เพื่อหน้าสวย ไร้สิว
ผิวสวย หน้าใส ไรสิวเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของ แต่การที่จะมีผิวหน้าที่สวยเนียนเรียบนั้น ต้องมีเวลาในการดูแลบำรุงรักษามากทีเดียว หากคุณไม่มีเวลาพอหรือดูแลไม่ดี เผลอแป๊บเดียวสิวก็จะผุดขึ้นมายังกะลาวาภูเขาไฟตอนกำลังเดือด หากมันบึ้มเมื่อไหร่ก็จะทิ้งบ่อทิ้งหลุมไว้ให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก
เมื่อตอนที่หมอเป็นนักเรียนมัธยมนั้น มีเพื่อนคนหนึ่งที่หน้าของเธอเต็มไปด้วยสิว...สิว...และสิว เป็นที่ล้อเลียนของบรรดาเพื่อนชาย เพื่อนที่กวนโอ๊ยหน่อยก็จะบอกเธอว่า สาวใดไร้สิวฝ้า เปรียบเสมือนท้องฟ้าไร้ดวงดาว ดูสิว่ามันน่าเจ็บใจขนาดไหน ฉะนั้นอย่าให้ใครมาพูดแบบนี้กับคุณได้นะคะ
เพื่อให้ใบหน้าไร้สิว ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สิว ก่อนนะคะ
สิว สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศและทุกวัย โดยเฉพาะ เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ ส่วนใหญ่มักจะพบสิวขึ้นบนใบหน้า แต่ในบางคนอาจพบได้ที่บริเวณหน้าอก หลัง หรือบริเวณอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีสิวเลยสักเม็ดน่าจะดีที่สุด คุณเห็นด้วยกับหมอมั้ยคะ
สิวที่เกิดขึ้นแบ่งออกเป็น 2 ชนิดค่ะ
1. สิวไม่อักเสบ หรือ สิวอุดตัน มีลักษณะเป็นตุ่มหัวสีดำเรียกว่า สิวหัวดำ หรือ สิวหัวเปิด แต่ถ้ามองตรงกลางหัวสิวเป็น ลีขาว จะเรียก สิวหัวขาว หรือ ลิวหัวปิด
2. สิวอักเสบ หรือ สิวหัวช้าง มีลักษณะเป็นตุ่มแดง หรือตุ่มหนอง อาจมีอาการเจ็บหรือมีไข้ได้ ถ้าเกิดการอักเสบที่รุนแรงมักจะเป็นสิวที่เม็ดโตกว่าสิวอุดตัน เมือเป็นมาก ๆ สิวอักเสบจะทิ้งรอยเป็น ทำให้ผิวหน้ามีรอยบุ๋มหรือรอยขรุขระ
ส่วนสาเหตุการเกิดสิวนั้นมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ต้องตกใจนะคะ สิวเป็นเรื่องธรรมชาติ รักษาหายได้ค่ะ
1. เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นฮอร์โมนเพศจะมีระดับสูงขึ้น ซึ่งจะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และสร้างไขมันขึ้นมา จึงมีโอกาสอุดตันและอักเสบตามมา นอกจากนี้ในช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนเพศก็อาจเกิดสิวได้เช่นกัน เช่น ช่วงที่มีประจำเดือนหรือช่วงตั้งครรภ์
2. เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย P.ACNE ซึ่งเมื่อมีการเพิ่มจำนวนขึ้นก็จะทำให้เกิดสิวอักเสบได้
3. เกิดจากภาวะที่จิตใจและอารมณ์เปลี่ยนแปไปหรือมีความเครียด ตลอดจนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุอย่างหนึ่ง ที่ทำให้หลาย ๆ คนเป็นสิว ฉะนั้นพยายามทำใจให้สงบสยบสิวนะคะ
4. เกิดจากการล้างหน้ามากเกินไปหรือใช้สบู่ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดการอุดตันของรูขุมขน หรือแม้แต่การใช้เครื่องสำอางบางชนิดซึ่งมีสารก่อให้เกิดสิวปะปนอยู่ ก็ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน คุณจึงควรเลือกที่จะใช้เครื่องสำอางด้วยนะคะ
5. เกิดจากการรับประทานยาบางชนิด ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ หรือสารกระตุ้นบางชนิด หากคุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาพวกนี้ก็อย่าไปแตะต้องนะคะ ไม่งั้นสิวจะมาเยือนแน่นอน
6. เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น พบว่าการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภทเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว เนื่องจากการมีฝุ่นละอองมาก ดังนั้นควรทำความละอาดใบหน้าหลังเลิกงาน หากเป็นสิวเรื้อรังตองรีบไปหาหมอนะคะ หากปล่อยไว้นานจะรักษายากและใช้เวลานานค่ะ
เมื่อคุณทราบถึงสาเหตุของการเกิดสิวแล้วหมอก็จะแนะนำแนวทางในการป้องกันและลดโอกาสของการเกิดสิวได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ นะคะ
1. ควรใช้สบู่อ่อนๆ ล้างหน้า วันละ 2 ครั้งแต่ถ้าใบหน้ามันมาก อาจล้างหน้าหรือใช้กระดาษซับมันตอนกลางวันได้
2. เมื่อเป็นสิว ไม่ควรกดหรือบีบสิว เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น นอกจากนั้นอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามมา
3. ควรเลือกใช้เครื่องสำอางชนิดที่ได้มาตรฐาน ผ่านการทดลองแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดสิว
4. ในเรื่องของอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้อย่างปกติ เนื่องจากอาหารไม่ใช่สาเหตุที่ก่อให้เกิดสิว ยกเว้นกรณีที่สังเกตได้ชัดว่า เมื่อรับปรขัทานอาหารชนิดนี้เข้าไปครั้งใดแล้วทำให้เกิดสิวเห่อขึ้นที่ใบหน้าทุกครั้ง ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นเสียนะคะ
5. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี ไม่ควรเครียดง่าย เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้ค่ะ
หลังจากที่สิวหายเป็นปกติแล้ว รอยแผลเป็น อาจเป็นสิ่งที่เกิดตามมาได้อย่างที่คุณไม่ได้คาดคิดมาก่อน เนื่องจากการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้อง หรือเกิดจากการแกะเกา ดังนั้นเมื่อคุณเป็นสิว จึงควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อทำการรักษาและให้คำแนะนำเรื่องการดูแลรักษาใบหน้าอย่างถูกวิธี ?
การรักษาสิวนั้นอาจต้องใช้ยาหลายตัวร่วมกัน ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้วิธีการรักษาตามลักษณะอาการของสิวที่เกิดขึ้น ดังนี้
1. การใช้ยารับประทาน หรือยาทาเฉพาะที่ ซึ่งควรใช้ยาอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่ง
2. ในกรณีที่เป็นสิวอุดตันมาก แพทย์อาจพิจารณาใช้เครื่องมือกดสิว เพื่อช่วยให้หัวสิวหลุดออก การกดหัวสิวต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังเท่านั้น เนื่องจากต้องใช้เทคนิคที่ถูกต้องและเครื่องมือที่สะอาด เพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นหรือการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งอาจลุกลามเป็นแผลติดเชื้อได้
3. ในกรณีที่เป็นสิวหัวใหญ่ หรือสิวอักเสบ และต้องการเห็นผลเร็วในการรักษา แพทย์อาจพิจารณา ให้ฉีดยาลดการอักเสบเข้าที่หัวสิว เพื่อลดการอักเสบและให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น
4. โดยทั่วไปหลังจากเป็นสิว มักเกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็นจากสิว ซึ่งแพทย์จะมีวิธีในการรักษาได้หลาย ๆ วิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะของรอยดำหรือแผลเป็นว่าเหมาะกับวิธีใด
วิธีการรักษาที่มี ได้แก่ การใช้ยาทา การจี้ด้วย TCA, การทำ AHA ทรีตเมนท์ การทำไอออนโต, การฉีดสารคอลลาเจน, การใช้แสงเลเซอร์, การกรอตื้นด้วยคริสตัล เป็นต้น
ไม่ว่าจะใช้การรักษาด้วยวิธีใดก็ตาม เมื่อเกิดสิว คุณควรปรึกษา และรับการรักษาสิวในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังนะคะ
การรักษาสิวมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากเลยนะคะ เพียงคุณปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง สิวที่เคยเป็นปัญหาก็จะไม่มาก่อตัวฝากริ้วรอยไว้บนใบหน้าของคุณ เผยผิวสวยใสไร้สิวได้อย่างมั่นใจ และไม่น้อยหน้าใครเลยค่ะ