8 สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน อาจทำให้สมาชิกในบ้านได้รับอันตราย
แพทย์ฉุกเฉินได้ออกมาเตือนถึงเรื่องของอุบัติเหตุภายในบ้านที่เกิดจากสิ่งของรอบตัวและมักเกิดขึ้นเสมอกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะกับเด็กๆ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย แนะนำว่าไม่ควรมีสิ่งอันตราย 8 อย่างเหล่านี้ไว้ภายในบ้าน
ถ่านกระดุม
เด็กวัยเตาะแตะจะสนใจของที่มีความแวววาวอยู่แล้ว และถ่านกระดุมก็เล็กพอที่จะกลืนลงไปได้ง่าย ทั้งยังมีโอกาสสูงที่จะติดคอ หรือลงไปติดในหลอดอาหาร ไม่เหมือนกับเหรียญที่พอกลืนลงไปแล้ว ยังสามารถถ่ายออกมาพร้อมกับอุจจาระได้ เมื่อเด็กกลืนถ่านกระดุมลงไป กรดจากแบตเตอรี่จะไปทำกัดกร่อนทำลายหลอดอาหารของเด็กๆ ทำให้เลือดออกไม่หยุด อาจทำให้พิการตลอดชีวิต หรือถึงแก่ชีวิตได้
บันไดยืดความสูงได้
ธรรมชาติของเด็กๆ มักจะชอบปีนบ่ายอยู่แล้ว หากคุณพ่อพาดบันไดทิ้งไว้ ลูกอาจปีนขึ้นไปเล่น และตกมาได้รับบาดเจ็บ เมื่อตกจากบันไดสูง เด็กมีโอกาสที่จะได้รับการบาดเจ็บที่ศีรษะ หน้าอกถูกกระแทกอย่างแรง ซี่โครงหัก และส่งผลต่อการหายใจผิดปกติได้ ซึ่งแพทย์ห้องฉุกเฉินเปิดเผยว่า คนไข้ที่มารักษาเนื่องจากตกจากบันไดสูงนั้นอาการค่อนข้างรุนแรงทั้งนั้น
สระว่ายน้ำ
การว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่ดีต่อหัวใจและหลอดเลือดของคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับเด็ก และแม้ว่าการว่ายน้ำจะช่วยให้เราได้ออกกำลังในทุกส่วนของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ แต่มีรายงานที่ทำเอาแพทย์ทั้งหลายต่างตกใจ เนื่องจากพบว่า มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่จมน้ำในสระว่ายน้ำที่บ้านของตัวเองซึ่งการจมน้ำนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเกิดแบบเงียบๆ แม้เพียงชั่วครู่ที่พ่อแม่ละลายสายตาจากลูก
แม้ว่าในเมืองไทยจะไม่ได้มีสระว่ายน้ำในบ้านมากนัก แต่คุณแม่ทราบไหมว่า สถิติเด็กไทยจมน้ำเสียชีวิตในปี 2558 ในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนมีมากถึง 400 ราย ดังนั้นผู้ปกครองควรดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิดไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง รวมทั้งสอนวิธีเอาตัวรอดเมื่อตกน้ำ ด้วยการลอยตัว หรือใช้อุปกรณ์ช่วย เป็นต้น
อาวุธปืน
ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ผู้ใหญ่จะต้องมีปืนไว้ในบ้าน และคุณพ่อคุณแม่เองคงได้เห็นข่าวอยู่บ่อยๆ แล้วว่า ชีวิตนับไม่ถ้วนที่ต้องสูญเสียจากการที่เด็กเอาปืนมาเล่น แม้บางบ้านอาจให้เหตุผลว่า มีปืนไว้เพื่อการป้องกันตัว แต่อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเกิดการสูญเสีย จึงจะเข้าใจว่าปืนนั้นให้ผลร้ายมากกว่าผลดี
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอาจเป็นอาหารสุดโปรดในยามหิวโหยของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อนำชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปเข้าไมโครเวฟ จะเกิดความร้อนที่สามารถลวกผิวหนังอย่างรุนแรงได้ และแพทย์ห้องฉุกเฉินก็มักจะได้รับคนไข้เด็กที่บาดเจ็บจากการถูกน้ำร้อนในชามบะหมี่ลวกเสมอๆ เนื่องจากพ่อแม่ไม่ได้เตือนให้ลูกระวังความร้อนจากชามบะหมี่ที่ออกจากไมโครเวฟ เมื่อเด็กจับชามร้อนๆ ก็ทำให้น้ำและบะหมี่ลวกตัวได้
ยาที่กินเหลือ
ผู้ใหญ่หลายคนไม่ทิ้งยาที่เหลือ เพราะไม่อยากจะต้องไปหาหมออีกรอบหากเกิดอาการแบบเดิม แต่ทราบหรือไม่ว่า ความประมาทของผู้ใหญ่ เป็นตัวการที่ทำให้เด็กกินยาเกินขนาด และต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ ยิ่งหากเด็กกินยาที่ออกฤทธิ์นาน (extended-release pill) เพียงแค่เม็ดเดียว ก็อาจถึงแก่ชีวิตได้
เชือกมู่ลี่
เชือกมู่ลี่หน้าต่างในห้องนอนก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเสียชีวิตได้ โดยมักเกิดกับเด็กวัยเตาะแตะ 16-30 เดือน เพราะเด็กวัยนี้เคลื่อนไหวตลอดเวลา และศีรษะยังมีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักของร่างกาย ดังนั้นเขาจะยังควบคุมกล้ามเนื้อได้ไม่ดีเท่าเด็กโต ทำให้เด็กไม่สามารถที่จะเอาตัวเองออกจากพันธนาการต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะกับเชือกมู่ลี่หน้าต่างที่มักทำให้เด็กเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยๆ
istockistock
เก้าอี้กินข้าวของเด็ก
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการบาดเจ็บที่ศีรษะมักเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเด็ก มากกว่า 50% ของเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปีที่ถูกส่งตัวไปยังห้องฉุกเฉินเป็นเพราะตกจากที่สูง หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บก็คือ เก้าอี้กินข้าวแบบ High Chair ซึ่งเด็กอาจใช้เท้าเตะโต๊ะแล้วทำให้เก้าอี้ล้มหงายหลังได้ ด้วยความสูงแค่ราว 3 ฟุต ก็ทำให้กระโหลกศีรษะแตกร้าวได้แล้ว
ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย