รีโนเวทห้องน้ำงบไม่เกิน 20000 บาท
ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งห้องที่เราใช้งานในแต่ละวันบ่อยครั้ง เมื่อใช้ไปนานๆ คราบน้ำ คราบสบู่ ยาแนวกระเบื้อง หรือแม้แต่การชำรุดเสียหายต่างๆ ย่อมเกิดขึ้น และการรีโนเวทน่าจะเป็นอีกทางออกหนึ่งที่น่าสนใจ อย่างที่คุณแม่น้องชมพู จากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอมมาแนะนำ แม้จะเป็นห้องน้ำในบ้านเช่าแต่ก็สามารถยึดไว้เป็นตัวอย่างได้
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอเกริ่นเลยว่าห้องน้ำที่รีโนเวทครั้งนี้ไม่ใช่ห้องน้ำบ้านตัวเอง แต่เป็นบ้านเช่าค่ะแต่อยู่มาหลายปีแล้ว และก็ยังไม่คิดจะสร้างบ้านของตัวเองภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ เลยคิดว่าจะทำห้องน้ำใหม่ที่บ้านหลังนี้ไปก่อน
เหตุผลที่ทำคือ
- เมื่อก่อนอาบน้ำชั้น 2 แต่ห้องน้ำรั่ว และฝ้าพัง ทำให้หนูลงมาวิ่งเพ่นพ่านในห้องน้ำบ่อยๆ
- หลังจากนั้นใช้ห้องน้ำชั้นล่างมาตลอด ทั้งเป็นห้องน้ำสำหรับลูกค้า และใช้อาบน้ำ เสื้อผ้าอยู่ห้องนอนชั้น 2 จะอาบน้ำทีต้องหอบลงมาชั้นล่าง พออาบเสร็จก็เอาเสื้อผ้าใส่แล้วขึ้นไปเก็บชั้นบน สามีขี้เกียจก็โยนๆ แถวหน้าห้องน้ำ วางบนลังสินค้าบ้าง เกะกะไปหมด
- บ้านเช่าใช้น้ำบาดาลทำให้กระเบื้องมีคราบหินปูน พอใช้น้ำยาแรงๆ ยาแนวก็ร่อน พื้นกระเบื้องก็ลอก
ในที่สุดก็ตัดสินใจอ้อนสามีขอรีโนเวทห้องน้ำชั้นบนค่ะ โดยให้เหตุผลประกอบว่า เราต้องทำมาหากินที่นี่อีกหลายปี
สามีก็อนุมัติโดยให้เหตุผลกลับมาว่า มีห้องน้ำดีๆ เผื่อเธอจะอาบน้ำบ่อยขึ้น ฮ่าาา
และนี่คือสภาพห้องก่อนรีโนเวทค่ะ
มุมซ้าย (อ่างน้ำ)
มุมขวา (โถส้วม)
บริเวณอ่างน้ำ เวลามีน้ำขังมากๆ น้ำหาทางออกไม่ได้ก็รั่วลงชั้นล่างค่ะ
คนเช่าคนเก่าเคยพยายามเอาปูนโบกไปแล้วรอบนึงแต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้
(อันนี้ช่างเค้าบอกมา เพราะตอนรื้อกระเบื้องเห็นเป็นรอยก่อปูนทับสองชั้น)
วันที่ 1 (11 ม.ค. 61)
ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ ทุบๆๆๆ อย่างเดียว ทุบอ่างทุกอ่าง เอากระเบื้องผนังกับพื้นออก อย่าให้เหลือเค้าโครงเดิม เอาให้เละ
ปล่อยให้ช่างเค้าทุบไป เราก็ออกไปซื้อกระเบื้องพื้น, กระเบื้องผนัง, ยาแนว, ปูนที่ตลาดนัดกระเบื้องแห่งหนึ่ง
ซึ่งตอนแรกอยากได้ห้องน้ำประมาณนี้...
กระเบื้องพื้นลายไม้ (ทำความสะอาดง่าย)
กระเบื้องผนังหลังชักโครกเป็นลายอิฐ (สามีบอกอยากมีมุมไว้เซลฟี่อวดเพื่อนตอนปลดทุกข์)
กระเบื้องผนังส่วนใหญ่เน้นเป็นสีขาวดูสะอาดตา
พอไปซื้อกระเบื้องได้พื้นลายไม้แบบนี้ค่ะ
1.เปื้อนเหมือนไม่เปื้อน
2.เปียกเหมือนไม่เปียก
3.พื้นผิวหยาบ
ส่วนกระเบื้องผนังลายอิฐ ดูๆ แล้วส่งรูปให้สามีเลือกตามนี้
สามีบอกว่าไม่โดนค่ะ ขอเป็นกระเบื้องลายอิฐที่ HP ใกล้บ้านแล้วกัน
ดูราคาแล้วกล่องละ 289.- เรารีบเอาตลับเมตรไปคำนวณเลยค่ะว่าผนังฝั่งนั้นต้องใช้กี่กล่อง
ได้ 2 ตรม.กว่าๆ ใช้ประมาณ 3 กล่อง อ่ะๆ กัดฟันซื้อให้เธอมุมนึงก็แล้วกัน
และสุดท้าย กระเบื้องผนังสีขาว ในส่วนนี้ต้องใช้จำนวนหลายกล่องหน่อย
ลายที่ชอบก็แพง เลยถามพนักงานว่ามีถูกๆไหม เขาบอกว่ามีเกรด C แต่แผ่นมันไม่ค่อยเสมอกัน ปูยาก
ก็เลยคิดว่าความปูยากมันไม่ใช่หน้าที่ของเรา มันเป็นภาระของช่าง เอาก็เอาค่ะ
เพราะเราต้องคุมโทน เอ้ย! คุมงบให้ไม่เกิน 2 หมื่น
แต่กระเบื้องเกรด C มันมีลายให้เลือกไม่เยอะ จะเอาสีขาว พนักงานก็บอกมันจะเปื้อนนะพี่
งั้นคนไม่ค่อยรักษาความสะอาดอย่างเราก็จัดสีเทามาเลยค่ะ
พนักงานย้ำอีกว่า "อย่าไปคิดไรมากพี่ บ้านเช่า ทำๆไปเหอะ ไม่ต้องแพงมากหรอก แค่เกรด C ก็พอ"
ได้ลายนี้มาค่ะ
วันที่ 2 (12 ม.ค. 61)
วันนี้ครึ่งเช้าก็ยังแซะกระเบื้องและซากอารยธรรมเก่าๆ ออกให้หมดค่ะ พอตอนเที่ยงกระเบื้องที่สั่งไว้ก็มาส่งพอดี
ช่างออกไปกินข้าว ตอนบ่ายก็กลับมาปูกระเบื้องค่ะ
ให้แฟนเฝ้าหน้าร้าน+เฝ้าหน้างานไป ส่วนเราออกไปซื้อสุขภัณฑ์และกระเบื้องเพิ่มเติมที่ HP ใกล้บ้าน
(ใกล้มาก ขับไปเกือบร้อยกิโลเอ๊งงงง นี่ใกล้สุดแล้ว)
ระหว่างเลือกของแฟนก็ส่งรูปมาให้ว่าช่างเริ่มปูกระเบื้องผนังแล้ว
และนี่คือผนังอิฐที่สามีอยากได้นักหนาค่ะ
สั่งกระเบื้องผนังให้สามีเสร็จ เราก็ไปเลือกสุขภัณฑ์ต่อ
วิธีคุมงบประมาณไม่ให้บานปลายคือ...
1.ลิสต์รายการว่าต้องซื้ออะไรบ้าง ซึ่งใครๆ ก็คงทำอยู่แล้ว
2. ใส่ราคาไปเลยค่ะว่าตั้งงบไว้ไม่เกินเท่าไรยกตัวอย่างคร่าวๆ เช่น สุขภัณฑ ์ ไม่เกิน 3,000 /อ่างล้างหน้าไม่เกิน 1,000 / ฝักบัว ไม่เกิน 500ใส่ราคาไปเลยค่ะ ใส่ไปให้ครบทุกตัว ท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง ฝาปิดท่อ สายฉีดชำระเสร็จแล้วรวมราคาเลยว่าถ้าซื้อทั้งหมดนี่ ราคาจะอยู่ในงบเท่าไร
3. พอไปถึงสถานที่ซื้อ เลือกทีละรายการ ใจเย็นๆ และใจแข็งเข้าไว้ค่ะ เราตั้งงบไว้เท่าไร ห้ามเกินเด็ดขาดถ้าตั้งไว้ 300 ซื้อไป 299 ถือว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าซื้อในราคาแค่ 250 เราชนะแล้วค่ะ
ดิฉันตั้งไว้ทั้งหมด 9,000 บาท พอซื้อจริงๆ หมดแค่ 8,2xx บาท เหลือเงิน เจ็ดร้อยกว่าบาท กลับบ้าน ชวนสามีฟาดชาบูไปเลยค่ะ
ขออนุญาตแทรก ในส่วนของฝักบัวนั้น ตอนแรกอยากได้แบบเหลี่ยม ส่งรูปให้สามีดู เธอๆ ชั้นซื้อแบบนี้นะ
สามีบอกเอาแบบกลมค่ะ แบบเหลี่ยมมันอาบไม่สะใจ ค่ะ รีบเปลี่ยนใจแทบไม่ทัน
วันที่ 3
(เดี๋ยวมาต่อนะคะ)
วันที่ 3 (13 ม.ค. 61)
ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ ปูกระเบื้องผนังอย่างเดียวก็เย็นแล้ว ได้ผนังครบสี่ด้าน เดี๋ยววันที่ 4 มาต่อกระเบื้องพื้นค่ะ
วันที่ 4 (14 ม.ค. 61)
ตอนเช้าปูกระเบื้องพื้นค่ะ แอบเห็นด้านหลังของช่างนิดหน่อย
ตอนบ่ายเริ่มติดตั้งสุขภัณฑ์ค่ะ เพราะยาแนวที่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อวาน (คงจะ) เริ่มแห้งแล้ว
ขออนุญาตลงรูปรัวๆ เลยแล้วกันนะคะ
โถส้วม
อ่างล้างหน้า+กระจก
วาล์วฝักบัว
ชั้นวางของเข้ามุม
อ่างล้างหน้า
ที่ใส่กระดาษทิชชู
ที่แขวนผ้า
(ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะคะ เหลือทำฝ้า+ไฟ+ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น และเก็บรายละเอียดค่ะ)
วันที่ 5
วันนี้ช่างมาเก็บงานและติดตั้งประตูให้ค่ะ ตอนแรกว่าจะซื้อบานใหม่ แต่ขี้เกียจออกไปข้างนอกแล้ว เลยใช้ประตูเดิมค่ะ
ทำความสะอาด+เปลี่ยนลูกบิด+เปลี่ยนบานพับ
แต่แอบเซ็งนิดนึงที่ช่างทำห้องน้ำบอกว่าเรียนฉาบปูนกับปูกระเบื้องอย่างเดียว ไม่ได้เรียนทำประตูมา
เลยต้องจ้างช่างอีกคนมาติดประตูให้ เสียค่าแรงเพิ่ม 500.-
ตอนสายๆ ช่างทำไฟก็มาทำไฟในห้องน้ำ+เดินสายเครื่องทำน้ำอุ่นใหม่ เพราะของเก่าหนูกินพรุนหมดแล้ว
เครื่องทำน้ำอุ่นอาจจะเหลืองๆ หน่อยตามกาลเวลาค่ะ แต่ใช้งานได้ดีเหมือนเดิม อะไรประหยัดได้ก็ประหยัดไปก่อน งบจะเกินแล้ว!!!
เปลี่ยนฝ้าใหม่ด้วยค่ะ ตอนแรกจะทำแผ่นเรียบ แต่กลัวงบจะไม่หยุดอยู่ที่สองหมื่น เลยพอแค่นี้ค่ะ
ความสวยงามได้ประมาณนี้ค่ะ
ติดไฟ 1 ดวงสำหรับห้องน้ำเล็กๆ ก็สว่างมากแล้วค่ะ
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ไม่รวมค่าน้ำมันในการเดินทางไปซื้อของนะคะ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดูค่ะ หวังว่าจะเป็นแนวทางหรือเป็นตัวอย่างสำหรับคนที่กำลังจะสร้างบ้าน/รีโนเวทบ้านได้บ้างนะคะ