10 บ้านคนดังปี 2016 สวยอลังสไตล์วังไปจนถึงบ้านแบบพอเพียง

ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา Sanook! Home มีโอกาสทั้งได้ไปเปิดบ้านคนดังหลายๆ หลัง รวมถึงบ้านคนดังบางหลังทีมงานยังเข้าไปส่องความสวยงามอลังการของบ้านพวกเขาจาก IG เลยรู้ว่าความสวยงามและสไตล์การออกแบบตกแต่งบ้านของแต่ละคนไม่ธรรมดา 10 สุดยอดบ้านคนดังแห่งปี 2016 ที่ Sanook! Homeรวบรวมมาให้จึงหลากหลาย ไปลัดเลาะเกาะประตูบ้านกันเลยดีกว่า

1.บ้านจักรพงษ์

บ้านจักรพงษ์มีอายุถึงปัจจุบันกว่า 100 ปี เป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นโดยต้นราชสกุลจักรพงษ์ จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ปัจจุบันคุณหญิงสา หรือคุณแม่ของ “ฮิวโก้" หรือ เล็ก-จุลจักร จักรพงษ์ ศิลปินดารามีชื่อเป็นเจ้าของและผู้ดูแล บ้านจักรพงษ์เป็นบ้านสไตล์อิตาลีในปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งสิ้น 2 ไร่ ตัวอาคารมี 3 ชั้น บริเวณด้านบนเป็นหอคอยซึ่งใช้บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ  สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ และ หม่อมเอลิซาเบธ ซึ่งคุณหญิงสาจะต้องขึ้นไปกราบไหว้สักการะทุกครั้งเมื่อตนเองจะเดินทางจากบ้านหลังนี้ไปที่ใดสักแห่ง

2.บ้านเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์

เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ซูเปอร์สตาร์ที่ไม่ได้มีความสามารถแค่การร้องเพลง การเอนเตอร์เทนและมอบความสุขให้กับแฟนเพลงชาวไทย ตลอดช่วงเวลาที่ผู้ชายคนนี้อยู่ในวงการ เขาเป็นต้นแบบที่ดีให้เหล่าบรรดาแฟนคลับ ทั้งการวางตัว การทำงาน และเป็นที่ทราบกันว่าเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ยังตั้งใจดำเนินชีวิตตามพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 อย่างบ้านไร่อุดมสุข ก็เป็นผลจากความคิดดังกล่าวของเบิร์ด ธงไชย ซึ่ง บ้านไร่อุดมสุข เป็นบ้านไร่ที่จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ โดยชื่อไร่อุดมสุขนั้นเป็นชื่อที่คุณแม่ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ตั้งให้ บ้านไร่อุดมสุขมีพื้นที่กว้างขวาง โดยภายในมีทั้งไร่ นา โรงเพาะเห็ด บ้านพัก บ้านไร่อุดมสุขแห่งนี้จึงเป็นเหมือนครัวขนาดใหญ่ที่มีพืชผลทุกชนิด ทั้งข้าว ผัก ผลไม้ โดยเบิร์ด ธงไชยยังให้โอกาสกับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเข้ามาทำงานภายในบ้านไร่อุดมสุข จึงเหมือนเป็นการสร้างงานให้กับคนในพื้นที่

3.บ้านโน้ต อุดม แต้พานิช

บ้านทรงกล่องสี่เหลี่ยม 2 หลังอยู่ในรั้วเดียวกัน เจ้าของบ้านคนเก่งเลือกตกแต่งแบบ Industrial เพราะเจ้าของบ้านต้องการบ้านที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้วัสดุเท่าที่หาได้ใกล้ตัว เช่นพวกไม้ อิฐ เหล็ก ตัวบ้านเป็นปูนเปลือยทั้งด้านนอกและด้านใน ทางเชื่อมระหว่างบ้าน 2 หลังเป็นพื้นไม้ ทำให้บริเวณบ้านมีความโปร่งโล่ง ลมโกรกทำให้บ้านเย็นสบายตลอดเวลา ตัวบ้านที่คุณโน้ตพักแบ่งเป็นส่วนของออฟฟิศในบริเวณชั้น 2 ส่วนชั้น 3 เป็นห้องนอนและพื้นที่ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงานริมหน้าต่าง และห้องน้ำซึ่งมีความพิเศษมากสำหรับคนชอบอาบน้ำดุเดือดอย่างคุณโน้ต ซึ่งตั้งใจสร้างห้องน้ำมาเพื่อตอบสนองและเติมเต็มความทรงจำในวัยเด็กที่เป็นห้องน้ำแบบชักโครกเวลานั่งแล้วเข่าติดผนัง ส่วนเปียกกับส่วนแห้งเป็นส่วนเดียวกันเวลาอาบน้ำก็เปียกไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นห้องน้ำในปัจจุบันของคุณโน้ตจึงกว้างขวางมาก นอกจากนี้ในทุกมุมของบ้านยังมีงานศิลปะที่สะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้านอยู่ทุกจุด นั่นเป็นเพราะเจ้าของรู้สึกว่างานศิลปะเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของบ้านที่สะท้อนตัวตนของเขา

4.บ้านสรยุทธ สุทัศนะจินดา

หลังจากยุติบทบาทพิธีกรเล่าข่าวไปได้พักใหญ่ คุณสรยุทธพิธีกรชื่อดังก็กลับไปใช้ชีวิตเรียบง่าย พักผ่อนสบายๆ ที่บ้านพักตากอากาศซึ่งเขาสร้างไว้ที่เขาใหญ่บนเนื้อที่หลายร้อยไร่ เป็นบ้านที่มีมูลค่าการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เห็นบ้านและบริเวณโดยรอบแล้วก็รู้เลยว่าหรูหราสุดๆ บ้านและภายในออกแบบตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เจ้าของบ้านลงทุนลงแรงเลือกเฟอร์นิเจอร์ด้วยตัวเองทั้งหมด เหมาะแล้วสำหรับใช้เป็นบ้านพักในชวงตนเองปลดเกษียณ

 5.บ้านตูน บอดี้สแลม

ปีนี้ต้องยกหนุ่มตูน บอดี้สแลมให้เป็น 1 ในหนุ่มเจ้าเสน่ห์เลยก็ว่าได้ เพราะกิจกรรมวิ่งจากกรุงเทพฯ ไปถึงอำเภอบางสะพานของเขาเพื่อชักชวนให้คนช่วยกันบริจาคเงินหาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์มอบให้โรงพยาบาลบางสะพานนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และแน่นอนเราต้องไม่พลาดส่อง IG ของพ่อหนุ่มคนนี้อย่างแน่นอน บ้านที่อำเภอบางสะพานของเขาตั้งอยู่ติดริมทะเล เห็นแล้วรู้สึกเหมือนเป็นบ้านพักตากอากาศ ตัวบ้านเป็นอาคาร 2 อาคาร ด้านหน้ามีสนามหญ้ากว้างขวาง พร้อมพื้นที่หาดที่อาจเรียกได้ว่าเป็นหาดส่วนตัว แถมยังมีสะพานปูนยื่นตัวยาวลงไปในทะเลอีกด้วย นอกจากบ้านที่บางสะพานแล้ว หนุ่มตูนยังมีบ้านพักที่กรุงเทพฯ อีกหนึ่งหลังซึ่งน่าอยู่และร่มรื่นไม่แพ้กัน

6.บ้านเอก ณกรณ์ กรณ์หิรัญ ผู้บริหารวุฒิศักดิ์

บอกเลยว่าบ้านของนักธุรกิจคนเก่งคุณเอก ณกรณ์ กรณ์หิรัญนั้นไม่ธรรมดา เพราะความเก่งและความสำเร็จของเขาทำให้เราสร้างฐานะจนมีบ้านสุดหรูเป็นของตัวเองทั้ง 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นบ้านที่กรุงเทพฯ ย่านพระราม 9 ที่มีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้าน อีกหลังหนึ่งเป็นบ้านที่จังหวัดลำพูนในชื่อ "คุ้มณกรณ์" ที่ต้องบอกว่าสวยงาม ร่มรื่น และหรูหราไม่แพ้รีสอร์ทระดับ 5 ดาว บ้านที่กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ครึ่ง ภายในร่มรื่นเพราะมีสวน บ่อน้ำ น้ำพุและประติมากรรมตกแต่งสวยงาม นอกจากนี้ดูๆ ไปที่นี่ยังเหมือนโชว์รูมรถหรู โดยมีคันเด่นๆ โรสลอยด์ราคาประมาณ 34 ล้านบาท  สำหรับบ้านหลังที่สองนั้นใช้ชื่อว่า "คุ้มณกรณ์" เป็นบ้านพักสไตล์รีสอร์ทที่จังหวัดลำพูน โดยบ้านหลังนี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณกว่า 4 ไร่ ซึ่งตามนิสัยรักการแต่งบ้านจึงแบ่งบ้านเป็นพื้นที่ต่างๆ ในคอนเซ็ปต์แบบร่วมสมัยที่ยังคงความเป็นล้านนาเอาไว้ โดยบ้านหลังนี้สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศอย่างแท้จริงเพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ บ่อน้ำตามความชอบของเจ้าของบ้าน

7.บ้านรัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น

ต้องบอกว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านแท้ๆ ของรัศมีแข แต่เป็นบ้านของคุณแม่บุญธรรมของเธอ ไอเดียการสร้างบ้านหลังนี้เกิดจากคุณหมูและคุณแหม่มเจ้าของบ้านต้องการสร้างบ้านตามแนวคิดบ้านคนไทยสมัยก่อน ที่สร้างบ้านเต็มพื้นที่แล้วปล่อยพื้นที่โล่งด้านล่างไว้สำหรับให้คนในครอบครัวหรือมิตรสหายแวะเวียนมาเยี่ยม นอกตัวบ้านเพิ่มความร่มรื่นด้วยสไตล์ทรอปิคอลมีทั้งสระว่ายน้ำ ต้นไม้ พื้นที่โล่งด้านล่างสามารถกั้นเป็นห้องต่างๆ ได้ตามต้องการ ส่วนชั้นสองปล่อยเป็นพื้นที่ว่างมองคล้ายสตูดิโอถ่ายภาพ ส่วนพื้นที่ๆ รัศมีแขใช้เวลาอยู่มากที่สุดคือรอบๆ สระว่ายน้ำกลางบ้านทั้งเล่นน้ำ นอนอาบแดด นั่งเล่น หรืออีกมุมหนึ่งคือห้องรับแขกที่ยังแบ่งเป็นพื้นที่ทำงานของคุณแหม่มแม่บุญธรรมของรัศมีแขด้วย

8.บ้านเสก โลโซ

บ้านเดี่ยวหลังนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 200 ตารางวา เป็นพื้นที่ๆ พี่เสก โลโซพักอาศัยมาเป็นระยะเวลา 15 ปี แน่นอนว่าช่วงหนึ่งเป็นสถานที่ๆ ทั้งภรรยาและลูกๆ ของเขาเคยพักอาศัยอยู่ด้วย บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านหลังแรกแต่เป็นบ้านที่เขาและครอบครัวย้ายมาจากบ้านหลังเดิมย่านศรีวรา ทาวน์ อิน ทาวน์ ซึ่งปัจจุบันเป็นออฟฟิศ) พื้นที่ของบ้านถูกแบ่งเป็นส่วนของตัวบ้าน พื้นที่สวนโดยรอบ ห้องอัดเสียงส่วนตัว และบ่อปลา บรรยากาศสวนรอบบ้านร่มรื่น โดยเฉพาะเสียงน้ำจากบ่อปลาบริเวณใกล้กับห้องอัดเสียง ยิ่งทำให้สวนมีความร่มเย็นและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น อีกส่วนหนึ่งซึ่งมีความสำคัญและแสดงความเป็นตัวตนของร็อคเกอร์ตัวพ่อคนนี้คือ “ห้องอัด” ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษและตั้งอยู่นอกตัวบ้าน พี่เสกบอกว่าเป็นห้องอัดส่วนตัวที่เขาใช้สร้างสรรค์บทเพลงของตนเองโดยเฉพาะ และถ้าไม่ได้ไปไหนเขาก็มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องอัดนี้ ทำงาน พักผ่อน เพราะภายในมีอุปกรณ์สำหรับทำเพลงอย่างครบครันและสมบูรณ์แบบ เมื่อเข้ามาในตัวบ้านด้านล่างจะแบ่งพื้นที่เป็นห้องรับแขกและโถงตั้งโต๊ะรับประทานอาหาร ที่ด้านข้างจัดแบ่งเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารและเครื่องดื่มแบบง่ายๆ

9.บ้านชูชัย ชัยฤทธิ์เลิศ

ต้องบอกว่าอะไรที่ “ไม่หรูหรา เวอร์วัง แตกต่าง อลังการ พิถีพิถัน” นั่นย่อมไม่ใช่ยี่ห้อ “ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ” CEO เจมส์พีชบายชูชัยโดยเฉพาะบ้านบนพื้นที่ 500 ตารางวามูลค่ากว่า 200 ล้านบาทหลังนี้ หรือถ้าให้เหมาะจะเรียกว่าคฤหาสน์ย่านเรียบทางด่วนรามอินทรา ที่เจ้าของอย่างคุณชูชัยยังออกปากชมบ้านตัวเองว่าสวยเลอค่าทุกครั้งที่กลับมาเห็นหลังเดินทางจากไปนานๆ เป็นที่รู้กันดีว่าคุณชูชัยไม่ใช่เศรษฐีค้าเพชรที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด แต่เขามุ่งมั่น ขยันทำงานและเป็นคนเก่งจึงทำให้มีทุกอย่างที่ต้องการเช่นทุกวันนี้ เช่นเดียวกับไอเดียเรื่อง “บ้าน” ของเขาก็เกิดจากความต้องการให้บ้านเป็นศูนย์รวมของคนในครอบครัว และการทำเพื่อแม่ ผู้หญิงคนเดียวที่เขารักสุดชีวิต สำหรับไอเดียการออกแบบนั้นคุณชูชัยมีภาพในหัวว่าตัวเองต้องการบ้านแบบไหนแม้จะไม่ได้เรียนด้านการออกแบบมา แต่บ้านของคุณชูชัยก็สวยถูกใจเจ้าของบ้านสุดหรูอย่างเขา ถ้ามองแค่ตัวบ้านจากด้านนอกอาจจะคิดไม่ถึงว่าภายในบ้านนั้นสุดอลังการเพราะแบ่งเป็น 20 เซ็กชั่น โดยห้องต่างๆ มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามสไตล์การตกแต่งที่หลากหลายซึ่งคุณชูชัยเป็นคนตกแต่งเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นห้องโคลัมบัสที่ตกแต่งสไตล์สเปน ห้องเวนีเซียใช้เป็นห้องรับแขก หรือห้องเลอบิตี้เวซาย ฯลฯ ส่วนห้องนอนซึ่งน่าจะเป็นห้องที่คุณชูชัยใช้เวลาอยู่เป็นส่วนใหญ่นั้นตกแต่งในสไตล์นิวยอร์ก นิวยอร์ก เห็นบ้านแล้วก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคุณชูชัยถึงชอบอยู่บ้าน

 10.บ้านคุณสุมณี คุณะเกษม

 "สุมณี คุณะเกษม" หรือฉายาบาร์บี้เมืองไทย คฤหาสน์ของเธอตั้งอยู่ย่านหลังสวน โดยเป็นบ้านที่น่าจะเปรียบเสมือนคลังสมบัติที่มีมูลค่ามหาศาล แบบที่เราอาจไม่สามารถประเมินราคาทรัพย์สินทั้งหมดได้ คุณสุมณี คุณะเกษมตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า "มณีมณฑ์ชา" ซึ่งมีที่มาจากชื่อของคนในบ้านทั้งชื่อของลูกชายและสามี บ้านหลังนี้มีความโดดเด่นตรงที่เป็นการรวบรวมของเก่าที่คนในบ้านชอบสะสมมาตกแต่ง รวมถึงอย่างน้อยๆ บ้านหลังนี้ยังจัดงานเลี้ยงอาทิตย์ละ 3 วัน ดังนั้นเมื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือนบ้านทำให้คุณสุมณีต้องแต่งตัวสวยๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในบ้านถ้ารวมราคาแล้วก็อาจจะประเมินค่าไม่ได้