เสริมจมูก
โครงสร้างของใบหน้าที่งดงามประกอบไปด้วย รูปโครงหน้า คิ้ว ตา ปาก และจมูก ถ้าคุณมีรูปหน้าดี คิ้วดี ตาสวย ปากบาง แต่จมูกแบนบาน คุณก็ดูแค่ธรรมดา แต่หากมีจมูกเป็นสันสวยรับกับใบหน้า คุณก็จะเป็นคนที่สวยโดดเด่นขึ้นมาในทันใด ดังนั้นจึงไม่แปลกใช่มั้ยถ้าหมอจะบอกว่า การเสริมจมูก เป็นศัลยกรรมตกแต่งที่สาวไทย (หนุ่ม ๆ ด้วย) นิยมทำกันมากที่สุดอย่างหนึ่ง ใคร ๆ ก็อยากสวยอยากหล่อดูดีมีดั้งโด่งเป็นสันคมเข้มทั้งนั้นแหละครับ
ในบทนี้หมอจึงจะแนะนำวิธีการเพิ่มสวยเติมหล่อด้วยการเสริมจมูกที่ปลอดภัยมาให้ได้ทราบกัน
การเสริมจมูก เป็นการตกแต่งโครงสร้างของจมูกให้ดูสูงขึ้น ทำให้โครงสร้างจมูกมีรูปร่างที่สวยงามขึ้น การผ่าตัดเสริมจมูกมีทำกันมานานหลายสิบปีแล้ว คนที่มีโครงสร้างของจมูกแบนทั้งผู้ชายและหญิงสาวสามารถรับการผ่าตัดเสริมจมูกได้ ควรจะมีอายุอย่างน้อย 16 ปี ขึ้นไป
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกมีหลายชนิด จำแนกง่าย ๆ คือ
1. จากร่างกายของผู้รับการผ่าตัด (Autograft)
เช่น กระดูก กระดูกอ่อน ฯลฯ วิธีนี้ส่วนใหญ่จะใช้เสริมจมูกคนไข้ที่มีจมูกผิดรูป เนื่องจากอุบัติเหตุหรือแก้ไขความพิการจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เนื้องอก ความพิการแต่กำเนิด เป็นต้น และไม่เหมาะสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก เพื่อความงามสำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไป
2. วัสดุสังเคราะห์ (Synthetic prothesis)
เช่น ซิลิโคนแท่ง (Silicone) ที่ใช้ในวงการแพทย์ (Medical grade) เพราะจะมีปฏิกิริยาต่อร่างกายมนุษย์น้อยมาก ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถรับและห่อหุ้มแท่งซิลิโคนให้ยึดอยู่กับเนื้อเยื่อได้ดี
ยังมีวัสดุอีกหลายชนิดที่มีการนำมาเสริมจมูก แต่ปัจจุบันนี้วัสดุทั้ง 2 อย่างนี้ยังเป็นที่ใช้กันแพร่หลายมาก
คุณรู้แล้วนะครับว่า ส่วนมากแพทย์จะเลือกใช้ซิลิโคนแท่งในการผ่าตัดเสริมจมูก ทีนี้ถ้าคุณต้องการที่จะเสริมจมูกให้โด่งสวย คุณต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน และพึงทราบว่า การผ่าตัดเสริมจมูกนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจมูกเป็นโครงสร้างที่อยู่บนส่วนกลางของใบหน้า
ดังนั้นควรพิจารณาควบคู่ไปกับโครงสร้างอื่น ๆ เช่น คิ้ว หน้าผาก ตา แก้ม และริมฝีปากด้วย ซึ่งโครงสร้างอื่น ๆ จะมีส่วนในการกำหนดความสูง ความกว้างของตัวจมูก และปลายจมูกด้วย
แพทย์จะสอบถามความต้องการของคุณ และตรวจสอบโครงสร้างของจมูก รวมถึงเนื้อเยื่อในโพรงจมูกด้านนอก (Anterior nare) และจะพิจารณาส่วนต่าง ๆ ในโครงหน้าประกอบด้วยว่า ถ้าทำแล้วดูสวยดูดีเหมาะกับรูปหน้าของคุณหรือไม่ ถ้าเห็นว่าโอเค..สวยคุณก็จะได้จมูกโด่งตามที่คุณต้องการถ้าเห็นว่าไม่เหมาะ เช่น โด่งเกินไป แหลมเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียงได้ หมออาจแนะนำให้คุณลดขนาดลงมาแทน หรือดูให้เหมาะสมกับคุณเป็นคุณที่สวยไม่เหมือนใครก็ได้ ดังนั้นขั้นตอนนี้คุณจึงต้องแจ้งความประสงค์และพูดคุยทำความเข้าใจกับแพทย์ให้ดี เพราะสวยของคุณกับสวยของแพทย์อาจไม่ตรงกันก็ได้
นอกจากนั้นคุณควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่า คุณเคยผ่าตัดอะไรเกี่ยวกับจมูกมาหรือเปล่า มีโรคประจำตัวมั้ย หรือแพ้ยาอะไรบ้าง และถ้าคุณยังมีปัญหาใดสงสัยที่ต้องให้แพทย์อธิบาย ก็ถามให้หมดเพื่อความสบายใจ
หลังจากที่คุณกับแพทย์ทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย แพทย์ก็จะทำการผ่าตัด เพราะการผ่าตัดเสริมจมูกเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากนัก และใช้เวลาไม่นาน ชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้ว คุณจึงสามารถรับการผ่าตัดได้เลย
ว่าแล้วแพทย์ก็จะให้ยานอนหลับที่มีฤทธิ์สั้นๆ ทั้งนี้เพื่อให้คุณนอนหลับ ลดอาการวิตก และทำให้การฉีดยาชารอบจมูกสามารถกระทำได้ง่าย และคุณก็ไม่รู้สึกเจ็บด้วย
หลังจากนั้นเมื่อมีการวัดจมูกเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนำแท่งซิลิโคน ซึ่งได้ตกแต่งและทำรูปร่างให้เรียบร้อยตามที่กำหนดไว้มาใส่ที่สันจมูก โดยแผลที่ผ่าตัดจะมีความยาวประมาณ 1 ซม. บริเวณขอบรูจมูก อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ตามแต่ความถนัดของแพทย์
จากนั้นจะมีการผ่าตัดสร้างช่องว่าง (Pocket) ที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูก ให้สามารถใส่แท่งซิลิโคนที่เตรียมไว้ได้
เมื่อใส่เข้าไปก็ตรวจสอบความเรียบร้อย เย็บปิดแผลประมาณ 3 เข็ม ปิดพลาสเตอร์หรือเฝือกจมูก เพื่อช่วยป้องกันตัวจมูกและลดอาการบวมเป็นอันเรียบร้อย ทั้งนี้การใช้วัสดุเย็บแผลหรือชนิดพลาสเตอร์ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์แต่ละท่าน
แพทย์จะให้คุณนอนพักประมาณ 1 ชม. เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีฤทธิ์ยานอนหลับตกค้างอยู่แล้ว คุณก็สามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องพักค้างคืนที่โรงพยาบาล
แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลหลังการเสริมจมูก ให้คุณทำตามที่แพทย์แนะนำจะได้หายเร็วขึ้น การดูแลหลังการเสริมจมูกก็เป็นวิธีง่าย ๆ คือ
1. ประคบผ้าเย็นประมาณ 24-48 ชม. หลังจากนั้นถ้ามีรอยฟกช้ำให้ใช้น้ำอุ่นต่อ
2. นอนศีรษะสูง หนุนหมอนประมาณ 2-3 ใบ
3. จมูกจะบวมประมาณ 2-3 วัน ในวันที่ 4 ก็จะเริ่มยุบ
4. ทานอาหารตามปกติ ยกเว้นอาหารรสจัด ให้งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ในช่วง 2 อาทิตย์แรก
5. ให้มาพบแพทย์หลังการผ่าตัดประมาณ 1-2 อาทิตย์ ตามที่แพทย์นัด
โดยทั่วไปจมูกจะยุบบวม และเข้าที่ประมาณ 1 เดือน ดังนั้นคุณต้องระมัดระวังพอสมควร เรื่องการโดนกระแทก และควรอยู่ห่างเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ เพราะต้องรอเวลาเพื่อให้แท่งซิลิโคนถูกเนื้อจมูกห่อหุ้มให้แน่นมากๆ ก่อน (ประมาณ 1-3 เดือน) จึงจะสามารถทนแรงกระทบได้มาก แล้วคุณสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติพร้อมกับมีจมูกที่โด่งสวยอีกด้วย
ดังนั้นคุณที่คิดจะเสริมจมูก ต้องเน้นว่า จะต้องปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะผ่าตัดกับโรงพยาบาลที่ดีเท่านั้น จะได้ไม่มีปัญหาตามมา
แต่สำหรับผู้ที่ทำไปแล้วและเกิดเป็นปัญหาก็ไม่ต้องตกใจไปเพราะแพทย์สามารถแก้ไขให้คุณได้ครับ มาดูกันว่าโดยส่วนใหญ่มีปัญหาอะไรและแพทย์จะแก้ไขได้อย่างไรกันบ้าง เริ่มจากจมูกคุณคดก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ
จมูกคดเอียง เนื่องจากแท่งซิลิโคน แพทย์จะแก้ไขโดยเอาแท่งซิลิโคนเก่าออก และปรับช่องว่าง (Pocket) ใหม่ให้ตรงแนวกลางของจมูก แล้วใส่แท่งซิลิโคนใหม่ให้ เป็นอันเรียบร้อย หลังผ่าตัดแก้ไขจมูกคดควรจะใส่เฝือกจมูกไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ จะได้ไม่คดเอียงอีก
จมูกสูง หรือตำเกินไป ปัญหานี้แพทย์จะแก้ไขโดยการผ่าตัด เพื่อปรับแต่งแท่งซิลิโคนใหม่ ให้ได้รูปและขนาดตามที่คุณต้องการ
ปลายจมูกบางแต่ยังไม่ทะลุ ปัญหานี้แก้ไขโดยแพทย์จะใช้เนื้อเยื่อบริเวณหลังใบหูด้านใดด้านหนึ่ง (Dermal-fat graft) หรืออาจจะมีส่วนกระดูกอ่อนของใบหู (Cartilageneus graft) แล้วแต่กรณีมาเสริมบริเวณเนื้อเยื่อปลายจมูก เมื่อเนื้อเยื่อใหม่อยู่ตัวแล้ว ปลายจมูกจะมีผิวหนังที่แข็งแรงขึ้น ลำหรับแท่งซิลิโคนควรปรับเปลี่ยนใหม่ให้แรงกดไม่อยู่บริเวณปลายจมูกมากนัก
จมูกที่มีแท่งซิลิโคนทะลุ กรณีนี้ต้องเอาแท่งซิลิโคนออก ปลายจมูกจะยุบตัวลงและมีรอยแผลเป็น
จมูกมีการติดเชื้ออักเสบ มักจะพบในช่วง 1-2 อาทิตย์ หลังจากเสริมจมูก จมูกจะมีอาการปวดบวม แดง ร้อน กรณีนี้ต้องเอาแท่งซิลิโคนออกก่อน เมื่ออาการอักเสบหายหมดจึงจะใส่แท่งซิลิโคนใหม่ได้
โดยทั่วไปแล้ว การเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน เป็นวิธีที่ทำกันแพร่หลายและได้ผลดีมาก คุณไม่ต้องเป็นกังวลใด ๆ เพียงคุณเลือกทำในโรงพยาบาลที่พร้อม มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และทำตามที่หมอแนะนำข้างต้น ที่สำคัญคือ อย่าพยายามเสริมจมูกสูงหรือเลือกทรงจมูกที่ฝืนธรรมชาติมากเกินไป คุณก็จะได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้โดดเด่นสวยเก๋มีจมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าแน่นอน