ลอกต้อเนื้อ... เพื่อดวงตาสดใสไม่บดบัง

ต้อเนื้อ เป็นภาวะการเสื่อมสภาพของกระจกตา (ส่วนที่อยู่ด้านหน้าของตาดำ) ลักษณะเป็นเนื้อเยื่อสีครีมรูปสามเหลี่ยม มีฐานที่เยื่อบุตาขาวและปลายงอกเข้าสู่ใจกลางตาดำ หลายท่านเข้าใจว่ามักพบเฉพาะในคนสูงอายุความจริงแล้วมีโอกาสพบในคนหนุ่มสาววัยทำงานได้ค่ะ สาเหตุที่ทำให้กระจกตาเสื่อมสภาพมาจากสายลมและแสงแดด โดยปกติกระจกตาจะมีน้ำหล่อลื่นตลอดเวลา แต่ถ้าถูกลมหรือแสงแดดบ่อยๆ ตาก็จะแห้งและเกิดการเสื่อมสภาพได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เพราะอายุหรือวัยที่เพิ่มมากขึ้นเพียงอย่างเดียวอย่างที่เข้าใจ ถึงจะอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่ถ้าต้องมีวิถีชีวิตที่ต้องโกรกแดดโกรกลมอยู่บ่อย ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะถูกต้อเนื้อเล่นงานเอาได้ค่ะ ผู้ป่วยที่เป็นต้อเนื้อจะมีอาการเคืองตา ตาแดงเป็น ๆ หาย ๆ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไม่รักษา ต้อเนื้อจะค่อย ๆ ลุกลามเข้าไปในใจกลางตาดำ ทำให้บดบังการมองเห็นสำหรับคนวัยหนุ่มสาวคงพ่วงความกังวลเรื่องความสวยงามเข้ามาด้วยแน่นอน อย่างนี้แล้วก็ต้องรีบหาทางรักษาค่ะ ต้อเนื้อไม่สามารถหายเองได้และความเชื่อที่ว่า มียาหยอดตาให้ต้อเนื้อหายไปนั้นก็ไม่มีมูลความจริงแต่ย่างใดทางที่ดีควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมจะดีกว่า แนวทางการรักษาต้อเนื้อจะพิจารณาตามความมากน้อยของอาการ ในกรณีที่เป็นต้อเนื้อระยะแรก นั่นคือ ต้อเนื้องอกเข้าไปในตาดำไม่ถึง 1 ใน 3 ของความกว้างของตาตำแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยสวมแว่นที่มีเลนส์ป้องกันรังสี UV และยังช่วยปกป้องลมได้ด้วย ร่วมกับการใช้ยาหยอดตาควบคุมการอักเสบของต้อเนื้อ ขืนปล่อยให้ต้อเนื้อมีการอักเสบบ่อย ๆ อาจจะโตเร็วได้ค่ะ ส่วนต้อเนื้อที่งอกลุกลามเข้าไปในตาดำเกิน 1 ใน 3 ของความกว้างของตาดำ ควรผ่าตัดลอกออกก่อนที่จะเข้าสู่ใจกลางตาดำ เพราะถ้าปล่อยไปถึงขั้นนั้นแล้ว แม้จะลอกออกได้แต่ก็มักจะเกิดแผลเป็นทำให้กระจกตาขุ่นมัวและการมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนเติม ท่านใดที่เคยคิดว่าประวิงเวลาไว้ก่อนค่อยมาลอกเมื่อไหร่ก็ได้ คงต้องทำความเข้าใจใหม่นะคะ สำหรับการผ่าตัดลอกต้อเนื้อเป็นการผ่าตัดที่สะดวก ไม่ยุ่งยาก แพทย์จะใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ และใช้เวลาในการทำประมาณ 1/2 1 ชั่วโมงเท่านั้นเมื่อเสร็จแล้วผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องนอนพักค้างคืนที่โรงพยาบาล หลังผ่าตัดลอกต้อเนื้อออกแล้ว โอกาสที่ผู้ป่วยจะกลับไปเป็นใหม่ก็มีทางเป็นไปได้ หากยังคงมีวิถีชีวิตแบบเดิม ๆ คือตายังคงถูกลมและแสงแดดมาก ๆ ด้วยเหตุนี้ แพทย์จึงมักจะให้ยาหยอดตาป้องกันการกำเริบหลังผ่าตัดทุกรายค่ะ ตัวผู้ป่วยเองก็ควรหาทางป้องกันด้วยการสวมแว่นตาที่มีเลนส์ป้องกันรังสี UV และเป็นการปกป้องลมไปด้วยอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ (ได้แก่ น้ำมันตับปลา นมและผลิตภัณฑ์นมไข่แดง ตับหมู ตับวัว ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีเนื้อสีเหลืองและสีส้ม ฯลฯ) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมที่สร้างสารเมือกและไขมัน ทำให้ผิวกระจกตาและเยื่อบุตาขาวชุ่มชื่น สามารทนแดดทนลมได้ดีขึ้น โอกาสที่จะเกิดต้อเนื้อก็จะช้าลงหรือไม่เกิดขึ้น เพียงเท่านี้ดวงตาหน้าต่างของหัวใจก็จะสดใสไปอีกนานค่ะ