11 เทคนิคเลือกสีทาภายในให้เหมาะกับห้องและพื้นผิว
สีที่ใช้ทาผนังภายในบ้านของเราจะแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ ได้ 4 กลุ่ม คือ สีเรียบด้าน สีเปลือกไข่หรือ eggshell สีกึ่งมัน และสีมันวาว แต่ละชนิดก็จะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป นอกจากนั้นยังเหมาะกับแต่ละพื้นที่ และเทคนิคในการเลือกการทาที่แตกต่างกันไปด้วย เทคนิคต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณเลือกสีทาภายในที่เหมาะกับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีไอเดียในการเลือกทา ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายและลงตัวมากยิ่งขึ้น
1.สีเรียบด้าน : สีเรียบ มักจะเป็นสีด้าน ให้ความมันเงาน้อยที่สุด ไม่เช่นนั้นจะทำให้สะท้อนแสง สีชนิดนี้ เหมาะสำหรับการปิดบัง หรือซ่อนความไม่สมบูรณ์แบบต่าง ๆ บนผนัง เช่น การมีรอยแตก รอยบุบ แต่ก็เป็นสีเปื้อนง่าย และทำความสะอาดได้ยาก จึงไม่เหมาะกับการนำมาใช้ในพื้นที่ ที่มีการใช้งานมาก อย่างเช่นห้องครัวและห้องน้ำ
2.สีที่มีความขรุขระแบบเปลือกไข่ : การใช้สีแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย สีแบบเปลือกไข่ หรือ eggshell นี้ จะมีความมันน้อยกว่าสีด้าน เป็นสีที่เปื้อนง่าย แต่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าสีเรียบด้าน หากมีรอยเลอะ แค่ใช้ผ้าเปียกเช็ดคราบก็พอจะหลุดออกไปได้แล้ว สีชนิดนิ้ นิยมใช้ในห้องนอน ห้องครัว ห้องสำหรับเด็ก และในที่ที่มีคนเยอะ มีการใช้งานเยอะ
3.สีกึ่งมันเงา : เป็นสีที่ใช้งานยากกว่าสีทั้งสองประเภทข้างต้น เป็นสีที่มีความสะท้อนแสงเมื่อแห้ง ดังนั้น หากผนังห้องมีตำหนิ หรือมีความไม่สมบูรณ์แบบ จะเห็นตำหนินั้นเด่นชัดมาก แต่ก็เป็นสีที่ทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้ทาในห้องนอนเด็ก หรือในห้องน้ำ
4.สีมันเงา : สีประเภทนี้ มักจะใช้ทาขอบประตู หน้าต่าง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ ด้วยความที่สีเป็นมันเงา ทำให้น่ามอง และยังทำความสะอาดได้ง่าย
5.สีน้ำมันและสีลาเท็กซ์ : สำหรับงานตกแต่งภายใน สีลาเท็กซ์ หรือสีสูตรน้ำเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเป็นสีที่แห้งเร็วใช้ง่าย ทำความสะอาดง่าย ไม่เลอะเทอะ และมีกลิ่นไม่แรง แต่สีน้ำมันนั้น จะแห้งช้ากว่า และมีกลิ่นแรง แต่สีน้ำมัน จะให้พื้นผิวที่เรียบกว่า ทนต่อการขูดขีด รอยนิ้วมือ และไม่ค่อยจะเลอะคราบสกปรก สีน้ำมันจะติดแน่น เหมาะสำหรับการใช้ทาเฟอร์นิเจอร์ พื้นผิวที่หยาบ รวมทั้งพื้นด้วย
6.เมื่อไหร่ที่ต้องทาสีรองพื้น : เพื่อให้ได้ผลที่ดี ควรทาสีรองพื้นก่อนเสมอไม่ว่าจะเลือกทาสีสูตรน้ำ หรือสีน้ำมันก็ตาม แต่ต้องเลือกสีรองพื้นให้เหมาะกับสูตรของสีที่จะใช้ทาด้วย
7.ให้นึกถึงการใช้งานในระยะยาวด้วย : ในการเลือกสี ควรคำนึงถึงการใช้งานในระยะยาวด้วย เพราะเทรนด์ของสีมีความเปลี่ยนแปลงเสมอ การเลือกสีโทนกลาง ๆ เช่น สีเทา เป็นสีอันเดอร์โทน แล้วค่อยเลือกสีที่เป็นเทรนด์มาใช้ควบคู่ เช่น ฟ้าเทา ม่วงเทา หรือเขียวเทา เป็นต้น
8.เคล็บลับการใช้สีขาวล้วน : สีขาวล้วนสามารถใช้ได้ แต่เพื่อให้ดูน่าในใจ อาจจะใช้เทคนิคการตัดขอบ การใช้เพดาน หรือเคลือบผนัง ด้วยสีที่กึ่งมันเงา
9.การใช้สีตัดกัน : สามารถเพิ่มความน่าสนใจ และทำให้สีขาวเด่นได้ ด้วยการใช้สีตัดกัน เช่น สีขาว กับสีถ่าน
10.สีชอล์ค : สีชอล์คนั้น สามารถทำให้ได้ความรู้สึกทั้งเป็นของเก่า และวินเทจ ได้เป็นอย่างดี
11.สีเข้มก็ใช้กับพื้นที่ขนาดเล็กได้ : ส่วนใหญ่แล้ว เราจะใช้สีขาวกับห้องที่มีขนาดเล็กเพื่อทำให้ดูพื้นที่กว้างขึ้น แต่สีเข้มก็สามารถใช้ได้ด้วยเช่นกัน อย่างเช่นสีเนวี บลู ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด