รู้ไว้ เลือกซื้อคอนโดสุขุมวิทยังไงให้ใช่ ลงทุนต่อยังไงให้ปัง

รู้ไว้ เลือกซื้อคอนโดสุขุมวิทยังไงให้ใช่ ลงทุนต่อยังไงให้ปัง

รู้ไว้  เลือกซื้อคอนโดสุขุมวิทยังไงให้ใช่ ลงทุนต่อยังไงให้ปัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รู้ไว้ ! เลือกซื้อคอนโดสุขุมวิทยังไงให้ใช่ ลงทุนต่อยังไงให้ปัง !!

การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในสมัยนี้ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อจุดประสงค์สำหรับการพักอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ในบางพื้นที่อาจเป็นที่ที่เราสามารถต่อยอดเพื่อสร้างรายได้อย่างมหาศาลสำหรับเก็บสะสมเอาไว้ใช้ในอนาคตได้อย่างที่ใจหวัง การลงทุนกับที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมจึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับสนใจและใครๆ ต่างก็จับตามองเป็นพิเศษ

เมื่อพูดถึงพื้นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม หากว่าเรากำลังมองหาเพื่อที่จะเก็บไว้สำหรับการลงทุนแล้วละก็ ทำเลที่คึกคักอยู่สม่ำเสมอและจัดว่าเป็น Prime Area (พื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของเมือง อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย) ของกรุงเทพมหานครที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอก็เห็นจะเป็น คอนโดสุขุมวิทและคอนโดสาทร นับว่าเป็นสองทำเลยอดฮิตที่ไม่ว่าจะยุคไหนก็ไม่มีวันหล่นลงมาจากอันดับได้   

โดยพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยในย่านดังกล่าวมีราคาซื้อขายต่อตารางเมตรเกิน 100,000 ขึ้นไปแล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมันช่างน่าเย้ายวนใจให้เราต้องมาลงทุน อีกทั้งก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นระยะสั้น หรือระยะยาวต่างก็มีความคุ้มค่า แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าจะเอายังไงต่อ Sanook! Home ก็มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้การลงทุนในคอนโดสุขุมวิทและคอนโดสาทรนี้เป็นไปได้ด้วยความแฮปปี้ จะเป็นยังไงตามมาดูพร้อมกัน …

- เลือกแบรนด์คอนโดที่คุ้มค่ากับการลงทุน

สิ่งแรกในการเลือกคอนโดสุขุมวิทและคอนโดสาทรสำหรับการลงทุน เราจะต้องเลือกแบรนด์ผู้ที่ทำหน้าที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ มองให้รอบด้าน ไม่จำกัดเฉพาะคอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่อาจรวมถึงการก่อสร้างที่พักอาศัยในแนวราบ เช่น ทาวน์โฮม , บ้านเดี่ยว และสิ่งก่อสร้างแนวดิ่ง อย่าง คอนโดมิเนียม นอกจากนี้ เราก็ต้องดูวัสดุที่โครงการเลือกใช้ การออกแบบ ไปจนกระทั่งถึงการบริการหลังการขายว่ามีคุณภาพรึเปล่า โดยเราสามารถตรวจสอบได้จากโลกโซเชียลว่าแบรนด์ถูกพูดถึงมากน้อยแค่ไหนเมื่อเกิดปัญหา นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่จะบอกได้ว่าแบรนด์ๆ นั้นเป็นแบรนด์ที่เราสามารถไว้วางใจให้ซื้อจากโครงการได้ในระดับหนึ่ง

- เดินทางสะดวก อยู่ใกล้ BTS

เมื่อเข้าสู่สังคมเมือง และภายในย่านดังกล่าวยังเป็นศูนย์กลางของธุรกิจอีกด้วย สิ่งที่เราต้องนึกถึงเป็นเรื่องต่อมา คือ เรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ฉะนั้น คอนโดที่เราเลือกลงทุนจะต้องมีระบบการขนส่งแบบราง หรือ BTS อยู่ใกล้ๆ อย่าง คอนโดสุขุมวิท ก็จะมีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อเดินทางไปยังศูนย์การค้าชื่อดังได้หลายแห่ง อาทิ The Emporium , EmQuatier และ Siam Paragon ตลอดจนแหล่ง Hangout ต่างๆ กระจายอยู่ตามแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า

ถ้าเกิดว่าเราไม่ชอบที่จะเดินทางด้วยการขับรถเองไปทำงาน หรือไปติดธุรกิจในย่านสีลม การให้ความสำคัญต่อการลงทุนในคอนโดสุขุมก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากมีรถยนต์ ก็สามารถที่จะขับไปไหนมาไหนในย่านนี้ได้อย่างสบายใจ ส่วนในกรณีที่เราไม่อยากจะใช้เวลาสิ้นเปลืองบนท้องถนน การเลือกใช้บริการรถสาธารณะประเภทอื่นๆ ก็มีอยู่หลากหลาย ทั้งรถประจำทาง , รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือแม้แต่จะเดินชิลๆ ดูทิวทัศน์ 2 ข้างทางก็ทำได้เช่นกัน

- ครบครันทั้งแหล่งชิม ช้อป ชิล

ตลอดทั้งเส้นทางในย่านสุขุมวิท หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของคอนโดสุขุมวิทต่างก็รู้ดีว่า ในย่านนี้นั้นเรียงรายไปได้ร้านอร่อย คาเฟ่ที่ตกแต่งชิคๆ อย่าง Wine Republic , Audrey หรือแม้แต่คอมมูนิตี้มอลล์สุดทันสมัย อย่าง The Commons , J Avenue Seen Space ไหนจะบาร์ ไหนจะผับ รวมถึงร้าน Hangout แนวๆ อย่าง Funky Villa Mellow Bottoms Up Hobs ก็มีให้เลือกใช้ชีวิต เติมสีสันให้สุดสนุก

และยังมีอีกมากที่ซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอย ส่วนคุณแม่บ้านท่านไหนที่อยากเดินช้อปสินค้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน ก็มีซูเปอร์มาเก็ตเดิน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบในแบบที่เราต้องการ ถือว่าเป็นเคล็ดลับอีกหนึ่งข้อที่ต้องรู้ไว้สำหรับการลงทุน เพื่อช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคอนโดของเรา หากต้องการปล่อยเช่าให้แก่คนอื่นๆ หรือชาวต่างชาติ

- เต็มไปด้วยพื้นที่ของความเป็นส่วนตัว

ในอดีตที่ผ่านมา พื้นที่ย่านสุขุมวิทและสาทรนั้นเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีฐานะ ฉะนั้นการออกแบบผังเมืองจึงค่อนข้างมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการตัดผ่านของถนนขนาดใหญ่อย่างเป็นระบบ จึงทำให้เกิดเป็นบล็อคของย่านที่อยู่อาศัยในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ การจัดผังเมืองในรูปแบบดังกล่าวยังช่วยให้ผลักดันให้ย่านนี้กลายเป็นแนวหน้าของถนนที่เป็นโซนที่ตั้งของร้านค้าต่างๆ

ถัดจากนั้นลงไปก็จะเป็นของโซนที่อยู่อาศัย ที่ถึงแม้จะเป็นย่านธุรกิจ เป็นย่านที่มีความคึกคักของผู้คน แต่โซนคอนโดมิเนียมก็มีความสงบและเป็นส่วนตัวสูง ไม่เป็นที่พลุกพล่านของผู้คน ยกตัวอย่าง คอนโดสุขุมวิท 69 ที่มี่ The Room สุขุมวิท 69 ก็มีบรรยากาศที่น่าลงทุน เหมาะแก่การเข้าไปพักอาศัยเป็นอย่างมาก

- ไม่ว่าจะสไตล์ก็ต้องอุ่นใจ

มาถึงส่วนสุดท้ายที่จะลืมนึกถึงไปไม่ได้ ไม่ว่าเราจะเลือกลงทุนไปกับคอนโดสุขุมวิท หรือคอนโดสาทร ถ้าไม่มีในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาและมีมาตรฐาน ยังไงก็ไม่เหมาะกับการลงทุน เพราะเป็นอีกหนึ่งสิ่งพื้นฐานที่คอนโดหรูต้องมี นอกจากนั้น การมีทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจและโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเป็นหนึ่งข้อมูลที่จะช่วยให้เราเลือกเก็บคอนโดเหล่านี้มาไว้ในครอบครองได้ง่ายยิ่งขึ้น

6 ข้อต้องรู้ ! ก่อนเลือกลงทุนในคอนโดมิเนียมให้คุ้มค่า

คอนโดมิเนียม นับว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งประเภทที่กำลังถูกจับตามองและน่าลงทุนมากที่สุดในขณะนี้ ถึงแม้ว่ามีหลังเสียงยังคงเห็นค้านว่าการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่มากพอ ซึ่งในบางมุมก็อาจเป็นเรื่องจริง แต่การลงทุนในคอนโดมิเนียม อย่าง คอนโดสุขุมวิท คอนโดทองหล่อ หรือคอนโดสาทร ก็เป็นสิ่งที่จับต้องได้ เพราะผู้ที่ลงทุนนั้นจะได้ที่ดิน หรือพื้นที่มีชื่อเป็นของเราเอง ส่วนการลงทุนในหุ้น การลงทุนเราก็ได้แค่เพียงใบหุ้นที่อาจจะมีมูลค่าเป็นศูนย์ ถ้าหากว่าในอนาคตเจ้าของหุ้นนั้นเกิดล้มละลายขึ้นมา อย่างไรก็ตาม การลงทุนในคอนโดมิเนียมก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ควรตัดสินใจ

Sanook! Home ต้องการทำให้เห็นว่าไม่ได้ไม่ได้สนับสนุนที่จะให้ลงทุนไปกับคอนโดมิเนียมเพียงอย่างเดียว เพียงแต่ต้องการให้มองเห็นว่าการลงทุนในทรัพย์สินที่เป็นที่อยู่อาศัยเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงไม่ให้เกิดกับการเล่นพอร์ทของเรา โดยมีข้อความสนับสนุนจากผลวิจัยในต่างประเทศที่บอกว่า “การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นจะทำให้ผลตอบแทนของพอร์ทการลงทุนขยับตัวสูงขึ้น ลดความผันผวนของผลตอบแทนให้น้อยลง ทั้งยังช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย”

เพื่อให้เข้าใจในเรื่องของการลุนทุน ขออธิบายให้เห็นภาพกันก่อนดีกว่าว่าการลงทุนนั้นสามารถแบ่งออกได้กว้างเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ ได้แก่ฃ

  • การลงทุนระยะสั้น : ส่วนมากการลงทุนในประเภทนี้มักไม่เกิน 1 ปี ซึ่งนักลงทุนจะวางเงินจองและขายเพื่อทำกำไรก่อนโอนกรรมสิทธิ์ การลงทุนในคอนโดประเภทนี้ นักลงทุนจะต้องหูไวตาไวและกล้าตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
  • การลงทุนระยะกลาง : การลงทุนประเภทนี้ ผู้ที่ลงทุนมันโอนกรรมสิทธิ์และขายทำกำไรเมื่อผลตอบแทนถึงเป้าหมายแล้ว จะมีกรอบระยะเวลาคร่าวๆ ประมาณ 1 - 5 ปี
  • การลงทุนระยะยาว : การลงทุนประเภทนี้ ผู้ที่ลงทุนมักจะมองโอกาสในการทำกำไรจากอสังหาริมทรัพย์ไปเรื่อยๆ โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

สำหรับการลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อมาและขายใบจองไปเพื่อทำกำไร หรือการซื้อคอนโดทองหล่อเก็บไว้เพื่อทำกำไรระยะยาว หรือการปล่อยคอนโดสุขุมวิทให้เช่า ต่างก็ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน วันนี้ Sanook! Home ก็ได้รวมข้อมูลเหล่านั้นมาให้ได้อ่าน เผื่อไว้ประกอบการตัดสินใจก่อนเริ่มการลงทุนยังไงล่ะ

  1. กระแสเงินสด : นับว่าเป็นอย่างแรกๆ ที่ได้จากการลงทุนในคอนโดมิเนียมไม่ว่าจะเป็นคอนโดสุขุมวิท หรือคอนโดทองหล่อ โดยกระแสเงินสดที่ว่านั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ อย่างแรก เมื่อคุณนำคอนโดสุขุมวิทไปปล่อยเช่า ทุกๆ เดือนก็จะมีกระแสเงินสดที่ได้จากค่าเช่าเข้ามาเพื่อนำไปจ่ายให้กับธนาคารในแต่ละเดือน หรือถ้าหากต้องการการลงทุนโดยเก็บผลตอบแทนที่ได้นั้นเอาไว้เอง กระแสเงินออกที่มีในทุกๆ เดือนก็เปรียบเสมือนเป็นการจ่ายออกไปในเชิงการลงทุนระยะยาว
  2. ทรัพย์สินมีมูลค่าเพิ่ม : ข้อมูลจากสถิติรายงานว่า มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 - 3% ทุกี เป็นมูลค่าพื้นฐานของบ้าน คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ หรือทาวน์โฮมทั่วไป ส่วนที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพนั้น มูลค่าอาจขยับขึ้นได้สูงถึง 10% นอกจากนี้ ปัจจัยที่สำคัญอย่างเรื่องของการวางผังเมือง ข้อกฎหมาย รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ก็มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทรัพย์สินด้วย
  3. การลดเงินต้นจากการชำระเงินกู้ : เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพื่อมาลงทุนในคอนโดมิเนียมแล้วละก็ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็เห็นจะเป็นการผ่อนชำระเงินกู้ให้แก่ธนาคารเป็นงวดๆ ในทุกๆ เดือน นั่นหมายถึงเงินต้นและดอกเบี้ยเงินเงินกู้ ฉะนั้น การที่ปล่อยเช่าคอนโดสุขุมวิทได้ ย่อมหมายถึงคุณมีกระแสเงินได้เข้ามาเพื่อนำไปจ่ายลดเงินต้น โดยที่เงินต้นก็หมายถึงผลตอบแทนอีกประเภทหนึ่งที่ได้จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของเรานั่นเอง
  4. สิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้ : ในบ้านเรานั้นมีข้อกฎหมายที่เหมือนๆ กับอีกหลายประเทศที่ให้คุณสามารถนำดอกเบี้ยที่ใช้ชำระคืนเงินกู้จากธนาคารมาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคลลธรรมดาที่ต้องเตรียมชำระทุกสิ้นปี ในประเทศไทย สามารถที่จะนำเงินที่จ่ายไปในส่วนนี้ไปใช้ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ฐานภาษีของแต่ละคน แต่หากเป็นผู้ถือครองคอนโดมิเนียมในรูปแบบของบริษัท ก็สามารถนำค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปใช้ลดหย่อนภาษีของนิติบุคคลได้ด้วย
  5. การต่อรองราคา : ผลตอบแทนที่จะได้จากการลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้น คือ ความสามารถในการต่อรอราคา เพราะหากเราซื้อมาในราคาปกติ หรือได้ราคาที่ต่ำกว่าตลาดซื้อขาย เมื่อคุณอยากที่จะทำกำไรจากคอนโดที่ซื้อมา ก็สามารถทำให้เกิดผลตอบแทนได้ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยจากตัวอสังหาริมทรัพย์เอง อาทิ ทำที่ตั้ง , การออกแบบ , แบรนด์ ตลอดจนเทคนิคในการซื้อขายเฉพาะตัวแต่ละบุคคล
  6. การเพิ่มมูลค่าจากการปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ : ยกตัวอย่าง คอนโด ที่มีข้อดีแตกต่างจากการลงทุนในรูปแบบอื่น เพราะคุณสามารถที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่ทรัพย์สินได้ด้วยการตกแต่งเพิ่มเติม อาทิ ปรับแต่งเลย์เอาท์ใหม่ , การเปลี่ยนสีของผนัง , เพิ่มเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน เป็นต้น แน่นอนว่าการลงทุนในส่วนนี้คุณต้องศึกษาความต้องการของตลาดเสียก่อน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี อย่าตามกระแสจนมากเกิน เพราะหากทำตามกันเยอะ ผลสุดท้ายก็คือ การปั่นขึ้นของราคา อาจได้รับสิ่งที่ตามมาคือ ฟองสบู่แตก

นี่ก็เป็น 6 ข้อดีคร่าวๆ จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดมิเนียมที่ Sanook! Home นำมาฝาก ถึงแม้ว่าเราจะเลือกลงทุนในคอนโดสุขุมวิท คอนโดสาทร หรือคอนโดทองหล่อ แต่ถ้าหากว่ามีการบริหารจัดการที่ไม่ดี ศึกษาข้อมูลไม่ละเอียดรอบคอบ ยังไงก็จะไม่ได้ผลตอบแทนที่ควรจะได้รับอยู่ดี ฉะนั้น เราจึงควรเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างถูกวิธี เชื่อได้ว่าย่อมส่งผลดี ทำให้มีรายได้จากการลงทุนด้วยวิธีนี้อย่างยั่งยืนและมั่นคงแน่นอน

คราวนี้ก็ได้รู้เทคนิคดีๆ ที่ Sanook! Home นำมาฝากกัน หวังว่าข้อมูลต่างๆ จะช่วยให้การลงทุนในคอนโดสุขุมวิทและคอนโดสาทรมีแต่กำไรและก็กำไร อย่าลืมว่าจะลงทุนที่ไหนต้องมองให้รอบด้าน พิจารณาให้รอบคอบก่อนตั้งสินใจซื้อ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมที่จะตรวจสอบข้อมูลให้มากพอ เพียงเท่านี้การลงในทุนในรูปแบบคอนโดมิเนียมก็เป็นอะไรที่เวิร์คแบบสุดๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook