5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อผ้าปูที่นอน

5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อผ้าปูที่นอน

5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อผ้าปูที่นอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เราได้รับคำบอกเล่ามาเป็นเวลานานแล้วว่าผ้าปูที่นอนคุณภาพดีจะต้องทอด้วยเส้นใยจำนวนมาก จำนวนเส้นใยที่ทอลงไปในพื้นที่ 1 ตารางนิ้วนั้นเรียกว่า Thread  Count ผ้าปูที่นอนที่มีจำนวน Thread Count ยิ่งมากเท่าไหรก็ยิ่งดี แต่ในความเป็นจริงแล้วเส้นด้ายหรือเส้นใยที่นำมาใช้ทอผ้าปูที่นอนมีด้วยกันหลายชนิด คุณสมบัติก็แตกต่างกันไป เช่น  เป็นเส้นใยคุณภาพสูงแต่หากจำนวน Thread Count น้อยกว่า เส้นใยชนิดอื่น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพต่ำกว่า ดังนั้น ในการเลือกซื้อ เราจะดูจากปริมาณเส้นใยอย่างเดียวไม่ได้ แต่ควรพิจารณาอีก 5 สิ่งต่อไปนี้

เส้นใย มีหลายชนิด เส้นใยที่ได้รับการยอมรับว่า ให้ความสบายมากที่สุด คือคอทตอน เนื่องจากสัมผัสนุ่ม และถ่ายเทอากาศได้ดี ซับเหงื่อ เหมาะสำหรับใช้ในสภาพอากาศอบอุ่น แต่สำหรับในสภาพอากาศหนาวเย็นแล้ว ไหม จะเป็นทางเลือกทีดีกว่า ส่วนใยสังเคราะห์ หรือโพลีแอสเตอร์นั้น เป็นเส้นใยที่มีความทนทาน ใช้งานได้นาน และมีราคาถูก

วิธีการทอ  เป็นตัวบ่งบอกถึงความรู้สึกในการสัมผัส และรูปลักษณ์ของผ้า การทอนั้น มีทั้งการทอในแนวตั้งและแนวนอน ทอหยาบ ทอละเอียด เนื้อผ้าซาติน มักจะทอในแนวตั้งมากกว่าแนวนอน ทำให้เนื้อผ้าดูเป็นมันเงา สัมผัสนุ่มนวลเหมือนไหม แต่มักจะไม่ทนเท่าไหร่นัก

สถานที่ผลิต  เมื่อเราดูชนิดของเส้นใยการทอแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาขั้นต่อมาคือสถานที่ผลิต ในบางประเทศ เช่น ฝรั่งเศส และอิตาลี ได้รับการยอมรับว่า เป็นประเทศที่มีทักษะในการผลิตเครื่องนอนสูง ไม่ว่าผ้าจะส่งมาจากที่ไหน ก็สามารถผลิตออกมาให้เป็นเครื่องนอนระดับแนวหน้าได้

การย้อมสี ถ้าเป็นผ้าปูที่นอนราคาไม่แพง กระบวนการย้อม และการใส่ลวดลาย จะมีขึ้นหลังการทอ เมื่อนำออกมาใช้ใหม่ ๆ ผ้าจะแข็ง ยิ่งซัก ผ้าก็จะยิ่งนุ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นผ้าราคาแพง จะย้อมสีลงไปบนเส้นใยก่อนกระบวนการทอ ซึ่งจะทำให้ผ้านุ่มกว่ามาก

ขั้นตอนสุดท้าย ผ้าปูที่นอนบางรุ่น ก็มีการใส่น้ำยาเพื่อป้องกันไม่ให้ผ้ายับ หรือ Wrinkle-free บางรุ่นกันเนื้อผ้าหดตัว บางรุ่นเพิ่มความเงางามเป็นพิเศษ น้ำยาพวกนี้ เป็นสารเคมี อาจจะก่อให้เกิดความระคายเคืองได้ ถ้าเป็นไปได้ ควรเลือกผ้าที่ไม่ผ่านสารเคมีจะเป็นผลดีกับสุขภาพมากกว่า โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้

ข้อมูลจาก http://www.popsugar.com
ภาพจาก www.istockphoto.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook