10 ชิ้นพิฆาต กำจัด “มด” ได้อยู่หมัด

เข้าใจว่าปัญหา “มด” คงเป็นปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เหมือนขนาดตัวของมัน เพราะนอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับเจ้าของบ้านแล้ว มดบางประเภทยังกัดเจ็บ บางคนหากแพ้ก็อาจเป็นไข้และได้รับอันตรายจากมดได้
Sanook! Home เลยอยากให้ทุกคนลองมี 1 ใน 10 ชิ้นต่อไปนี้ติดบ้านไว้ รับรองมดเห็นแล้วชวนกันวิ่งหนีเป็นกองทัพแน่

1.เทปกาว หากมีมดเดินรอบๆ ชิ้นขนมหวานที่หกล่นบนพื้น หรือบริเวณเคาน์เตอร์ในห้องครัว ให้ใช้เทปกาวกั้นเป็นลักษณะเหมือนล้อมกำแพงรอบๆ ชิ้นขนมเหล่านั้น โดยกลับเอาด้านกาวเหนียวๆ ขึ้น เพียงเท่านี้มดก็จะติดกับดัก

2.ชอล์ก ใช้ชอล์กขีดรอบๆ บริเวณที่มดเดิน มดจะถูกขับไล่โดยแคลเซียมคาร์บอเนตจากชอล์ก หากผงชอล์กกระจายไปทั่ว มดก็จะไม่มารบกวนเราอีก

3.แป้ง โรยแป้งเป็นเส้นบริเวณหลังตู้ หรือบริเวณที่มีมดเดินอยู่ มดก็จะไม่เดินข้ามผงแป้งที่เราโรยไว้เป็นแนวยาว

4.กระถางดอกไม้ หากบริเวณสวนในบ้านของคุณกำลังถูกมดไฟโจมตี ให้ใช้กระถางดอกไม้ช่วยแก้ปัญหาด้วยการคว่ำกระถางต้นไม้ไว้เหนือรังมด จากนั้นเทน้ำเดือดลงโดยให้ผ่านรูกระถาง น้ำร้อนจะทำลายรังของมดโดยสิ้นเชิง

5.มะนาว คุณไม่จำเป็นต้องใช้กำดักหรือยาฆ่าแมลงภายในห้องครัวของคุณ เพราะมันสามารถแก้ไขได้ด้วยมะนาว โดยการพ่นน้ำมะนาวลงบริเวณประตู หน้าต่าง หรือบีบน้ำมะนาวลงในรูที่มีมด จากนั้นโยนมะนาวชิ้นเล็กๆ ไปให้ทั่วบริเวณกลางแจ้ง นอกจากนี้มะนาวยังมีประสิทธิภาพในการไล่แมลงสาบและหมัดได้อีกด้วย ด้วยการผสมน้ำมะนาวพร้อมเปลือกประมาณ 4 ผล เข้ากับน้ำเปล่าประมาณครึ่งแกลลอนหรือประมาณ 2 ลิตร จากนั้นนำน้ำที่ได้ราดลงบนพื้นที่มีแมลงสาบและหมัด

6.ส้ม กำจัดมดที่ระเบียงบ้าน ในสวน หรือบริเวณที่มีมดรบกวนด้วยการนำเปลือกส้มไปปั่นให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำอุ่นก่อนจะเทไปที่รังมด

7.พริกไทย โรยพริกไทยในจุดที่มดมารบกวน

8.กล่องพลาสติก มดมักจะเดินตามกลิ่นอาหารและไต่ขึ้นมาตามขาโต๊ะ ดังนั้นวิธีวิธีที่จะกำจัดพวกมันได้คือการวางกล่องพลาสติกไว้ใต้ขาโต๊ะหรือเก้าอี้ จากนั้นเติมน้ำลงไปในกล่องพลาสติก มดจะไม่สามารถไต่ขาโต๊ะหรือขาเก้าอี้ได้เหมือนเดิม

9.เกลือ ถ้ามดเดินเป็นแถวภายในบ้านคุณ ให้คุณโรยเกลือบริเวณประตูหรือบริเวณหน้าต่าง มดจะไม่กล้าข้ามเส้นทางของเกลือเช่นกัน

10.แป้งฝุ่น โรยแป้งฝุ่นให้ทั่วบริเวณบ้าน หรือบริเวณที่มีมดเดินเป็นแถวอยู่ ก็จะสามารถกำจัดการรบกวนของมดได้

นี่คือ 10 วิธีกำจัดมดแบบคร่าวๆ ง่ายๆ ที่คุณไม่ต้องพึ่งสารเคมี

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก http://www.rd.com/home

ภาพจาก www.istockphoto.com