ขนาดเรื่องปูพื้นยังต้องคิด ปูพื้นบ้านอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ย

สำหรับบางคนที่เชื่อในศาสตร์ด้านนี้ เรื่องฮวงจุ้ยจึงเป็นอีกเรื่องที่ควรคำนึงถึง และแทบจะทุกจุดในบ้านที่เราสามารถนำหลักฮวงจุ้ยเข้าไปปรับใช้ ไม่เว้นแม้กระทั่งพื้นบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และมักจะถูกมองข้าม เนื่องจากเจ้าของบ้านมักไปใส่ใจกับเรื่องตำแหน่งต่างๆ ในบ้านมากกว่า แต่ใครจะรู้ว่าการปูพื้นบ้านตามหลักฮวงจุ้ยก็มีผลต่อพลังต่างๆ ในบ้าน

บ้านที่เป็นพื้นไม้การปูพื้นมีรูปแบบการวางแนวหลักๆ อยู่ 2 แบบคือ วางตามแนวยาวและแนวขวาง หรือหากไม่ชอบสองแบบนี้ อาจเลือกปูพื้นตามแนวทแยงแบบ 45 องศา ซึ่งอาจต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลให้ ตามแนวทางฮวงจุ้ย รูปแบบการวางแนวของไม้เป็นตัวกำหนดทิศทางการไหลของพลัง ดังนั้นรูปแบบพื้นที่ไม่ควรปูคือ การปูพื้นแนวขวางบนทางเดินยาวและแคบที่ปลายทางอีกด้านหนึ่งเป็นหน้าต่าง หรือห้องอีกห้องหนึ่ง หรือให้เข้าใจง่ายๆ คือหากประตูห้องของคุณเปิดออกไปแล้วเป็นทางเดินแคบๆ ปลายทางเป็นหน้าต่างหรือประตู ให้หลีกเลี่ยงการปูพื้นเป็นแนวขวางในบริเวณนั้น

หลักการนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับห้องครัว หรือออฟฟิศที่มีช่องแคบๆ ได้ด้วย เพราะการปูพื้นแบบนี้จะทำให้พลังชี่รั่วไหลออกไปทางหน้าต่าง ทำให้บ้านขาดแคลนพลังงานดีๆ ที่ควรมีไป เพราะบ้านก็ไม่ต่างจากคนที่ต้องการอาหาร ส่วนบ้านนั้นต้องการพลังชี่

ดังนั้นก่อนจะปูพื้น สิ่งที่ต้องลองถามตัวเองก่อนคือคิดว่าพื้นรูปแบบนั้นๆ จะนำพลังงานไปสู่ที่ใด ตรวจสอบง่ายๆ จากหลักการออกแบบภายในขั้นพื้นฐาน เช่นการทำให้ห้องแคบๆ ดูกว้างขึ้นด้วยการปูพื้นไม้แนวขวาง หรือการรักษาพลังงานภายในห้องขนาดใหญ่ไว้ด้วยการปูพื้นเป็นลายแบบสี่เหลี่ยม ซึ่งสี่เหลี่ยมเป็นรูปทรงประจำธาตุดิน ที่มีความหนักแน่นมั่นคงเป็นพื้นฐาน ดังนั้นรูปร่างสี่เหลี่ยมจึงเหมาะที่จะนำมาใช้กับทุกๆ วัสดุ โดยเฉพาะส่วนพื้นที่ที่เป็นทางสัญจรหรือห้องครัว เพราะช่วยสร้างให้เกิดความสงบเยือกเย็นลงได้

สำหรับคนที่ต้องการรูปร่างที่พิเศษไปกว่านี้ เช่น รูปข้าวหลามตัด สามเหลี่ยม หรือรูปดาว ให้ระมัดระวังเรื่องความสอดคล้องของพลังและความเข้ากันได้กับพื้นที่ เช่น คุณอยากได้พื้นลายข้าวหลามตัด แต่พื้นที่ส่วนที่จะปูนั้นเป็นห้องครัวฝั่งตะวันออก คุณอาจจะควรคิดดูใหม่ เพราะลายข้าวหลามตัดเป็นรูปทรงประจำธาตุไฟ ไม่สอดคล้องกับฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นของธาตุไม้