เรื่องรักหวาน ๆ และอาหารจานเด็ดของ “แม่แหวน” กับ “น้องปันปัน”

เรื่องรักหวาน ๆ และอาหารจานเด็ดของ “แม่แหวน” กับ “น้องปันปัน”

เรื่องรักหวาน ๆ และอาหารจานเด็ดของ “แม่แหวน” กับ “น้องปันปัน”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใคร ๆ ต่างก็บอกว่า “ปันปัน - เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ลูกสาวคนสวย ของนักร้องหญิงรุ่นใหญ่ แหวน - ฐิติมา สุตสุนทร เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น เพราะทั้งร้องเพลงเก่ง เล่นละครดี เหมือนคุณแม่ไม่มีผิด ส่วนเรื่อง ไลฟ์สไตล์การกินคู่นี้ก็เข้ากันได้เป๊ะ นั่นคือ ต่างชื่นชอบการเข้าครัว แถมยังมีเมนูโปรดและร้านอาหารในดวงใจเหมือนกันอีกต่างหาก

แม่ - ลูกคู่ซี้ ปันปันเล่าว่า เธอกับคุณแม่แหวนสนิทกันมาก ซึ่งนี่เอง ที่เป็นสาเหตุให้เธอกับคุณแม่มีความชอบหลายอย่างที่คล้ายกัน โดยเฉพาะ เรื่องอาหารการกิน “เราสองคนสนิทกันมากค่ะ มีอะไรก็ปรึกษากันทุกอย่าง แม่เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งแม่ เราจะอยู่ด้วยกันตลอด ไม่เคยแยกกันไปไหน ตั้งแต่จำความได้คุณแม่จะขับรถมารับ - ส่งปันปันที่โรงเรียนตลอด จนถึงตอนนี้ เรียนมหาวิทยาลัย (ปี 1 สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จุฬา- ลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ท่านก็ยังมารับอยู่ (ยิ้ม) พอใกล้ชิดกันมากเราคงซึมซับ สิ่งต่าง ๆ มาจากท่านด้วย อย่างเช่นเรื่องความชอบในอาหาร คุณแม่จะทำ อาหารให้กินหรือพาไปกินของอร่อยด้วยตลอด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ที่ชอบไปหรือเมนูโปรดของปันปันกับคุณแม่จึงเหมือนกันเลย”

เบื้องหลังร็อคเกอร์สาวคือคุณแม่นักปรุง หลายท่านอาจไม่ทราบ ว่า สาวมาดเข้มที่ได้ชื่อว่าเป็นควีนออฟร็อคของเมืองไทยอย่างแหวน - ฐิติมา เมื่ออยู่บ้านเธอคือแม่ศรีเรือนผู้ชื่นชอบการปรุงอาหารเป็นชีวิตจิตใจ แถมลงมือทำกับข้าวให้ลูกเองมาตลอด “พี่แหวนเป็นคนชอบทำอาหารค่ะ ปันปันเขาก็ติดไปด้วย ชอบเข้ามาช่วยในครัวตั้งแต่เด็ก เวลาทำเลี้ยงญาติ จัดปาร์ตี้ที่บ้านจะทำเองหมด ทั้งสลัด สเต๊ก สปาเกตตี ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น หลายสัญชาติมาก (หัวเราะ) โดยเฉพาะอาหารเช้าของลูกพี่จะทำให้เขากิน มาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ เพราะพี่อยากให้ลูกได้กินแต่สิ่งที่ดี ๆ ซึ่งอาหาร ที่เราทำเองมันกำหนดได้ เช่น ไม่ใส่ผงชูรส หรือรสชาติไหนถูกใจลูกที่สุด รวมถึงจะได้ดูความเหมาะสมให้เขาด้วย เช่น แต่ก่อนลูกเป็นนักยิมนาสติก ทีมชาติ เขาสามารถกินเยอะได้ เราก็ให้เขากินเต็มที่ แต่เดี๋ยวนี้น้องไม่ได้ ออกกำลังกายเยอะอย่างแต่ก่อนแล้ว เราต้องปรับมาเป็นอาหารที่ไขมันหรือ แป้งน้อยหน่อย เขาจะได้ไม่อ้วนและมีสุขภาพที่ดี” คุณแหวนกล่าว

ลูกสาวผู้อยากเดินตามรอยแม่ ไม่ใช่แค่ชอบการร้องเพลงและ การแสดง แต่น้องปันปันมีอีกสิ่งที่เธอหลงใหลเหมือนกับคุณแม่ นั่นคือ ความ ชื่นชอบในเรื่องการทำอาหาร “ปันปันสนใจเรื่องการทำอาหารมากค่ะ ชอบ เข้าไปช่ วยคุ ณแม่ ในครัวชอบดู รายการทำอาหารแล้วเอามาลองทำเองอยู่บ่อยๆ ล่าสุดเพิ่งทำสปาเกตตีให้คุณพ่อคุณแม่ชิม ท่านบอกว่าอร่อยดี เราก็ปลื้ม เวลาเราเครียด ว่างจากการเรียนหรือการทำงาน ได้ทำอาหารก็ช่วยให้ ผ่อนคลายดี แถมรู้สึกว่าน่าภูมิใจดีนะ เหมือนเวลาเห็นคุณแม่ทำอาหารเก่ง แล้วเราก็รู้สึกว่าแม่เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ปลายจวักจัง เราก็อยากมีบ้าง” ปันปันเล่าพร้อมหัวเราะ

เมนูโปรดที่อยากบอกต่อ จานเด็ดที่คุณแหวนและน้องปันปันนำมาฝาก คุณผู้อ่านในโอกาสนี้ ทั้งคู่บอกกับเราว่า เป็น 3 เมนูที่ชอบปรุงรับประทาน อยู่เป็นประจำ “สูตรอาหารพี่แหวนได้มาจากหลายที่ ดูเว็บไซต์บ้าง เปิด หนังสือบ้าง อย่างทีรามิสุอ่านจากตำรา ลองทำแล้วนำมาปรับโน่นนี่อีก นิดหน่อยจนได้รสชาติแบบที่เราชอบ หรือสลัดทูน่าและสปาเกตตีซีฟู้ด สองจานนี้เราไปกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแล้วชอบ พี่แหวนก็เดาว่าเขาน่าจะใส่ อะไรบ้าง แล้วกลับมาลองทำเองที่บ้าน ปรากฏว่าทำออกมาลูกบอกอร่อย เลยกลายเป็นเมนูโปรดที่เราทำกันจนถึงทุกวันนี้ ที่สำคัญ ขั้นตอนไม่ยาก เลยค่ะ อยากให้ลองทำตามดูนะคะ”

ขอบคุณ The Soul รัชดาฯ 68

สลัดทูน่า

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 10 นาที ปรุง 10 นาที
ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ 1-2 ถ้วย
แอนโชวี่ 25 กรัม
หอมเล็กสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชูหมักจากแอ๊ปเปิ้ล
(แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินีการ์) 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก Extra Virgin 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
ออริกาโน 1 ช้อนชา
ผักสลัด อาทิ เรดโอ๊ก กรีนโอ๊ก
และบัตเตอร์เฮด 4 ถ้วย
เกลือและพริกไทย อย่างละเล็กน้อย

วิธีทำ
ใช้ทัพพีค่อย ๆ ยีแอนโชวี่ให้เป็นชิ้นเล็กในภาชนะสำหรับคลุกสลัด จากนั้นใส่เนื้อ-ปลาทูน่า หอมเล็ก แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินีการ์น้ำมันมะกอก น้ำมะนาว และออริกาโนปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย นำผักสลัดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

สปาเกตตีซีฟู้ด

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 20 นาที ปรุง 15 นาที
เส้นสปาเกตตีต้มสุก 300 กรัม
กุ้งกุลาดำแกะเปลือก 6 ตัว
ปลาหมึกหั่นชิ้นพอคำ 1-2 ถ้วย
กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศเนื้อ 3 ลูก
มะเขือเทศเข้มข้น
(Tomato Paste) 1-2 ถ้วย
พาร์มีซานชีสขูด 1-4 ถ้วย

ทีรามิสุ

ส่วนผสม (สำหรับ 8 ชิ้น)
เตรียม 10 นาที ปรุง 30 นาที
(ไม่รวมเวลาแช่เย็น)
กาแฟเอสเปรสโซ 2 ถ้วย
ขนมเลดี้ฟิงเกอร์ 250 กรัม
เหล้าหวานกลิ่นกาแฟ
(Kahlua) 1-4 ถ้วย
มาสคาร์โปเน่ชีส 250 กรัม
วิปปิ้งครีม 350 กรัม
ไข่แดง 4 ฟอง
น้ำตาลทราย 1-2 ถ้วย
ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ตีวิปปิ้งครีมด้วยหัวตีแบบตะกร้อจนตั้งยอดอ่อน พักไว้ในตู้เย็น
ออริกาโน 1 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือและพริกไทย อย่างละเล็กน้อย

วิธีทำ

1. ต้มมะเขือเทศเนื้อในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้นพักให้เย็น นำไปปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
2. ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอร้อนใส่กระเทียมลงผัดจนเหลือง ตามด้วยกุ้งและปลาหมึกผัดพอสุก ตักขึ้นพักไว้จากนั้นใส่มะเขือเทศที่ปั่นไว้และมะเขือเทศเข้มข้นลงในกระทะ หรี่ไฟอ่อนเคี่ยวจนเริ่มงวด ใส่ออริกาโน กุ้งและปลาหมึกที่ผัดไว้ตามด้วยเส้นสปาเกตตี ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ปิดไฟ ตักใส่จาน โรยพาร์มีซานชีสขูด พร้อมเสิร์ฟ
3. ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายด้วยหัวตีแบบตะกร้อจนขึ้นฟู ใส่มาสคาร์โปเน่ชีสตามลงไปตีจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน นำวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ใส่ลงไป คนอย่างเบามือจนส่วนผสมเข้ากันดี
4. ผสมกาแฟเอสเปรสโซและเหล้าคาห์ลัวลงในชามผสม นำเลดี้ฟิงเกอร์ลงจุ่มให้ทั่วแล้วเรียงลงถาดฟอยล์สี่เหลี่ยมขนาด 6 × 16เซนติเมตร (สูง 5 เซนติเมตร) จนเต็มถาดตักส่วนผสมในข้อ 2 ราดทับด้านบน เกลี่ยให้เรียบ ทำทั้งหมดสองชั้น นำไปแช่เย็น2 - 3 ชั่วโมงจนขนมเซตตัว โรยหน้าขนมด้วยผงโกโก้ก่อนเสิร์ฟ

ร้านอร่อยที่บ้านนี้ปลื้ม
“ครอบครัวเราชอบหาอาหารอร่อยกินกัน ตั้งแต่เด็กทุกเช้าวันอาทิตย์ ถ้าไม่ติดธุระอะไรคุณพ่อ (บรรเจิด กฤษณายุธ) จะพาปันปันกับคุณแม่ไปเยาวราชเพื่อกินอาหารเช้าอร่อย ๆ ด้วยกันซึ่งปันปันชอบมาก รู้สึกว่าการได้กินอาหารอร่อย ๆ กับคุณพ่อคุณแม่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก”น้องปันปันเธอเล่าถึงเรื่องราวความชื่นชอบในของอร่อยของคนในบ้าน ว่าแล้วเธอและคุณแม่แหวนก็ระดมความคิดช่วยกันแนะนำร้านอร่อยมาบอกต่อคุณผู้อ่านถึง 3 ร้าน 3 สไตล์ด้วยกัน

หลายรส
ข้าวแช่



ปันปันชอบกินข้าวแช่มาก ร้านนี้เขาทำพริกหยวกยัดไส้และกะปิที่กินคู่กับข้าวแช่ได้อร่อยมากจริงๆ
ร้านอาหารไทยตำรับชาววังแห่งนี้เปิดบริการกว่า 36 ปีแล้ว มีเมนูอาหารไทยให้เลือกหลากหลาย ที่ขึ้นชื่อคือเรื่องข้าวแช่ ซึ่งมีขายตลอดทั้งปี เลือกได้ทั้งข้าวแช่หมูและข้าวแช่เนื้อ ที่นี่ให้เครื่องเยอะ ทั้งพริกหยวกยัดไส้หมูกับกุ้ง หัวหอมทอดสอดไส้ปลาปรุงรสกะปิ ไช้โป๊หวาน จึงนับเป็นอีกหนึ่งร้านที่ผู้ชื่นชอบข้าวแช่ไม่ควรพลาด

120/4 - 5 ซอยสุขุมวิท 49 ถนนสุขุมวิทแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯเปิดบริการทุกวัน วันอังคาร - วันอาทิตย์10.00 น. - 21.00 น. (วันจันทร์เปิด 10.00 น. - 15.00 น.)โทร. 0-2391-3193, 0-2712-5777

ข้าวมันไก่เจ้าเก่า
(ถนนแปลงนาม)



ข้าวมันไก่ เกาเหลาเลือดหมู

สามีชวนพี่มากินร้านนี้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานจนมีปันปันก็พาเขามากินด้วยตั้งแต่เด็กๆติดใจรสชาติของเขามาก เรียกว่าถ้าจะกินข้าวมันไก่ เราจะกินแต่ของร้านนี้เท่านั้น ที่นี่สับไก่เป็นชิ้นใหญ่ ไม่ตบจนแบน ส่วนข้าวกับน้ำจิ้มก็อร่อย ทุกอย่างลงตัวมาก

ร้านข้าวมันไก่ย่านเยาวราชแห่งนี้ แม้ไม่มีชื่อร้าน แต่ด้วยความที่ขายข้าวมันไก่รสเลิศมาหลายสิบปี จึงได้รับการบอกต่อและเป็นที่รู้จักในหมู่นักชิม ร้านเป็นตึกแถวสองห้องเปิดโล่ง นอกจากมีเมนูข้าวมันไก่แล้วยังมีเกาเหลาเลือดหมูร้อน ๆให้ซดกันคล่องคออีกด้วย

เลขที่ 36/42 หากมาจากถนนแปลงนาม ให้ตรงไปทางวัดมงคลสมาคม (วัดญวน) เลยวัดไปประมาณ 50 เมตรจะเห็นร้านอยู่ทางด้านซ้ายมือ เปิดบริการทุกวันเวลา 8.00 น. - 20.00 น. โทร. 0-2623-1200, 08-9562-2165

Pan Pan Italian
Restaurant



Ghiotta (สลัดทูน่า หมูอบ และแอนโชวี่)Spaghettialla Tarantina (สปาเกตตีซีฟู้ด)
ชื่อน้องปันปันก็มาจากร้านนี้ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะตอนท้องพี่กับสามีชอบไปกินร้านนี้ ที่นี่เป็นอิตาเลียนโฮมเมดไม่หรูหรา ไปแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในบ้านชาวอิตาเลียนจริงๆ อาหารอร่อยบรรยากาศก็ดี
แม้จะตั้งอยู่ย่านเศรษฐกิจอันแสนคึกคักแต่เมื่อเข้ามาถึงตัวร้าน ราวกับได้พักพิงอยู่ในบ้านเพื่อนที่ตกแต่งในสไตล์ยุโรป ดูเรียบหรูเงียบสงบ แถมมีหลากหลายของอร่อย ทั้งอาหารสไตล์อิตาเลียนแท้ ๆ ไอศกรีมโฮมเมดและเบเกอรี่สดใหม่ ไว้ให้เลือกชิมเพียบ

6 - 6/1 ซอยสุขุมวิท 33 (แดงอุดม) อยู่ตรงข้ามกับโรงแรม Novotel Lotus เขตวัฒนา กรุงเทพฯเปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 น. - 23.00 น.โทร. 0-2258-5071

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook