ผู้หญิงสร้างบ้าน มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด 2
อ่านตอนแรก
เพื่อความไม่ประมาท ถึงแม้เราจะไว้ใจผู้รับเหมาว่าเป็นคนดีศรีสยาม แต่เราก็อย่าวางใจ ว่าง ๆ ก็แอบไปส่อง ๆ แบบสุ่ม ๆ ว่าสเปคของวัสดุที่เค้าใช้ ตรงตามที่ BOQ กำหนดป่าว เช่นว่า ผรมบอกเองตั้งแต่คุยกันแรก ๆ ว่า ถ้าเค้าจะโกง เค้าจะโกงกันที่เหล็ก คือ ใช้เหล็กไม่ตรงตาม BOQ เพื่อกินส่วนต่าง แต่เค้านั่งยันนอนยัน ว่าเค้าไม่เสี่ยงแน่นอน เพราะถ้าโครงสร้างไม่ได้ตามสเปค แล้วเกิดการทรุดหรือถล่ม เค้ารับผิดชอบไม่ไหว เราก็แอบดีใจ ทำกับมือใหม่ก็ดีเงี้ยะ ขี้ป๊อด 555 ถึงอย่างนั้น เราก็ยังต้องแอบสุ่มตรวจซะหน่อย ว่าเค้าทำอย่างที่พูดป่าว
ช่วงแรก ๆ ที่ทีมช่างโครงสร้างเข้ามาเต็มตัว งานคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจมาก เราเริ่มมีความหวังว่า บ้านน่าจะเสร็จตามกำหนด พอพื้นชั้นล่างเรียบร้อย งานชั้นสองก็ตามมาเรื่อย ๆ ไม่มีสะดุด แต่ก็ยังถือว่าช้ากว่าแผนงานเดิมอยู่พอสมควร
เนื่องจาก งบน้อย เลยต้องใช้แรงงานคนล้วน ๆ ไม่มีปัญญาจ่ายเพิ่ม ค่าเครื่องทุ่นแรง งานเลยออกแนวหวานเย็นนิดนุง
คานรับโครงหลังคา หรือ อเส ตามแบบเดิมของเราเป็น คสล แต่เนื่องจากงาน คลส เป็นงานที่ใช้เวลาค่อนข้างมาก ไหนจะผูกเหล็ก ไหนจะตีแบบ ไหนจะรอปูนเซ็ทตัว ทุกอย่างใช้เวลาทั้งนั้น ผรมเลยขอเปลี่ยนไปใช้คานเหล็กแทน เราก็เอา อยากทำอะไรทำเลยค่ะ นาทีนี้ อยากให้บ้านเสร็จไว ๆ อะไรด่วนได้ ด่วน แต่ถ้าจะเปลี่ยนจาก คสล เป็นเหล็ก ก็ช่วยทำ ให้คุณสมบัติของเหล็ก มีดีไม่น้อยกว่า คสล ด้วยนะคะ โดยเฉพาะจุดอ่อนสำคัญของเหล็กคือสนิมกับไฟ คานเหล็ก เหล็กโครงหลังคา ทุกชิ้น ควรมีการทาสีกันสนิมให้ทั่ว ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน ดูเค้าทาตั้งแต่ตอนมันอยู่บนพื้นนี้ล่ะค่ะ ว่าเค้าทาโอเคมั้ย ถ้าเห็นว่ามันยังไม่เรียบร้อย ก็ไปอ้อน ๆ ให้เค้าทาอีกที ห้ามปากหนักเด็ดขาด เพราะถ้ามันขึ้นไปเป็นคาน เป็นหลังคาแล้ว แหงนหน้าตรวจงาน นี่เมื่อยนะ
เราขอให้ผรมทาสีทนไฟที่คานให้เราด้วย เพราะถ้าเกิดมีไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรใต้หลังคาขึ้นมา ตัวคานเหล็ก จะได้ไม่อ่อนตัว ทรุดลงมาเร็วนัก กลัวเอาไว้ก่อน
อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงไม่สงสัย ว่าเราเป็นพวก ชอบทำคุณไสย 555
พิธีกรรมต่อไปของเรา ก็คือ การไหว้ขอขมาแม่บันได ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า มีพิธีกรรมแบบนี้ด้วย พี่ช่างเค้าแนะนำให้เราทำ เพื่อเป็นการขอขมาแม่บันได ที่เราต้องใช้ท่านเหยียบท่านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และยังเป็นการขอพรให้การสร้างบันไดราบรื่นลงตัว แข็งแรงปลอดภัย เพราะในบ้านเนี่ย บันไดถือเป็นส่วนที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้มากที่สุด และที่สำคัญ เราว่า เป็นเพราะบันไดบ้านเรา ทำยากมากกก ช่างบ่นอุบ จด ๆ จ้อง ๆ ไม่ลงมือกันซักที สุดท้ายเลยพึงไสยศาสตร์ 555 ซึ่งเราชอบนะ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ทำแล้วสบายใจดี เลยโทรสั่งไก่ต้มน้ำปลา delivery มา 5 ตัว กะว่า แบ่งให้ช่าง 3 ตัว เรากับน้อง แบ่งคนละตัว ลงตัวเป๊ะ พอถึงวันไหว้ น้องมันพาเพื่อนสนิทมาด้วย เลยแบ่งให้เพื่อนมันไป 1 ตัว จะเหลือให้ช่าง 2 ตัวก็น่าเกลียด เราเลยต้องเสียสละ สั่งก็เป็นคนสั่ง เงินก็เป็นคนจ่าย แต่ไม่ได้แดรกซักคำ มันเซ็งตรงนี้ ที่เจ็บใจกว่านั้นคือ น้องมันบอก ไก่อร่อย!!! เชอะ
ตอนแรก บันไดบ้านเป็นบันไดพับผ้า แบบนี้
แต่เราเปลี่ยนใจ อยากให้บันไดดูโปร่ง ๆ เลยขอให้ผรม เปลี่ยนเป็นบันไดแบบไม่มีลูกตั้ง จริง ๆ เราก็ไม่ได้หวังอะไรมาก คิดว่าถ้าทำออกมาไม่สวย เราก็แค่เปลี่ยนเป็นบันไดท้องเรียบธรรมดา
ไม่นึกไม่ฝัน ว่าผู้ชายคนนี้ทำได้ ลงทุนโทรไปปรึกษาพี่ชายที่อเมริกา (อันนี้โฟร์แมนมากระซิบบอก กลัวเจ้านายไม่ได้หน้า อวยกันสุดริด) ได้ออกมาเป็นบันไดโมเดิ๊น โมเดิร์น ... กราบบบบ
เพราะเราว่างมาก วัน ๆ ถ้าไม่ได้ไปทำงาน ก็ไม่ทำอะไร นั่งแต่งบ้าน ผ่าน app ใน iPad นั่งดูรูปบ้านใน google จนฟุ้งซ่าน เริ่มรู้สึกว่าประตูหน้าต่างแบบบ้านต้นแบบ มันไม่ต้องอัธยาศัยเราละ เลยบอก ผรม ว่า ไม่ต้องไปสนใจแบบละ เด๋วประตูหน้าต่าง เราเจาะเอง เอาแบบลมโกรก ทะลุทะลวง แสงสว่างเจิดจ้า ไปทุกซอกทุกมุม รับพลังกันให้เต็มที่ จนบ้านเราพรุนไปหมดละ เดิมผนังทิศตะวันตกที่ติดกับเพื่อบ้าน ไม่มีหน้าต่างเลย เราก็ให้เค้าเพิ่มช่องแสง โดยใส่บล็อกแก้ว ใต้บันได
และเจาะหน้าต่างตรงห้องครัวเพิ่ม
เจิดจ้าสมใจกันเลยทีเดียว
นอกจากสร้างบ้านใหม่ให้ตัวเองแล้ว ทาสอย่างเราก็ยังต้องเตรียมบ้านใหม่ไว้ให้เจ้านายด้วย ท่าน ๆ จะได้มีพื้นที่ส่วนตัวไว้นั่งเล่น นอนเล่นรอ ระหว่างทาสออกไปทำงานหาเงินเพื่อซื้อข้าวของเครื่องใช้มาปรนเปรอ เราใช้ห้องเล็ก ๆ ใต้ชานพักบันไดให้เป็นบ้านน้อย ๆ สำหรับเจ้านายตัวน้อย ใช้บล๊อคแก้ว ทำเป็นช่องแสงเล็ก ๆ ประตูบ้านจะอยู่ทางด้านข้าง ส่วนด้านหลังจะใช้เหล็กดัดยืดกั้นอาณาเขตแทน ได้ความโปร่ง และเผื่อเวลาเราอยากจะใช้พื้นที่ก็แค่พับเหล็กดัดเก็บไว้ ไม่ต้องห่วงว่าจะอยู่ไม่สบาย เพราะเจ้านายพี่ช่าง ได้ใช้บริการแล้ว หลับสบายทั้งวัน
เพราะเราเป็นมือใหม่หัดสร้างกันทั้งเจ้าของบ้านและผู้รับเหมาเลยไม่มีใครเตือนใคร เรื่องประตูห้องเก็บของ กับ ประตูห้องน้ำที่อยู่ข้าง ๆกัน พอตั้งวงกบ ก่อผนังไปแล้ว ถึงเพิ่งเห็น อ้าว วงกบประตูสูงไม่เท่ากันนี่หว่า
ที่เป็นแบบนี้เพราะพื้นห้องน้ำต้องทำระดับต่ำกว่าพื้นบ้าน ป้องกันไม่ให้น้ำจากพื้นห้องน้ำล้นเข้าห้องอื่น เพราะงั้น วงกบก็เลยตั้งอยู่ต่างระดับกัน มันเสียหายตรงที่ ดั๊นมาตั้งอยู่ข้างกันพอดี๊ เลยเห็นชัดเลย แนะนำว่าถ้าเพื่อน ๆ มีแผนจะวางประตูห้องน้ำไว้ข้างห้องอื่น ๆ แบบนี้ ให้เผื่อความสูงของประตูห้องน้ำ ให้เท่ากับความต่างระดับของพื้นด้วยเลยนะคะ จะได้ไม่ดูแหว่ง ๆ แบบนี้ แต่จะให้ทุบแล้วทำใหม่ ก็กลัวช่างจะค้อนตากลับ ก็เลยปล่อยเลยตามเลย คิดซะว่าเป็น "ศิลปะ"
งานหลังคา เป็นอะไรที่น่าเห็นใจมาก อากาศเดือนเมษาบ้านเราใช่เล่นซะที่ไหน อยู่ในร่มยังร้อนแทบตาย แต่นี่ คุณพี่เค้าต้องขึ้นไปรับแสงอัลตราไวโอเลต ที่ระดับความสูงเกือบสิบเมตร ผิวงิ สีแทน ค่อน ๆ ไปทางเกรียมสวยเชียว วันแรกที่ขึ้นไป ถึงกับต้องหามส่งคลีนิค เพราะเป็นลมแดด โถถถ เอ็นดู วันต่อมา เลยขอเปลี่ยนกะ ขอเข้างานกะดึกแทน ไม่งั้นสงสัยไม่เสร็จ
อย่างที่บอกไปแล้วค่ะว่า หลังคากระเบื้องสะท้อนความร้อนได้ไม่เท่าเมทัลชีท เราเลยต้องหาตัวช่วย เราใช้แผ่นสะท้อนความร้อนที่ผิวเป็นฟรอยด์ เหน็บระหว่างหลังคากับแป เผื่อช่วยลดการสะสมความร้อนใต้หลังคา ทำให้รังสีความร้อนแผ่ลงมาที่ห้องชั้นบนได้น้อยลง แต่อย่าลืมว่า ต้องมีการระบายอากาศในช่องระหว่างหลังคากับฝ้าด้วยนะคะ ไม่งั้น ความร้อนที่สะสม ไม่มีทางออก มันก็แผ่ลงมาที่ห้องชั้นบนได้อยู่ดี
หลังจากงานหลังคาจบ ก่อชั้นล่างเสร็จ วิกกฤต ผรม ก็เริ่มคลืบคลานเข้าครอบงำบ้านเราอย่างช้า ๆ เรารอแล้วรออีกว่าเมื่อไหร่เค้าจะทำชั้นสองให้เราซักที นี้มันจะเข้าเดือนที่ 5 แล้ว สัญญาก่อสร้าง 6 เดือนนะ มันจะทันหราฟระ เข้าไปดูงาน เห็นช่างอยู่ 2 คน แถมเป็นต่างด้าวอีกตังหาก พู่ก้อม่าช้ะ ถามอะไรก็ งง ๆ บอก กง ๆ ว่าเราเริ่มเครียด เอาหล่ะสิ อาการแบบนี้ คุ้น ๆ เหมือนเคยอ่านเจอในพันทิป ภาวนาว่าไม่ใช่ แต่คิดว่ามันใช่ ต้องใช่แน่ๆ เรากะลังประสบปัญหาคลาสสิค ของคนทำบ้านหรา เค้าจะทิ้งเราแล้วหรา ไม่จริงใช่มั้ย ไม่ ๆ ๆ ... ผรม "ทิ้งงานนนน" !!! ... ม่ายยยยน้าาา
อาทิตย์นึงผ่านไป ไวเหมือนโกหก งานก็ยังไม่คืบหน้า ช่างก็ไม่เพิ่ม รอจนรอไม่ไหว เราเลยถามผรม ตรง ๆ เลย ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า คำตอบที่ได้ ทำเอาเราเครียดหนักกว่าเดิม เค้าบอกว่า ราคา ตาม BOQ ที่ตกลงกัน มันค่อนข้างต่ำกว่าราคาตลาด ตอนแรกที่ทีมโครงสร้างเค้า sub งานไป เพราะเค้าไม่มีงาน เลยขอรับทำงานนี้ เพื่อให้ช่างมีงานทำ แต่พอเริ่มงานไปได้ซักระยะ ก็เริ่มรับภาระค่าแรงไม่ไหว เพราะงานก่ออิฐมอญ ใช้เวลานานกว่าอิฐมวลเบามาก ทำให้เค้าต้องจ่ายค่าแรงมากกว่าที่คิดไว้มาก เค้าเลยไปรับงานอีกที่ ที่ได้ราคาดีกว่า และโยกคนงานไปทำที่ใหม่ เช้าพาคนงานไป เย็นพาคนงานกลับมานอนที่แคมป์บ้านเรา ทิ้งพม่าไว้ขัดตาทัพ และทำท่าว่าจะทิ้งงานนี้แน่ ๆ เราก็เหวอซิค่ะ แล้วไงอ่ะ อีกแค่ 2 เดือนเองนะ
สุดท้ายบ้านเราก็กลายเป็นบ้านร้าง ... T^T
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่เราเครียดที่สุดในการทำบ้านครั้งนี้เลย เพราะเราเหมือนเป็นคนกลางระหว่าง ผรม กับคนที่บ้าน เราเข้าใจปัญหาของคุณ... ว่าเค้าขาดช่าง ทำให้งานไม่คืบหน้า และอาจจะล่าช้าไปอีก จะให้จ้าง sub ทีมใหม่เข้ามา งบก็หมดไปกับเจ้าแรกแล้ว มีทางเลือกแค่สามทาง คือ 1. เราต้องจ่ายเพิ่มเพื่อให้เค้าสามารถจ้าง sub เข้ามารับงานต่อ 2. ถอดเค้าออก แล้วหา ผรม คนใหม่ หรือไม่ก็ 3.รอ ให้ "เวลา"เค้าหาคนงานมาเพิ่ม ซึ่งแน่นอนว่า เราต้องเลือกอย่างหลังอยู่แล้ว อ่ะนะ ฐานะอย่างเรา มีนะ 'เงิน' น่ะ แต่เราอยากใช้ "เวลา" ให้เป็นประโยชน์มากกว่า 555
น้องเราไม่ได้มาดู มาคุย มาเห็นปัญหาเหมือนเรา ก็คอยเร่งยิก ๆ ทำไมเค้าไม่ทำงาน ทำไมช้า ถ้าเสร็จไม่ทันต้องปรับตังค์ตามสัญญานะ บลา ๆๆๆ ทะเลาะกันบ้านแตก ไม่คุยกันไปเป็นอาทิตย์ เพราะเราจะไปกล้าปรับเค้าได้งัย แค่นี้เค้าก็แทบจะทำให้ฟรีอยู่แล้วพอเราอธิบาย ก็หาว่าเราสปอยล์ ผรม อ้าว ถ้าไม่สปอยล์ จะไล่ให้เค้าหนีตามช่างทีมแรกไปเลยงั้น ก็ต่างคนต่างใหม่ แล้วเราก็งบแค่นี้ ก็ช่วย ๆกัน ค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ แก้ปัญหากันไป ช่วงนั้นเราพยายามช่วยผรม หาช่าง โทรหาทุกคนที่คิดว่าพอจะช่วยหาคนงานได้ ขอรับบริจาคช่างเหลือ ๆ มาให้ วุ่นวายกันทั้งบ้าน แต่ก็เหลว เราได้เห็นความตั้งใจจริงของผรม ที่จะสร้างบ้านเราให้เสร็จ เพราะเค้าจะหันหลังให้เราเลยก็ได้ แต่เค้าไม่ทำ และยังพยายามช่วยให้บ้านเราเสร็จในงบประมาณที่แสนจะจำกัดของเราด้วย ซาบซึ้งมากกก และต้องขอบคุณเลข "555" ในเบอร์โทรศัพท์ของเค้า ที่ทำให้เราตัดสินใจถูก 555
บ้านสร้างทีอยู่ไปอีกหลายสิบปี รออีก 2-3 วัน ช้าไป 2-3 เดือน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
เกือบเดือน กว่าที่งานก่อชั้นสองจะเริ่ม และค่อย ๆ คืบหน้า ทีมงานใหม่เป็นช่างคนไทย อัธยาศัยน่ารักกันทุกคน และคราวนี้เป็นช่างของคุณ...ทั้งหมด ทำให้งานเดินเร็ว เพราะเค้ากำหนดเส้นตายไว้ ทำงานแข่งกับเวลาสุด ๆ แต่เร่งยังงัยก็ยังไม่ทันใจ เพราะงานก่อและงานฉาบเป็นงานละเอียดมาก ต้องทำเส้นดิ่งเส้นเดิ่ง เสาองเสาเอ็น ทับหลงทับหลัง อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด
ชั้นสองก่อเสร็จแล้ว ช่างกำลังตั้งวงกบประตู เราเจาะช่องแสงและหน้าต่างตรงโถงบันได เพื่อให้แสงธรรมชาติและลมไหลเวียนผ่านเข้ามาได้ด้วย อยู่ตรงไหนก็สว่างไสว เย็นสบาย
พอก่อเรียบร้อย ก็ถึงคิวของ ระบบไฟ
ระบบไฟของเราเป็นแบบฝังท่อร้อยสาย แยก consumer unit เป็นชั้นล่าง-ชั้นบน เผื่อกรณี ไฟช๊อต น้ำท่วม หรือแม้กระทั่งโจรย่องเข้ามาสับคัตเอาท์ ชั้นล่าง อย่างน้อยเราก็ยังมีไฟข้างบนใช้ได้สบาย ๆ ระบบไฟ แยกออกมาจาก BOQ ต่างหาก เพราะเราเพิ่มปลั๊กและสวิตช์ไฟตามใจฉัน มากจนผรมบอก ชี้เอาเลยคับ จะเอาจุดไหน ผมทิ้งแบบแระ .. แหะ ๆ เค้าก็อดทนดีเนอะ เราวางปลั๊กไว้ทุกมุม แทบจะทุกเสา เยอะมาก ไหน ๆ ก็ทำแล้ว ใส่ไปเลยค่ะ จัดหนัก จัดเต็ม เราจะได้ไม่ต้องใช้ปลั๊กพ่วงให้เสี่ยง อย่าลืมปลั๊กไฟนอกบ้านนะคะ มีไว้เผื่อต้องใช้ และยิ่งอย่าลืมเช็ค ว่าเป็นปลั๊กที่ใช้งานได้ ไม่ใช่มีแต่รูแต่ไม่มีไฟ
งานของช่างไฟแบ่งเป็น 3 ช่วง คือช่วงแรกหลังงานก่อ เข้ามากรีดผนังฝังท่อ วางตำแหน่งปลั๊กและสวิตช์ ช่วงที่สองหลังงานฉาบก่อนทำฝ้า เข้ามาเดินท่อใต้คาน และบนฝ้า ร้อยสายไฟ และสายอื่นๆ ทั้งหลายแหล่ และติดตั้ง consumer unit และครั้งสุดท้ายต้องรอตอนติดตั้งโคมไฟหลังจากงานฝ้าเรียบร้อยแล้ว
สนนราคาระบบไฟ สายบางกอกเคเบิล ปลั๊ก สวิทช์ panasonic wide seriesไม่รวม โคมไฟ หลอดไฟ consumer unit และสายเมน เหมาอยู่ที่หนึ่งแสนบาท แทบจะลงไปคุกเข่าวิงวอน ตอนต่อรองราคากับช่างไฟ เพราะมาถึงตอนนี้ น้อง "ไม้โท" ได้หนีออกจาก "บ้าน" ไปแล้ว ใครรู้เบาะแส ว่าน้องไปพักอยู่ที่ไหน ช่วยส่งข่าวด้วยนะคะ บอกน้องด้วยว่าที่ "บ้าน" คิดถึง ... ร้องไห้หนักมาก