่จำเป็นต้องใช้โต๊ะ และบริเวณนี้ยังใช้เป็นพื้นที่สำหรับเล่นดนตรี ถ่าย MV เราเลยไม่ได้ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ยึดติดกับพื้นที่มากนัก มันต้องสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก”

พื้นที่ๆ คุณหนุ่ยมักใช้เวลาอยู่เป็นส่วนใหญ่คือบริเวณห้องนั่งเล่นที่เจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนเป็นทั้งที่นั่งเล่น อ่านหนังสือ ดูทีวี และทานข้าวในบางครั้ง ดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างคุณหนุ่ยจึงมักเลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่า เพราะไม่ชอบออกไปข้างนอก ไม่ชอบเดินห้าง

 

เปียโน เครื่องดนตรีอีกชิ้นหนึ่งที่ขาดไม่ได้

มุมนั่งเล่น เมื่อมองออกไปนอกบ้านแสนสบายตา

นอกจากนั่งอ่านหนังสือ นั่งเล่นแล้ว คุณหนุ่ยยังใช้เวลาส่วนหนึ่งในการดูแลสวนรอบๆ บ้านที่ออกแบบ ลงแรงเลือกต้นไม้ ปลูก ดูแลมาตั้งแต่แรก แบบที่ยังไม่มีต้นไม้จนกลายเป็นสวนเขียวๆ รอบบ้านเช่นในปัจจุบัน

 

แสงแดดยามเย็น ที่ชวนให้รู้สึกถึงความสงบ

 

ความร่มรื่นรอบๆ ตัวบ้าน

มะนาว ผักสวนครัวแห่งความภาคภูมิใจ ปลูก 5 ปี ถึงได้ทาน

“สวนเราเปลี่ยนมา 3-4 รอบแล้ว ช่วงแรกตอนส่งมอบบ้านมันโล่ง ไม่มีต้นไม้ เป็นต้นไม้เล็กๆ เราก็จะลงหญ้าแบบหนึ่ง หญ้าพวกนี้ชอบแดด แต่พอเราลงต้นไม้ใหญ่ หญ้าก็ตาย ต้องเปลี่ยนเป็นสวนหิน แล้วเราจะรู้ว่าไม้แบบไหนที่อยู่รอดหรือไม่รอด ไม้รำไรเลี้ยงง่ายตายยาก ไม้ชอบแดด เราชอบไปซื้อต้นไม้ เอาแบบเลี้ยงง่ายตายยาก จริงๆ อยากจะปลูกทุกอย่างที่ใช้สอยได้ด้วย ผักทุกอย่างที่เป็นสวนครัว แต่ผักสวนครัวชอบแดด ฝั่งสวยงามมันไม่ค่อยมีแดด เลยปลูกไม่ได้ ปลูกแล้วจะตาย จะเอาไปฝั่งข้างบ้านปลูกมะนาว พริก กระเพรา ฯลฯ ปลูกไว้กินไว้ใช้ มะนาวปลูกมา 5 ปีได้กินเต็มต้นเลย มีข่าด้วย ที่เราเอาไว้ทำต้มยำ เลี้ยงง่ายมาก”

บ้านหลังนี้แม้จะมีพื้นที่ใช้สอยแบบกะทัดรัด แต่คุณหนุ่ยก็มีความสุขกับ “บ้าน” ของเธอ ไม่ว่าจะหลับจะนอน จะทานอาหาร เล่นดนตรี ทำอาหาร มีปาร์ตี้สังสรรค์ระหว่างเพื่อนและคนสนิท กิจกรรมแห่งความสุขเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นภายในบ้าน ที่เธอขอจำกัดความตามคนโบราณว่า “บ้าน” คือ “ วิมาน” ของเรา