8 ข้อผิดพลาดล้างจานผิด ชีวิตเปลี่ยน
คุณทราบหรือไม่ว่า พฤติกรรมบางอย่างที่คุณทำในขณะที่ล้างจานชามนั้น ไม่ดีเอาเสียเลย นอกจากมันจะทำให้ถ้วยชาม อุปกรณ์ครัวที่แสนรักของคุณเสียหายแล้ว มันยังแพร่กระจายเชื้อโรคอีก ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ห้องครัวที่น่าจะดูมีอนามัยไม่ต่างอะไรกับห้องน้ำเลย และนี่คือ 8 ข้อผิดพลาดในการล้างจานชามที่ยิ่งทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรค ทำลายถ้วยชาม แถมสิ้นเปลือง
1.ใช้น้ำยาล้างจาน หรือสบู่มากเกินไป : การทำความสะอาดจานชามไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยามากมาย โดยเฉพาะถ้าคุณล้างจานด้วยเครื่องล้างจานยิ่งต้องระมัดระวังเพราะการใส่น้ำยามากเกินไป เครื่องอาจไม่สามารถขจัดน้ำยาได้หมด สุดท้ายสารเคมีเหล่านั้นก็จะเข้าไปอยู่ในปากของคุณ หากคุณใช้ผงซักฟอกในการล้างจานชามยิ่งต้องระวัง และเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกที่มีการผสมสารเคมีฟอกขาว แนะนำให้ใช้สบู่ธรรมดา หรือน้ำยาล้างจานโดยเฉพาะกับน้ำเปล่า อาจเป็นน้ำอุ่นก็เพียงพอที่จะขจัดความสกปรกออกได้แล้ว
2.ใช้น้ำเปลือง : แม้จะทราบดีว่าเราควรจะต้องช่วยกันประหยัดน้ำ แต่หลาย ๆ คน ใช้น้ำในการล้างจานในปริมาณมาก เคยมีการสำรวจพบว่า เครื่องล้างจาน จะใช้น้ำประมาณ 3 แกลลอน ในขณะที่การล้างด้วยมือนั้น บางคนใช้น้ำไปมากถึง 27 แกลลอนเลยทีเดียว การประหยัดน้ำในการล้างจานด้วยมือนั้น มีข้อแนะนำว่า ให้ใช้หัวก๊อกแบบที่ช่วยกระจายน้ำ และควรปิดน้ำในเวลาที่ใช้น้ำยาล้างจานขัดทำความสะอาดคราบสกปรก จากนั้นค่อยปิดน้ำล้างพร้อมกันทีเดียว ไม่ควรล้างที่ละใบ เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองมาก
3.ใช้ฟองน้ำทำความสะอาดจานชาม: ฟองน้ำเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค และแบคทีเรีย เรียกได้ว่า มันสามารถจะสะสมเชื้อโรคได้ในทุกอนู ดังนั้นแทนที่เราจะเลือกใช้ฟองน้ำที่ทำมาจากพลาสติกสีสดใส อาจจะเปลี่ยนเป็นไฟเบอร์จากวัสดุธรรมชาติแทน เมื่อใช้เสร็จ ก็ทำความสะอาด และผึ่งไว้ในที่แห้ง เปลี่ยน และทำความสะอาดวัสดุที่ใช้ในการล้างจานนี้บ่อย ๆ เพื่อลดโอกาสการสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรีย
4.ล้างจานในอ่าง หรือเครื่องล้างจานที่สกปรก : การที่เราปล่อยให้อ่างล้านจานสกปรก ไม่ได้ทำความสะอาดเลย ก็เปรียบเสมือนเราเอาจานชามของเราไปล้างในโถส้วม เพราะโดยปกติแล้ว อ่างล้างจานในครัวนั้น มีเชื้อโรคมากกว่าในห้องน้ำเสียอีก ดังนั้นเราควรล้างทำความสะอาดอ่างล้างจานบ่อย ๆ อาจจะล้างเป็นประจำทุกวัน ด้วยน้ำส้มสายชู ผสมเบกกิ้งโซดา หรือน้ำส้มสายชู ผสมเกลือก็ได้ เครื่องล้างจานก็เช่นเดียวกัน อย่าลืมว่าความร้อนชื้น เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเครื่องล้านจานมีกลิ่น เมื่อนั่นก็ถึงเวลาที่จะต้องลงมือทำความสะอาดกันแล้ว
5.ใช้เครื่องย่อยกำจัดเศษอาหาร : หลาย ๆ คนชอบใช้เครื่องกำจัดขยะ ที่อ่างล้างจาน ในการกำจัดเศษอาหารที่เหลือ เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว แต่ทราบหรือไม่ว่าวิธีการนี้ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำไปได้ถึง 9 แกลลอนต่อวันเลยทีเดียว หากต้องการจะประหยัดน้ำไม่ควรเลือกใช้วิธีการนี้
6.วิธีล้างจานไม่ถูกต้อง : หลาย ๆ คนล้างจานไม่ถูกวิธี หรืออาจจะเรียกว่า ล้างจานไม่เป็นก็ได้ เช่น ไม้รู้ว่าอะไรควรจะล้างก่อน หรือหลัง ควรใช้อะไรมาขัดหม้อ ขัดกระทะ ที่ทำมาจากวัสดุต่างชนิดกัน สบู่ ไม่ควรใช้กับกระทะเหล็ก และกระทะบางชนิดก็ไม่ต้องการใช้น้ำยาอะไรเลย ใช้เพียงน้ำเปล่าก็พอ เครื่องครัวที่ทำด้วยไม้ ไม่เหมาะที่จะใส่ลงไปในเครื่องล้างจาน ช้อน เขียง หม้อ ที่มีหูจับ หรือมีด้ามจับบางอย่างก็ไม่เหมาะกับความร้อนสูง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ ต้องทราบก่อนที่จะนำมาใช้งาน และรู้วิธีการที่ถูกต้องในการทำความสะอาด
7.ใส่จานชามลงไปในเครื่องล้างจานมากเกินไป : การที่เราใส่จานชามลงในเครื่องล้างมากเกินไป เพื่อหวังจะประหยัดเวลา ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟนั้น อาจจะทำให้จานชามไม่สะอาดเพราะไม่มีพื้นที่มากพอที่จะให้น้ำหมุนเวียน ดังนั้น ควรทำตามคำแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตเสมอ
8.สุขอนามัยไม่เพียงพอ : ครัวที่ดีนั้น ต้องเป็นครัวที่สะอาด จานชาม เครื่องใช้ สะอาด มีอนามัย ไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อแบคทีเรีย ผ้า กระดาษ ที่ใช้เช็ดจานชาม รวมทั้งผ้าเช็ดมือ ต้องสะอาด ควรเป็นผ้าที่ได้รับการซักล้างเป็นประจำทุกวัน และเก็บหรือผึ่งไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทและแห้ง มีดและเขียง ก็เป็นอุปกรณ์ที่ต้องทำความสะอาด เช็ด และผึ่งให้แห้งเสมอ เพราะเคยมีการสำรวจพบว่าเขียง เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และอาจจะมีโอกาสที่จะมีเชื้อแบคทีเรีย มากกว่าในห้องน้ำถึง 200 %