งานออกแบบ “สยามดิสคัฟเวอรี่” หลังรีโนเวท 1 ปี ด้วยงบ 4 พันล้านบาท

หลังปิดห้างสรรพสินค้าและใช้เวลา 18 เดือนวางแผนคอนเซ็ปต์การออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่ง ฯลฯ ทั้งยังใช้เวลาอีก 12 เดือนในการก่อสร้าง ดีเดย์วันพรุ่งนี้ (28 พฤษภาคม 2559) สยามดิสคัฟเวอรี่ (Siam Discovery) พร้อมเปิดปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนทุกคนด้วยคอนเซ็ปต์ไลฟ์สไตล์สเปเชียลตี้สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่จะเปรียบเป็นสนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์เพราะจากพื้นที่ทั้งหมด 40,000 ตารางเมตร ที่ใช้เงินลงทุนไป 4 พันล้านบาท ตั้งใจให้สถานที่แห่งนี้เข้าถึงใจลูกค้าได้มากที่สุด เพราะเป็นการผสมผสานกลุ่มสินค้าตามเรื่องราวความสนใจของผู้คนที่หลากหลาย และเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกมิกซ์แอนด์แมตซ์ ทดลอง ปรับแต่ง พลิกแพลง และสร้างสรรค์สินค้าที่ซื้อให้เป็นไปตามที่ตนเองต้องการได้

โอกิ ซาโตะ นักออกแบบผู้รังสรรค์ผลงานโฉมใหม่ของสยามดิสคัฟเวอรี่ และดิสคัฟเวอรี่แมน คาแรกเตอร์ดีไซน์ที่ออกแบบเป็นหุ่นมีหัวเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมสื่อความหมายถึงความพร้อมในการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มากมาย

รูปแบบที่เปลี่ยนไปของสยามดิสคัฟเวอรี่ที่เห็นได้ชัดเจนคือการเปิดโล่งพื้นที่ในแต่ละชั้นถึงกันหมด ไม่มีการกั้นผนังแบ่งร้านค้าเป็นร้านๆ เช่นเดิม อีกทั้งยังใส่ใจในการออกแบบและตกแต่งที่ได้นักออกแบบชื่อดังโอกิ ซาโตะ ผู้ก่อตั้ง nendo ดีไซน์สตูดิโอชื่อดังจากญี่ปุ่นมาเป็นผู้ออกแบบทั้งหมด ซึ่งเขาบอกว่านี่เป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่สุดของเขาเท่าที่เคยสร้างสรรค์มา

งานออกแบบบริเวณชั้น G Her Lab ห้องลองเสื้อผ้าที่จะสะท้อนให้คุณเห็นความโดดเด่นของตัวเองทุกมุม ด้วยการออกแบบที่มีกระจกรอบด้าน ใช้เส้นสายการตัดกันเป็นตารางดูมีมิติ

ห้องลองเสื้อผ้าแบบ Super Private

ลักษณะที่สังเกตได้คือตัวห่างมีความโล่ง โปร่ง และเน้นการใช้โทนสีสว่างรวมถึงลักษณะเด่นของกราฟิก ลายเส้นต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกถึงความตื่นตาตื่นใจ ซึ่งกระจายตัวไปตามชั้นต่างๆ ทั้งหมด 6 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีชื่อเรียกให้แตกต่างกันตามสินค้าและบริการ

อีกหนึ่งรูปแบบงานดีไซน์ ที่แท้คือร้านขายแว่นตา

นอกจากนี้อีกโซนหนึ่งที่พิเศษมากสำหรับทุกชั้นนั่นคือ Discovery Lab ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อค้นหาความเป็นตัวคุณ

อลังการดาวล้านดวง กับงานดีไซน์สำหรับโซน His Lab ชั้น M รวมสินค้าดูแลบุคลิกภาพสำหรับคุณผู้ชาย

สินค้าถูกจัดวางไว้แบบให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าได้อย่างง่าย รวมทั้งยังสามารถทดลองสินค้าที่ต้องการได้ตามความพึงพอใจ

Display ชั้น 2 Digital Lab

เส้นสายกราฟิก ที่นักออกแบบนำมาเป็นลูกเล่นภายในห้างสรรพสินค้า

นอกจากงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีผลงานศิลปะจัดวางในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ออกแบบโดยทีม Black Egg นำรูปภาพทั้งในอดีตและปัจจุบันจากโซเชียลมีเดียของผู้เข้าชมมาเรียงร้อยจัดแสดงเป็นไทม์ไลน์ชีวิตบนจอภาพขนาดยักษ์ รวมทั้งยังมีนิทรรศการผลงานการออกแบบ nendo Exhibition ที่จะพาทุกคนท่องไปในโลกแห่งการออกแบบ