การดูดไขมันหน้าท้องและส่วนอื่น ๆ
ไขมันให้พลังงานแก่ร่างกายแต่หากมีไขมันในร่างกายมากเกินไป ไม่สมดุลกับน้ำหนักและความสูงของร่างกาย ก็จะก่อให้เกิดปัญหากับรูปทรงและสัดส่วนตามมา
ทุกคนคงทราบกันดีนะครับว่า การควบคุมน้ำหนักที่ดีที่สุดคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ แต่ละวัน และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที ก็ยังดี เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และเป็นการเผาผลาญไขมันส่วนเกินด้วย หากคุณทำได้ตามที่หมอบอก รับรองคุณจะมีรูปร่างที่ดี และหมดปัญหาการสะสมของไขมันที่มีมากเกินไป
แต่ถ้าคุณทำแล้ว ไขมันส่วนเกินนี้ยังคงสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน สะโพก ต้นขา และใบหน้า ฯลฯ ซึ่งเมื่อน้ำหนักลดแล้วไขมันส่วนนี้ก็ไม่ยอมลดไปด้วย ยังมีเหลือเป็นก้อนนูน ป่อง แลดูไม่สวยงาม ดังนั้นการกำจัดไขมันเฉพาะส่วนนี้จึงต้องอาศัยแพทย์ด้านศัลยกรรมตกแต่ง
ถ้ามีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตาม หมอจะแนะนำวิธีการกำจัดไขมัน ส่วนนั้นให้หมดไปด้วยวิธีการดูดไขมัน
ถ้าคุณอยากจะกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ที่คุณไม่ต้องการนี้ออกไป
สิ่งแรกคุณต้องพบศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแจ้งความประสงค์ และรับทราบรายละเอียด วิธีการรวมถึงผลในการดูดไขมันด้วย
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะดูดไขมัน แพทย์จะตรวจความพร้อมของร่างกาย และวินิจฉัยว่าก้อนที่นูนส่วนป่องนั้นเป็นก้อนไขมันหรือไม่ เพราะถ้าหากส่วนที่นูนออกมานั้นเป็นกล้ามเนื้อก็คงจะดูดออกไม่ได้
คุณควรแจ้งประวัติการรักษาโรคประจำตัวการแพ้ยา การใช้ยาชนิดใดเป็นประจำหรือไม่ ให้แพทย์ทราบเพื่อแพทย์จะได้ให้คำแนะนำว่าควรหยุดยา หรือเปลี่ยนยาก่อนรับการดูดไขมันเสร็จแล้ว
ก็มาถึงขั้นตอนของการดูดไขมันหน้าท้องหรือส่วนอื่น ๆ กันครับ
1. โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะพิจารณาใช้ยาสลบ หรือยานอนหลับแต่บางครั้งก็อาจจะใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดเข้าไปในส่วนที่จะดูดก็ได้หากไม่ต้องการดูดมาก หรือไม่เป็นบริเวณกว้าง เพื่อไม่ให้คุณรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างดูดไขมัน
2. แพทย์จะเปิดช่องผิวหนังเป็นรอยยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตร ในตำแหน่งที่สามารถซ่อนรอยแผลได้ เพื่อที่จะลอดท่อสำหรับดูดไขมันเข้าในชั้นผิวหนัง เมื่อแผลหายดีแล้วจะเป็นแผลเป็นขนาดเล็กและมองไม่ค่อยเห็น
3. แพทย์จะจัดยาเพื่อทำให้ไขมันอ่อนตัวและผสมยาห้ามเลือดลงในตำแหน่งที่จะทำการดูดไขมัน เพื่อให้ไขมันละลายกลายเป็นของเหลวอีก ทั้งทำให้การดูดไขมันออกได้ง่ายขึ้น และช่วยลดปริมาณของเลือด ๆ จะสูญเสียไปด้วย
4. แพทย์จะลอดท่อเข้าไปในรอยแผลที่เปิดไว้ แล้วดูดเอาไขมันส่วนเกินออก โดยทั่วไปแล้ว จะมีปริมาณไม่เกิน 3,000 - 4,000 ซี.ซี. ต่อครั้ง
5. หลังการดูดไขมัน แพทย์จะเย็บแผลด้วยไหมขนาดเล็กประมาณ 1-2 เข็ม เพื่อปิดปากแผลแล้วพันบริเวณที่ดูดไขมันด้วยผ้ายืด เพื่อรัดไว้ไม่ให้เลือดออกและลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
6. การดูดไขมันจะใช้เวลาไม่มาก โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะใช้ เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อ 1 ตำแหน่งที่ดูดไขมันออกก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เพียงเท่านี้ไขมันส่วนเกินก็จะหมดไป แต่คุณยังต้องดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้คุณปฏิบัติตัว ดังนี้
1. หลังการดูดไขมันควรดูแลแผลให้สะอาด และพันผายืดรัดบริเวณที่ดูดไขมัน ประมาณ 1-2 เดือน เพื่อช่วยกระชับกล้ามเนื้อและลดอาการบวมลง
2. ในช่วง 1-2 เดือนแรก หลังการดูดไขมัน ควรงดการออกกำลังกายชั่วคราว เพื่อป้องกันเลือดซึมออกและลดอาการบวม
3. ควรรับประทานยาตามที่แพทย์จัดไว้ให้ และหลังจากหายปวดแผลหรือหายจากระบมแล้ว สามารถขยับส่วนที่ดูดไขมันได้ด้วยความระมัดระวัง
4. ควรมาพบแพทย์ตามที่แพทย์นัด 1 สัปดาห์ และ 4 สัปดาห์ หลังการดูดไขมัน เพื่อให้แพทย์ตรวจดูแผลและหากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมได้
5. บริเวณที่ดูดไขมันจะดูเหมือนเดิมในสัปดาห์แรก แต่จะเห็นว่ายุบตัวลงและดูสมส่วนเพรียวขึ้น หลังจาก 1- 3 เดือน ขึ้นไปครับ