“Organika House” ความฝัน หัวใจ ในเรือนกระจก และบันไดวน ของ “ศรีริต้า เจนเซ่น”
ที่บริเวณชั้น 5 และชั้น 6 ของอาคารในโครงการพิมาน 49 ถนนสุขุมวิท ซอย 49 ถูกออกแบบให้เป็นเรือนกระจก รูปแบบงานออกแบบอาคารที่ศรีริต้า เจนเซ่น นางแบบและนักแสดงสาวลุคเจ้าหญิงหลงใหลมาตั้งแต่วัยเด็ก เหนือไปกว่านั้นเรือนกระจกแห่งนี้คือหัวใจและจิตวิญญาณทั้งหมดทั้งมวลของเธอ เพราะมันคือที่ตั้งของ “Organika House” สปาและคาเฟ่สไตล์ออร์แกนิค บริการอาหาร ขนม เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์สปา สกินแคร์ก็เป็นออร์แกนิคไอเท็ม ปลอดสารพิษสูงสุดถึง 100 เปอร์เซ็นต์
ริต้าสร้างแบรนด์ Organika นี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนเพราะความหลงใหลในพลังของกลิ่นและผลิตภัณฑ์สปาต่างๆ ที่ช่วยบำบัด สร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเอง เมื่อเห็นว่าแท้จริงแล้วคนไทยมีความถนัดเรื่องสปา รวมทั้งตลาดทั่วโลกให้ความสนใจผลิตภัณฑ์สปาของเมืองไทย เธอจึงใช้เวลาถึง 3 ปี ในการศึกษาหาข้อมูลเพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างจริงจัง และมองว่ามันคือการผลิตแบรนด์เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย
ที่ว่า Organika คือหัวใจและจิตวิญญาณของศรีริต้านั้นคงต้องเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบร้านให้เป็นเรือนกระจก เพราะเรือนกระจกเป็นสถาปัตยกรรมที่เจ้าตัวชื่นชอบและฝังใจมาตั้งแต่วัยเด็ก ทุกครั้งเมื่อเธอมีโอกาสเข้าไปในเรือนกระจกมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างวิทยาศาสตร์กับธรรมชาติ ก่อนจะลงตัวให้งานดีไซน์ออกมาเป็นแบบนี้เธอผ่านตาภาพเรือนกระจกต่างๆ มาแล้วหลากหลายแบบ
“ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เรือนกระจกเป็นสถานที่เก็บพันธุ์พืช เวลาไปสงคราม หรือเดินเรือ เราจะเก็บพันธุ์พืชไว้ที่นี่ มันเป็นเหมือนการทดลองวิจัย และเป็นการผสมผสานที่ลงตัว สะท้อนถึงสิ่งที่เราเองก็ให้ความสนใจนั่นคือการค้นคว้าอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ คงไม่มีเรือนกระจกที่ไหนเหมือนที่นี่ มีโดมอยู่ตรงกลาง มีต้นไม้จำลอง และบันไดวนที่ริต้าชอบพอๆ กับเรือนกระจก”
นอกจากเรื่องการออกแบบอาคารแล้ว พันธุ์พืชภายในเรือนกระจกตามหลักความจริงแล้วก็เป็นพันธุ์พืชที่ปลอดสารพิษ และปราศจากการรบกวนของแมลง จึงสะท้อนถึงความเป็น Organika แบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคปลอดสารพิษ และเพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างสอดคล้องกัน ดีไซน์เรือนกระจกยังถูกถ่ายทอดเป็นภาพวาดลงบนแพคเกจจิ้งทุกชิ้นของแบรนด์
อีกสิ่งหนึ่งที่เมื่อทุกคนไปถึง Organika แล้วต้องพูดถึงเสมอนั่นคือต้นไม้จำลองขนาดใหญ่ภายในร้าน ที่เห็นครั้งแรกแล้วรู้สึกเหมือนเป็นต้นไม้จริง ทั้งๆ ที่มันคือการนำต้นไม้จริงไปอบแห้งก่อนจะนำใบไม้เทียมเสียบตกแต่งจนมีลักษณะคล้ายต้นไม้จริงขนาดใหญ่ สีเขียวของใบไม้เทียมกับโทนสีขาวจึงเป็นโทนสีหลักของร้าน ซึ่งก็เป็น 2 เฉดสีที่เจ้าของร้านพิถีพิถันเลือกด้วยเหตุผลที่ว่า สีขาวกับสีเขียวทำให้ดวงตารู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด
เหนือไปกว่านั้นเจ้าของคนสวยเก่งอย่างศรีริต้า เจนเซ่น ยังบรรจงใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่างแม้กระทั่งโลโก้ของแบรนด์ที่เลือกใช้ดอกแมกโนเลียเพราะในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีการนำสเต็มเซลล์จากดอกแมกโนเลียดอกไม้ที่วิวัฒนาการขึ้นมาก่อนกำเนิดผึ้งมาเป็นส่วนผสม จึงไม่ต้องแปลกใจเมื่อเพดานชั้นลอยของบริเวณชั้น 6 จะประดับตกแต่งด้วยเถาดอกแมกโนเลียเทียมสีขาวบริสุทธิ์ แผ่นเรซินประดับตามราวบันไดวนศรีริต้าก็เป็นคนดีไซน์ประดับใบไม้ดอกไม้แห้งเองกับมือ
ส่วนที่บริเวณชั้น 5 ซึ่งให้บริการสปานั้น ความคิดหลักในการออกแบบและการเลือกสีก็สอดคล้องเป็นเรื่องราวเดียวกันกับงานดีไซน์ของเรือนกระจกชั้น 6 เมื่อภายในเรือนกระจกมีลำต้น กิ่งไม้ ใบไม้แตกกิ่งก้านสาขาสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ที่มาลิ้มรสชาติอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ชั้น 5 จึงเป็นเหมือนรากของต้นไม้ ดังนั้นโทนสีน้ำตาลจึงเป็นโทนสีที่ศรีริต้ากำหนดไว้
“ริต้าคิดให้ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด สปาคือส่วนที่อยู่ลึกลงไปอีก มันคือ Tree of life ที่สปามันคือรากของต้นไม้ ก่อนที่จะขึ้นมาเป็นยอดมันก็ต้องมีรากก่อน ภายในแต่ละห้องจะมีประตูลับ ที่เราออกแบบให้เป็นเหมือนตู้เสื้อผ้าทั้งๆ ที่จริงๆ มันคือห้องนวด”
ตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม ถ้าคุณอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เมื่อเปิดม่านสีขาวจากเรือนกระจกแห่งนี้ ไม่ว่าคุณจะนั่งทานอาหารอยู่ที่ชั้น 6 หรือกำลังสัมผัสการเดินทางของกลิ่นบำบัดที่ชั้น 5 คุณก็ยังจะสามารถมองผ่านกระจกออกไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เห็นวิวใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท Organika จึงเป็นแบรนด์ที่ให้บริการความผ่อนคลายแบบไร้สารพิษผ่านการนวด ผลิตภัณฑ์สปา สกินแคร์ อาหารกาย รวมไปถึงอาหารใจได้อย่างครบวงจร
อัลบั้มภาพ 48 ภาพ