แต่งห้องเล็กๆ ให้ Flexible The place we call Home

แต่งห้องเล็กๆ ให้ Flexible The place we call Home

แต่งห้องเล็กๆ ให้ Flexible  The place we call Home
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานออกแบบคิดอยากมีบ้าน จึงลองใช้วิชาความรู้พร้อมความสามารถของตัวเองออกแบบห้องในสไตล์ที่อยากได้ คุณสมาชิกหมายเลข 3571339 จากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอม เลยมาแชร์ประสบการณ์การแต่งบ้านของตัวเองให้เราดู

สวัสดีครับทุกท่าน นี่เป็นกระทู้แรกของผม ซึ่งอยากจะลองแชร์ประสบการณ์แต่งบ้านตัวเองดูบ้าง หลังจากเคยดูเคยติดตามกระทู้แนวตกแต่งบ้านดีๆ มาหลายกระทู้ จึงอยากแชร์ไอเดียบ้าง หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

แนะนำตัวนิดนึงครับผมทำงานด้านออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายในมาหลายปีอยู่ เป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึงอยากจะมีบ้าน มีพื้นที่เล็กๆ เป็นของตัวเอง และบวกกับว่าเพิ่งแต่งงานขยับขยายออกมาเป็นครอบครัวเล็กๆ อีกครอบครัวนึง จึงอยากใช้ที่นี่เป็นบ้านใหม่สำหรับผมกับภรรยาถือซะว่าเป็นเรือนหอไปในคราวเดียว : )

ตัวผมเองสนใจและติดตามแนวทางการออกแบบในพื้นที่จำกัด จำพวก Tiny House Design และ Flexible Interior Design (งานออกแบบประเภทที่โต๊ะกินข้าวพับเก็บเข้าผนังได้เฟอร์นิเจอร์เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย) เนื่องจากมีความคิดว่าบ้านไม่จำเป็นต้องใหญ่หรือมีพื้นที่กว้างเสมอไป เพียงออกแบบแค่อยู่สบายอบอุ่นและมีฟังก์ชันครบถ้วนเหมาะและพอดีกับชีวิตประจำวันของเราและครอบครัวก็น่าจะเพียงพอสำหรับผมแล้ว

ซึ่งกระทู้นี้ผมจะพยายามรวบรัดให้เห็นแนวทางการออกแบบและใช้พื้นที่ในคอนโดขนาดประมาณ 34 ตรม. ให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานในหลายๆฟังก์ชันครับ

คอนโดที่ซื้อมาเป็นแบบ One Bed ครับ ซึ่งก็จัดฟังก์ชันภายในห้องมาทั่วๆไป คือมีพื้นที่รับแขก มีส่วนครัวที่เป็น Pantry รวมอยู่ในพื้นที่รับแขก คือทำอาหารที่ใช้เตาแก๊สหรือมีควันเยอะๆไม่ได้นะครับ แล้วก็ห้องนอนแยกอยู่รวมกับห้องน้ำอีกหนึ่งห้อง คือจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน บิ้วท์อินที่ให้มาก็จะมีชุดเคาท์เตอร์ครัว + ตู้แขวน และตู้เสื้อผ้าหนึ่งชุดติดกับผนังห้องน้ำ แล้วก็เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางส่วน ลักษณะของการวางแปลนเดิมของโครงการเป็นแบบ Layout นี้ครับ



ด้านล่างนี้จะเป็นภาพถ่ายห้องก่อนทำการตกแต่งครับ



ต่อมาผมกับแฟนก็เริ่มแพลนว่าจะดีไซน์ออกมาในรูปแบบไหน ก็สรุปกันได้ว่ารูปแบบงานดีไซน์ควจะเป็นแบบเรียบๆ ไม่เน้นตกแต่งเยอะ (เพราะงบมันน้อย ฮ่ะฮ่ะ : ) แต่มีฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชีวิตประจำวันของพวกเรา

ส่วนเรื่อง Layout เราคิดว่าควรจะแบ่งให้ห้องนอนแยกออกไปต่างหาก โดยเวลาที่แขกมาจะได้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเวลาเข้าห้องน้ำ รวมถึงอยากได้ที่เก็บของมากหน่อย ให้เพียงพอกับของที่จะย้ายมาจากหอพักเก่า ซึ่งก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยทีเดียว

อีกพื้นที่ ที่อยากให้มีคือที่นอนสำหรับแขก เผื่อพ่อแม่ของเราที่อยู่ต่างจังหวัดมาเยี่ยมเยียนจะได้มีที่นอนเป็นสัดส่วนและสะดวกสบาย

และอีกฟังก์ชันก็คือพื้นที่ทำงานเนื่องจากบางครั้งพวกเรามีงานที่จะต้องเพิ่มเติมเป็นรายได้เสริมหลังจากเวลางาน จึงอยากให้มีพื้นที่ทำงานที่ดูเป็นสัดส่วน ให้รู้สึกมีแรงผลักดันเวลาทำงาน (หรือช่วยสร้างบรรยากาศให้เริ่มลงมือทำงานซักทีนั่นเอง)  

สุดท้ายคือผมเสนอให้บิวท์ชั้นวางของกับราวแขวนเสื้อผ้าแบบเปิดและโต๊ะเครื่องแป้งให้เป็นพื้นที่เล็กๆให้แฟนผม เพื่อสร้างความรู้สึกเป็น Walk-in Closet นิดๆ ซึ่งอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็น่าจะเป็นความใฝ่ฝันของคุณผู้หญิงหลายๆคน ซึ่ง Layout และดีไซน์ใหม่ของห้องจะออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ

ปล.เราพยายามจะไม่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาเพิ่มอีกจะพยายามใช้ของที่โครงการให้มาให้เกิดประโยชน์ที่สุดเพื่อประหยัดงบและไม่ทำให้พื้นที่โดยรวมแคบกว่าเดิม

P1



ภาพขั้นตอนการก่อสร้างขออนุญาตข้ามไปแล้วกันนะครับเพราะไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่คือทำมาเป็นชิ้นๆจากโรงงานของผู้รับเหมาแล้วเอามาประกอบในพื้นที่ครับ จะยากหน่อยก็ตรงที่ว่ามีพื้นที่จำกัด ห้องค่อนข้างแคบช่างเลยทำงานยากพอสมควร แต่สุดท้ายทำออกมาได้เสร็จตามรูปแบบที่วางไว้หมดครับ

ภาพถ่ายหลังจากทำการตกแต่งเป็นที่เรียบร้อยครับ


ภาพรวมเวลาเปิดประตูห้องเข้ามาครับ แท่นใหญ่ๆทางขวาทีเห็นนี่ก็ใช้ประโยชน์จับฉ่ายครับ วางทีวี ชั้นวางรองเท้า ม้านั่งสำหรับใส่รองเท้า ชั้นหนังสือ ตู้เก็บของ ไว้นั่งเล่น นอนเล่น วางของเวลาซื้อของมาเยอะๆ ด้านใต้แท่นนี้ก็เป็นลิ้นชักขนาดใหญ่ใช้เก็บของได้มากอยู่ครับ เคาท์เตอร์ทางซ้ายที่ทำเพิ่มก็ใช้เป็นโต๊ะกินข้าวเวลาอยู่กันสองคน แล้วก็ไว้ทำงานในบางครั้ง ใต้เคาท์เตอร์ตัวนี้จะมีโต๊ะทำงานซ่อนอยู่ด้านล่าง เลื่อนออกมาใช้งานได้ครับ


ส่วนหลังโซฟาก็เป็นชั้นหนังสืออ่านเล่นกับที่เก็บของพวกใช้ทำงานประดิษฐ์ต่างๆของแฟนผมครับ

9



ลิ้นชักเก็บที่นอนไว้ปูเวลามีแขกมาพักหรือใช้นอนเล่นในบางครั้ง ไว้นั่งทำงานคนนึงนอนเล่นคนนึงก็ยังพอไหวไม่ต้องแย่งกัน เป็นที่นอนสำหรับพ่อแม่ที่มาเยี่ยม ถ้าเลื่อนโซฟามาติดที่แท่นวางที่นอนก็จะสามารถนอนได้สองคนพอดีครับ (หันเท้าไปทางชั้นวางของหน้าห้อง)



13
ชั้นวางของที่เห็นสามารถพับลงมาเป็นโต๊ะเอนกประสงได้ครับ เวลามีเพื่อนมาก็ใช้เป็นโต๊ะกินข้าวนั่งรอบๆ กันได้ประมาณห้าหกคน บนชั้นก็จะเก็บของได้อีกหลายช่องจำพวกของที่อาจจะดูรกตาหน่อยก็จะเก็บไว้ในนี้ครับ เวลาปิดกลับเข้าไปก็จะได้เป็นผนังไม้คลีนๆ เหมือนเดิม




หรือบางครั้งโต๊ะพับได้นี้ก็ใช้เป็นโต๊ะทำงานครับ เปลี่ยนมุมทำงานไปเรื่อยๆ จะได้ไม่เบื่อ

17

โต๊ะที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์เลื่อนออกมาวางตรงชั้นหนังสืออ่านเล่นได้พอดี ใช้เป็นที่ทำงานในโหมดจริงจังครับ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้ เนื่องจากไม่ค่อยจริงจัง ฮ่ะฮ่ะ : )



ส่วนที่กั้นห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนครับ ก่อนเข้าห้องนอนก็จะผ่านหน้าห้องน้ำกับส่วนของห้องแต่งตัว กระจกที่ใช้กั้นผนังกับประตูบานเลื่อนเป็นกระจกลอนแก้วหรือบางคนอาจจะเรียกกระจกลูกฟูกครับจะช่วยให้มองไม่เห็นคนที่ดูด้านในเห็นเป็นเงาเบลอๆ แทน สร้างความเป็นส่วนตัวได้ในระดับนึง

ในห้องนอนก็ ไว้นอนเลยครับ ไม่วางทีวี ฟูกวางกับพื้นที่ยกระดับขึ้นมาจากพื้นเดิม 30 ซม. ให้ความรู้สึกว่าขึ้นบันไดซักสองขั้นก่อนเข้าไปนอน เหมือนเป็นเหล่าเต๊งตามคติบ้านคนจีน ฮ่ะฮ่ะ (คิดไปเองน่ะครับ)

ของตกแต่งส่วนใหญ่ตามชั้นวางของก็ของเก่าเก็บทั้งมาจากบ้านที่ต่างจังหวัด ของอาโกว อาอี๊ ของแถม ของเซลล์เอามาฝาก จะมีเพียงบางชิ้นที่ซื้อมาเพิ่มครับ เพื่อความประหยัด

จบแล้วล่ะครับสำหรับไอเดียการตกแต่งบ้านเล็กๆหลังนี้
สุดท้ายหวังว่าบ้านเล็กๆหลังนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆท่าน และขอให้ทุกท่านมีความสุขกับบ้านในฝันของทุกท่านนะครับ
มาสร้างบ้านด้วยแรงของเราเพื่อตัวเราและครอบครัวเรากันนะครับ  : )

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ ของ แต่งห้องเล็กๆ ให้ Flexible The place we call Home

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook