รีโนเวท ห้องนอนเก่าด้วยตัวเอง ภายในงบจำกัด ทำเองทุกขั้นตอนไม่ง้อช่าง
ห้องนอนสำหรับบางคนแถบจะเป็นอาณาจักรส่วนตัวย่อมๆ เพราะในห้องนอนของหลายคนสะท้อนความเป็นตัวของบุคคลนั้น อย่างคุณสมาชิกหมายเลข 3077190 จากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอม ก็คิดเปลี่ยนห้องนอนของตัวเอง โดยไม่ต้องง้อช่าง เห็นแล้วน่าอยู่ขึ้นมากเลย
ขอออกตัวก่อนครับว่า นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยครับ โดยประสบการณ์ที่ผมจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ก็คือ การแต่งห้องนอนบ้านตึกแถวด้วยตัวเองของผมครับ โดยจะพยายามเล่าเป็นลำดับๆ พร้อมรูปประกอบนะครับ ถ้าผิดพลาดยังไงขอให้ช่วยแนะนำด้วยครับ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า บ้านผมเป็นตึกแถวย่านเยาวราชครับ ซึ่งข้อดีของย่านนี้ก็คือเดินทางสะดวก(โดยรถประจำทาง) แต่ข้อเสียก็คือ พื้นที่บ้านคับแคบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอยู่อาศัยกันทั้งครอบครัวแล้วด้วย การจัดสรรพื้นที่ใช้งานยิ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งครับ สำหรับห้องนอนของผมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตตุรัส ขนาดประมาณ 4x4 เมตร ไม่มีหน้าต่างครับ!!! มีประตูเข้าห้องนอน แล้วก็ประตูหนีไฟที่จะเปิดออกไปข้างนอกเลย ส่วนห้องน้ำต้องเดินออกจากห้องนอนไปครับ แรกทีเดียวผมไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย เพราะไม่ได้อยู่ประจำที่นี่ เรียกได้ว่าเดินเข้าห้องมา มีฟูก หมอน แล้วก็ราวแขวนเสื้อนิดหน่อย แค่นั้นจริงๆครับ (ก็มันมีไว้นอนแค่นั้นนี่นา)
ลองดูภาพห้องจะเป็นประมาณนี้
หลังจากนั้น ก็มีช่วงหนึ่งที่ Index ที่ MBK เอาเฟอร์นิเจอร์มาลดราคาแบบถูกสุดๆเนื่องจากจะย้ายออกจากห้างแล้ว ผมก็ไปสอยโต๊ะเขียนหนังสือกับชั้นวางหนังสือ มาเพิ่ม... โต๊ะเขียนหนังสือตัวนี้เป็นตัวโชว์ครับ จำได้ว่าซื้อมาประมาณ 1,500 บาทเอง ถูกมากกกกกกกก
ชั้นนี้ก็ซื้อตอนลดเหมือนกัน 693 บาทเองครับ
พอซื้อมาแล้วก็เลยไปล้างรูปถ่ายรับปริญญาตัวเองมาแปะตกแต่ง (ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบพอดี กำลังเห่อชุดครุย 55) แล้วก็ซื้อเก้าอี้ทำงานเพิ่มเพื่อมาใช้กับโต๊ะตัวนี้ แล้วลืมบอกไปว่าโคมไฟสีน้ำเงิน ที่ตั้งหนังสือนั้นก็ซื้อที่ Index ตอน Sale เหมือนกัน อิอิ ก็อยู่แห้งๆแบบนั้นเรื่อยมาตลอดเลยครับ
ทีนี้ มาถึงจุดเปลี่ยนครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิตและจะต้องกลับมาอยู่ในเมืองแบบถาวรเพื่อทำงาน ประกอบกับในช่วงนั้นญาติผมคนหนึ่งกำลังจะซื้อ คอนโดมิเนียม ครับ ผมจึงได้ไปดู คอนโดใหม่ ใกล้ BTS ทั่วกรุงเทพฯเลย ตรงนี้เองครับก็เลยทำให้ผมอยากแต่งห้องนอนขึ้นมาครับ (จริงๆอยากได้คอนโด 555) ก็เลยถ่ายรูปการแต่งคอนโดจากห้องตัวอย่างต่างๆมา แล้วก็หาแรงบันดาลใจ จาก Pinterest แล้วก็พวกตัวอย่างห้องตามร้านเฟอร์ พวก SB, Index, Ikea ครับ โดยมีหลักอยู่ว่า
1. การแต่งห้องนี้ต้องทำด้วยตัวเองครับ และรบกวนคนอื่นให้น้อยที่สุด ที่บ้านมีแม่กับพี่สาวอยู่ประจำอยู่แล้ว จึงไม่สะดวกที่จะให้ช่างเข้ามาวุ่นวายในบ้านเยอะหลายๆวันครับ
2. การแต่งห้องนี้ต้องใช้งบประมาณไม่สูงนัก โดยกลยุทธิ์คือใช้วิธีทยอยซื้อของมาแต่งทีละชิ้นๆ อันไหนทีมีของเก่าอยู่แล้ว ก็จะหยิบมาใช้แล้วก็ทำให้มันกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไปครับ ดังนั้น เพื่อนๆไม่ต้องคาดหวังสูงนะครับว่ามันจะออกมาว้าวๆๆ เข้าชุดเหมือนห้อง Studio ในคอนโด อันนี้เรียกว่าแต่งกันตามมีตามเกิดกันไปเลยครับ
โดยผมเริ่มต้นจากการทาสีก่อนเลยครับ ผมคิดเอาเองว่าถ้าอยู่ห้องขาวๆทั้งห้องแบบเดิมก็ไม่ต่างอะไรกับห้องที่ไม่ได้แต่งเลย เลยกะจะทาสีเพื่อให้ห้องมีมิติและแบ่งสัดส่วนการใช้งานต่างๆในห้องครับ โดยสีหลักของห้องก็คือ ขาว เทา และนำ้เงินครับ ผมก็เลือกสีตามรูปใน Pinterest แล้วก็เอารูปไปให้ร้านสีผสมเป็นกระป๋อง แล้วก็ซื้อแปรง ลูกกลิ้งอุปกรณ์ทุกอย่างมาทาเองเลยครับ เริ่มจากสีเทาในผนังทั้งสองด้านครับ
ตัดด้วยสีเทาแบบครึ่งผนังครับ
แล้วมุมที่เป็นโต๊ะทำงานเดิมก็ทาด้วยสีน้ำเงินครับ ทีนี้สีน้ำเงินเนี่ยแหละตัวเจ้าปัญหาเลย เพราะพอผมลงสีไปแล้วมันไม่ติดผนังครับ (คงเพราะไม่ได้ลงรองพื้น) ต้องทาซ้ำหลายต่อหลายรอบมากจนจะได้สีน้ำเงินสนิทตามทีเห็นในภาพนี้ครับ
กว่าจะทาสีเสร็จเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ใช้เวลาทาสีรวมแล้วประมาณ 3-4 วันได้ ทำๆหยุดๆ ประกอบกับลองผิดลองถูกไปด้วย ตอนนั้นย้ายตัวเองมานอนที่ห้องนั่งเล่นแทน เพราะห้องนอนเหม็นสีครับ หลังจากทาสีไปแล้วก็จะเห็นว่าห้องเริ่มเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น หัวเตียงสีน้ำตาล ฟูก โต๊ะหนังสือ กับชั้น ก็ถูกเลื่อนเข้ามาไว้ตามเดิมครับ เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น
ทีนี้สิ่งที่เพื่อนๆยังไม่เห็นก็คือราวแขวนพอ และกองสิ่งของที่ผมนำมากองไว้ที่มุมห้องอีกฝั่งหนึ่งหนะครับ (ตามภาพเลย 555) ดังนั้น โจทย์ก็คือผมต้องหาวิธีกำจัดกองสิ่งของนี้ หรือไม่ก็หาตู้หาชั้นมาใส่ให้มันเข้าที่ครับ และทางออกของมันก็คือ......
ตู้เสื้อผ้าครับ ผมไปตระเวนดูตู้เสื้อผ้าที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ดังๆหลายที่มาก ส่วนใหญ่จะหลัก 8K UP ทั้งนั้น ซึ่งผมไม่อยากจะซื้อดีขนาดนั้น ก็ไปดู Ikea มีตู้รุ่นหนึ่งถูกมากประมาณ 5K-6K แต่ภายในไม่มีฟังก์ชั่นอะไรเลย เป็นไม้อัดมาตีๆเข้ากันเป็นตู้ ท้ายที่สุดคือ ผมจะขนกลับมาบ้านยังไงครับ รถก็มีแต่รถคันเล็ก คนช่วยประกอบก็ไม่มี อย่ากระนั้นเลย ผมเลยเกิดไอเดียว่าไปดูเฟอร์นิเจอร์แถวสวนมะลิดีกว่า เป็นเฟอร์บ้านๆที่มีช่างมาประกอบให้เสร็จ ตรงจุดนี้เราต้องใช้ Sense ในการเลือกนิดนึงครับ อย่างที่บอกแล้วว่าเฟอร์บ้านๆเหล่านี้ ถ้าเราดูดีๆจะพบแบบที่มันเหมาะกับเราและไม่ดูแก่จนเกินไปครับ ผมก็เลือกได้ตู้เสื้อผ้ามาแบบหนึ่งในราคาที่ต่อรองแล้วได้ถูกสุดๆ ประมาณ 4,500 บาท ครับ หลังจากนั้นก็เลือกสี (ข้อดีคือบางครั้งร้านเฟอร์บ้านๆพวกนี้ได้เปรียบตรงที่มีคนยกมาประกอบให้ถึงที่เลย ถ้าซื้อจากร้านเฟอร์ชื่อดังย่านบางนาคงมาประกอบกันปาดเหงื่อเลยหละครับ) ซึ่งอย่างที่บอกแล้วครับว่าผมว่า Tone สีห้องไว้แต่แรกแล้วว่าจะใช้ 3 สี คือ ขาว เทา น้ำเงิน ในที่นี้จึงเลือกสีขาวครับ
หลังจากตู้มาส่งเรียบร้อยผมก็ไปเอาชั้นวางโทรทัศน์จาก Koncept ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเข้าบ้านใหม่ๆ แต่ไม่มีใครใช้แล้วประกอบเข้า Set มาประกอบกันวางไว้ข้างตู้ครับ ก็ถือว่าเต็มห้องพอดี จัดการเก็บพวกของต่างๆเข้าตู้เสื้อผ้า และลิ้นชักต่างๆ ก็ทำให้ห้องกว้างและเป็นระเบียบชึ้นเยอะครับ
โจทย์ที่ผมต้องแก้ต่อไปก็คือ ประตูหนีไฟที่อยู่ตรงกับประตูทางเข้าพอดีถ้าไม่ทำอะไรเลยจะดูเป็นของแปลกปลอมมาก แต่จะเอาตู้เสื้อผ้าปิดไปก็ไม่ดี เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินเราจะแย่ครับ ก็เลยแก้ปัญหาด้วยวิธีการทำม่านขึ้นมาบังประตูแทนครับ ซึ่งทำให้ห้องซื่งไม่หน้าต่างนั้น ดูหลอกแล้วเหมือนมีหน้าต่างขึ้นมาทีเดียว แล้วความพริ้วของผ้าก็ช่วยให้ห้องแข็งๆดูนุ่มนวลขึ้นด้วยครับ
ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การเลือกของมาตบแต่งห้องแล้วครับ ผมเลือกซื้อกระจกหกเหลี่ยม ราวแขวนเสื้อรูปกิ่งไม้ และของจุกจิกอีกหลายอย่างจาก Ikea มาแต่งห้องครับ สำหรับตัวกระจกนั้นทำให้ห้องดูกว้าง มีลูกเล่นขึ้นเยอะครับ ทั้งหมดนี้ก็จัดการบรรเลงเองเลยครับ ก็ค่อยๆแต่งเอา ประกอบกับตัวเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือ และสะสมพวกโมเดลรถ โมเดลตึก อะไรพวกนี้อยู่แล้วครับก็เอามาจัดวางตามจุดต่างๆครับ ส่วนที่วางหนังสือตัว B นั้น จขกท. เอามาตั้งโชว์สวยๆครับเพราะ จขกท. ชื่อเล่นขึ้นต้นด้วยตัว “B” ครับ
ขอบอกเลยว่าตอนแต่งห้องนี่มีความสุขมากๆครับ มันเหมือนกับว่าเราค่อยๆทำอะไรบางอย่างแล้วเห็นว่ามันสำเร็จขึ้นทีละน้อยๆ หนะครับ ในส่วนการตกแต่งอื่นๆก็มีการซื้อตู้ลิ้นชักมาเพิ่มบ้าง แล้วก็มีล้างพวกภาพโปสเตอร์ละครที่ทำสมัยเรียนมาเข้ากรอบแต่งห้องไว้ครับ ส่วนใบปริญญาบัตรนั้นผมเอาไปเข้ากรอบย่านท่าพระจันทร์มาเก็บไว้เลยครับ ก็เลยได้เอามาแต่งห้องร่วมด้วยครับ
ส่วนรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่จะเติมเต็มให้ห้องสมบูรณ์ก็คือ ผ้าปูที่นอนครับ อย่างที่บอกว่าแต่ก่อนผมใช้ (ซุกหัว) นอน อย่างเดียงเลยไม่แคร์เท่าไหร่ว่าผ้าปูที่นอนจะเป็นสีอะไร หลังจากแต่งห้องแล้วก็เลยซื้อผ้าปูที่นอนใหม่มาให้มีสีคุมโทนเดียวกับห้องครับ และสิ่งที่มักจะลืมกันก็คือ Lighting ครับ ซึ่งจริงๆแล้วมีผมต่อความรู้สึกของห้องมากครับ แต่อย่างที่บอกว่า งานแต่งห้องครั้งนี้ทำเองไม่ง้อช่างครับ จึงใช้ไฟนีออนหลอดยาวดวงเดิมเป็นหลักครับ แต่ตอนกลางคืนจะเปิดไปไฟสีส้ม บนโต๊ะทำงาน และหัวเตียงแทนครับ ก็ช่วยให้ห้องสวยไปอีกแบบ และเป็นการเตรียมร่างกายเข้าสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริงครับ
ท้ายที่สุดนี้ ผมก็ลงรูปห้องมุมต่างๆที่ถ่ายไว้นะครับ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆลุกขึ้นมารีโนเวทห้องนอนด้วยตัวเองกันบ้างครับ หวังว่ารีวิวประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนนะครับ
อัลบั้มภาพ 49 ภาพ