บ้าน "ลูกเป็ดขี้เหร่" สำหรับพ่อและแม่
หลายๆ คนนอกจากจะคิดสร้างบ้านอยู่เองแล้วยังมีความฝันอยากสร้างบ้านให้คุณพ่อ คุณแม่อีก คุณ aiaea83 จากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอมก็เช่นกันที่คิดแบบนั้นเพราะบ้านเก่าหลังเดิมผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะทุกภัยพิบัติ จนเกิดความคิดอยากสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับคุณพ่อคุณแม่ทั้งๆ ที่พื้นที่บ้านแสนแคบ ลองมาดูกันค่ะว่าบ้านของคุณ aiaea8 จะหน้าตาออกมาเป็นแบบไหน
สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนค่ะ เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกในชีวิต เพราะส่วนมากจะตั้งกระทู้ถามผู้รู้ ... เอาละนะคะ จะเริ่มเกริ่นที่ไปที่มาก่อนจะมาเป็นบ้านลูกเป็ดขี้เหร่ (อาจตกหล่นหรือคำพูดชวนงงไปบ้างต้องขอประทานอภัยด้วยนะคะ)
สืบเนื่องจากบ้านหลังเก่าสร้างมาได้ยี่สิบกว่าปี ซึ่งบ้านก็ผ่านทั้งน้ำท่วม ทั้งแผ่นดินไหว จนเริ่มผุพังตามกาลเวลาค่ะ ถึงแม้จะซ่อมแซมแต่มันก็ไม่ทำให้อุ่นใจได้ เนื่องจาก
1. พื้นที่ของบ้านเรานั้นต่ำกว่าบ้านที่ขนาบข้างค่ะ เวลาน้ำท่วมหรือฝนตก น้ำมักจะไหลมาขังบ้านเราตลอดค่ะ
2. เพราะแผ่นดินไหว ทำให้บ้านเริ่มแตกร้าวค่ะ
3. สายไฟบ้านมันเก่ามากค่ะ เวลาดูข่าวไฟไหม้เพราะสายไฟเก่าก็กลัว
ดังนั้น พี่สาวกับเจ้าของกระทู้ก็เริ่มปรึกษากันว่าอยากจะสร้าง บ้านใหม่น่าอยู่ แทนหลังเก่าให้พ่อกับแม่ค่ะ ซึ่งท่านก็มีอายุแล้ว อยากให้อยู่แบบสบายๆ ไม่ต้องทนปวดหัวกับเรื่องน้ำบ้าง ไฟบ้างค่ะ
เมื่อตกลงกันได้ เราก็นำโฉนดไปปรึกษากับกองช่างของเทศบาลตำบลที่เราอยู่เพื่อให้ทางเขาออกแบบให้ แต่ก็เริ่มเจอปัญหาคือ ช่างไม่สามารถออกแบบให้ได้เพราะพื้นที่บ้านเราแคบค่ะ เนื้อที่ของบ้านเรา หน้าบ้านกว้าง 7.5 เมตร ด้านหลังกว้าง 8.5 เมตร ยาว 50 เมตร (ในนี้อยากจะหักครึ่งมาต่อกันเป็นผืนกว้างจริงๆ ค่ะ) ช่างเขาบอกให้หาบริษัททำเอง เจ้าของกระทู้กับพี่สาวก็เริ่มคิดหนัก ได้แต่งงและมึนเพราะไม่รู้จะเริ่มหาบริษัทไหนมาทำ เพราะเวลาเข้ามาหาความรู้ใน กระทู้ชายคา หลายๆ คนมักถูกช่างรับเหมาโกงบ้าง หนีงานบ้าง เราก็เริ่มกลัว
จนผ่านไปหลายอาทิตย์ เจ้าของกระทู้กับแม่ก็ผ่านไปเจอบ้านคนรู้จักกำลังสร้าง ซึ่งผลงานที่เห็นก็สวยเตะตามากค่ะ เลยได้พูดคุยกับหัวหน้าของบริษัท ซึ่งเขาได้ให้คำแนะนำมาเป็นอย่างดีค่ะ และสามารถออกแบบในสิ่งที่เราต้องการได้ จึงตกลงจ้างบริษัทนี้ค่ะ
อย่างแรกที่ต้องทำคือ ก่อรั้วค่ะ เพราะเราต้องการที่จะถมดินขึ้นจากเดิมประมาณ 50 cm ก็ได้ช่างของบริษัทค่ะ กำแพงอิฐบล็อกฉาบด้านเดียว สูง 2 เมตร ยาว 59 เมตร (100,000 บาทค่ะ)
เมื่อก่อรั้วเสร็จ เราก็เริ่มประกาศขายบ้านเดิมค่ะ ซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ไม้ชั้นสองเกือบทั้งหมดเป็นไม้สักค่ะ พอดีข้างบ้านมีโรงงานทำฟอร์นิเจอร์เลยติดต่อขายให้ทางเขาค่ะ (แอบเสียดายพวกวงกบกับประตูบานเฟี้ยมมากค่ะ)
เริ่มรื้อค่ะ
พอรื้อเสร็จ เราก็ไม่มีที่นอน มันเป็นช่วงเวลาที่แสนจะลำบากมากค่ะ ไม่มีที่นอนและห้องน้ำ จะให้ไปนอนที่อื่นก็ไม่ได้เพราะเป็นห่วงน้องหมาและน้องแมวหลายชีวิต เลยต้องซื้อเต้นท์สนามมากางนอนทั้งครอบครัว และอาศัยห้องน้ำบ้านญาติที่อยู่ใกล้บ้าง ห้องน้ำปั้มบ้าง
และตอนนี้เอง ธนาคารสีฟ้าที่ยื่นกู้ก็ติดต่อเพื่อเข้ามาประเมิน ผ่านไป 3 วัน ทางธนาคารก็โทรแจ้งว่ายอดเงินที่ต้องการผ่านค่ะ (ช่วงรอนี่อย่างกลัวว่าจะไม่ผ่านสุดๆ ค่ะ)
แล้วก็เริ่มถมดินค่ะ พอดีรู้จักกับคนรับถมดิน เลยได้ลดราคานิดหน่อยค่ะ (38,080 บาท ... สูง 60 cm)
พอถมดินเสร็จ ทางบริษัทก็ได้เข้ามาวัดระดับน้ำค่ะ พอได้แล้วก็ใช้เชือกถูกทำเครื่องหมายไว้ พออีกวันก็เริ่มเข้ามาขุดเพื่อวางเสาเอกค่ะ
วันที่ 9 มีนา 58 เวลา 09:09 น. บ้านเราได้ทำพิธีลงเสาเอกค่ะ (เริ่มแล้วบ้านของเรา)
พอลงเสาเอกแล้ว ก็เริ่มลงเสาต้นต่อไปค่ะ ซึ่งทางช่างเขาบอกว่าใส่เหล็ก 8 เส้น จะได้ไม่ต้อกังวลเรื่องแผ่นดินไหวค่ะ (รูปเยอะมากค่ะ อาจจะเล่าได้ไม่หมด เล่าด้วยภาพแล้วกันนะคะ)
เริ่มวางคานคอดินค่ะ ถมดินสูง 60 cm และยกบ้านอีก 50 cm หนีน้องน้ำสุดตัวค่ะ
ติดตั้งไม้แบบคานคอดินค่ะ
เริ่มตั้งเสาชั้นหนึ่งค่ะ
ปัญหาเกิดอีกแล้วค่ะ เนื่องจากแผ่นสำเร็จที่ทางร้านนำมามันแตกร้าวเยอะมากค่ะ นี่ยังคิดว่า ถ้าไม่ยืนดูคงถูกวางเต็มชั้นหนึ่งไปแล้ว
เมื่อพื้นชั้นหนึ่งแห้งก็เริ่มตั้งตุ๊กตาไม้ค้ำคานชั้นสองค่ะ
เทคานและเสาชั้นสองค่ะ
พอเทเสาเสร็จทิ้งไว้ประมาณ 2 วันก็แกะไม้แบบคานและเสาออก และเริ่มวางแผ่นสำเร็จชั้น 2
เทพื้นชั้น 2
เมื่อพื้นแห้งดีแล้วก็เริ่มตั้งตุ๊กตาค้ำคานค่ะ เนื่องจากเราจะซ่อนหลังคาไว้ด้านใน
สิบกว่าวันเห็นจะได้ คนงานก็เริ่มเอาไม้ค้ำชั้น 1 ออกเพื่อเตรียมที่จะก่อค่ะ
แล้วก็เริ่มก่อจากชั้น 1
ในระหว่างทำก็จะมีผู้คุมคอยจ้องมองดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ค่ะ
ผ่านไป 5 วัน ชั้น 1 ก็สำเร็จค่ะ และเริ่มก่อชั้น 2 (คนงานช่างชุดนี้งานเขาไวจริงๆ ค่ะ วันอาทิตย์ไม่หยุดเลย ทำให้งานเดินเร็วมาก จนคนงานต้องเดินมาถามโฟร์แมนที่คุมว่า ต้องทำอะไรอีก เพราะอิฐหมดแล้ว)
ชั้น 2 ก็มาค่ะ เมื่ออิฐมาส่งพร้อมใช้
ช่วงที่ก่อชั้น 2 ช่างเหล็กอีกกลุ่มก็เข้ามาทำโครงหลังคาค่ะ เราใส่กระเบื้องลอน เพราะพ่อกับพี่ไม่อยากได้เมททัลชีทเนื่องจากเสียงดัง
พอใส่กระเบื้องลอนปุ๊บ ทำให้เจอปัญหาทันทีค่ะ เนื่องจากสถาปนิกออกแบบให้ลาดชันน้อยเกินไป บวกกับคนที่สั่งของสั่ง ตะขอเกี่ยวกระเบื้องแบบสมัยก่อนไม่เป็น ลอนเลยกระดก ฝนตกทีถึงกับนองพื้นค่ะ เลยทำให้ต้องรื้อกระเบื้องออกใหม่หมด ซึ่งกว่าจะไม่รั่วก็กินเวลาเป็นเดือนค่ะ โชคดีที่ช่วงนั้นฝนตก เราเลยได้เช็คสภาพว่ามันยังรั่วอยู่หรือเปล่า พอไม่รั่วก็เดินหน้าต่อค่ะ
ท่อน้ำและท่อไฟใช้ช่างคนละชุดหมดค่ะ งานเลยไวมาก (แต่บ้านแคบลงไปถนัดตาเพราะคนเยอะเหลือเกิน)
บ้านพร้อมฉาบแล้วค่า
โดยช่างจะใช้น้ำรดอิฐก่อนที่จะฉาบรอบแรกค่ะ เสร็จแล้วก็จะนำตาข่ายบางๆ ปิดทับช่วงเอ็นทับหลังทั้งหลังค่ะ
ช่างเริ่มช่วยกันฉาบ โดยเริ่มจากหลังบ้านค่ะ
การขัดมันนี่มันช่างบีบหัวใจจริงๆ ค่ะ คือกลัวมันจะออกมาไม่สวยอย่างที่อยากได้ แต่ดีที่ช่างสร้างบ้านแนวนี้มาหลายหลังเลยทำให้ง่ายขึ้นค่ะ
ที่จริงบ้านแนวโมเดิร์นแบบนี้ เป็นความต้องการและอยากได้ของลูกสาวทั้งสองค่ะ แม้ตอนแรก พ่อกับแม่จะไม่ค่อยชอบ เพราะไม่เคยเห็น เนื่องจากบ้านในหมู่บ้านจะมีแต่แบบบ้านทรงจั่วเหมือนๆ กัน ซึ่ง บ้านเราเป็นบ้านทรงโมเดิร์นหลังแรกของหมู่บ้านค่ะ และพอออกมามันสวยถูกใจ พ่อกับแม่ก็เลยชอบใจไปด้วยค่ะ ^^
เริ่มตกแต่งตามแบบที่เราต้องการค่ะ เริ่มจาก ก่ออิฐโชว์ ตอนแรกอยากจะทาสีขาว แต่ช่างบอกว่ามันจะซีดไป เป็นสีอิฐดีกว่า เอ๊า เชื่อก็เชื่อค่ะ (ช่างที่ทำนี่ใจเย็นมากค่ะ ค่อยๆ ทำไป วัดไป วางไป)
และช่างเหล็กชุดเดิมก็มาทำบันได เราใช้เหล็กไอบีมค่ะ ซึ่งตอนแรกพ่อบ่นหนักมากเพราะมันมีเส้นเดียว เขากลัวมันเอียงไปมา แต่พอทำแล้วมันแข็งแรงมากค่ะ
ต่อไปก็เริ่มติดกระเบื้องผนังห้องน้ำค่ะ ซึ่งใช้ช่างที่ทำอิฐโชว์ (เนื่องจากฝีมือดีที่สุดของกลุ่ม) เป็นห้องน้ำที่ตามใจฉันมากค่ะ จับปนๆ กัน มีหลายแนว จนเริ่มสงสัย นี่มันสวยเหรอฟะ
เมื่อห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็เริ่มพื้นชั้น 2 และชั้น 1
เริ่มติดตั้งไฟค่ะ
แต่แล้วปัญหาก็เกิดกับขอบหน้าต่างค่ะ ฝนตกเยอะทำให้ซัดขอบหน้าต่างและไหลนองพื้นค่ะ แก้ไม่หายสักที
งานบันไดที่มีแต่เหล็ก ช่างก็เข้ามาติดไม้ค่ะ ซึ่งใช้ไม้ฉำฉาเป็นตัวบันได ซึ่งเราอยากได้ลูกเล่นนิดๆ หน่อยๆ และได้ติดตามในกระทู้ชายคาก็มีหลายไอเดียที่ได้มาใช้ค่ะ เลยบอกช่างว่าอยากได้แผงเหล็กกั้นบันไดด้านซ้าย ด้านขวาขอราวจับ โดนใช้เอ็นขึงเป็นดีไซน์
โรงรถค่ะ พอดีเห็นแบบในอินเตอร์เน็ตแล้วชอบเลยส่งให้ช่างดู แต่พอออกแบบมาไม่ค่อยเหมือนแต่ก็พอรับได้ค่ะ
เมื่องานในบ้านเริ่มแล้วเสร็จ ก็มาถึงหน้าบ้านค่ะ เราตกลงกับทางช่างว่าจะเทเต็มพื้นที่ด้านหน้า และตอนนี้ก็เริ่มหนักใจเรื่องประตูรั้วหน้าบ้านค่ะ เพราะหน้าบ้านแคบ จะใช้ประตูแบบไหนดีที่สามารถมีพื้นที่ให้กว้างมากที่สุด จนมาจบลงตรงที่ ใช้รั้ว 2 รางค่ะ โดยเริ่มก่อสองข้างเข้ามาอย่างละเมตรนิดๆ
หลังบ้านนี่เราได้เพิ่มหลังคาโพลีเหมือนโรงรถค่ะ
บ้านหลังนี้ที่เรียกว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ ก็เพราะว่ามันเป็นบ้านที่แปลกแยกไม่เหมือนกับบ้านหลังอื่นๆ ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าสวย หรือไม่สวย เพราะบ้านเราสร้างจากความต้องการที่ผสมปนเปชนิดที่เรียกได้ว่า มั่ว มากค่ะ แต่เราก็ภูมิใจที่ทำให้พ่อกับแม่ได้มีชีวิตที่แสนสบายในบ้านหลังใหม่ ซึ่งถึงแม้ในตอนแรกท่านทั้งคู่จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่พอออกมาสวยงามจนคนในหมู่บ้านต้องแวะเวียนมาขอชม ท่านทั้งคู่ก็ถึงกับยิ้มออกค่ะ เราเคยมานั่งคุยกันทั้งครอบครัว พ่อกับแม่ได้พูดว่า ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้มาอยู่บ้านแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นเราก็น้ำตาคลอเหมือนกันค่ะ กว่าบ้านหลังนี้จะเสร็จสมบูรณ์อาจจะต้องรออีกสักหน่อย แต่พอถึงวันนี้อยากจะขอบคุณเพื่อนของพี่สาวที่ให้พวกเรายืมเงินก้อนหนึ่งมาใช้ในช่วงแรก และขอบคุณพี่ป้าน้าอาที่ช่วยเหลือ และขอบคุณพี่สาวที่สร้างฝัน สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา และขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้พวกเรามีแรงผลักดันสร้างบ้านนี้ขึ้นมา ใช้เวลา 6 เดือนเต็มกับการรอคอย