ไม่ใช่จะดีกับทุกสิ่ง เพราะ 5 สิ่งที่ต่อไปนี้ ใช้กับ “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” ไม่ได้

ไม่ใช่จะดีกับทุกสิ่ง เพราะ 5 สิ่งที่ต่อไปนี้ ใช้กับ “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” ไม่ได้

ไม่ใช่จะดีกับทุกสิ่ง เพราะ 5 สิ่งที่ต่อไปนี้ ใช้กับ “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” ไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าคุณไม่เคยรู้เรื่องนี้นับเป็นความผิดพลาด ใครหลายคนอาจคิดว่าถ้าต้องการให้ผ้านุ่มน่าสวมใส่ ควรใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในระหว่างการซักผ้า แต่ใช่ว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มจะดีกับทุกสิ่ง เพราะ 5 สิ่งต่อไปนี้ไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม

istockistock

1.ผ้าเช็ดตัว

ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกรำคาญเท่ากับหลังอาบน้ำแล้วผ้าเช็ดตัวแข็งกระด้าง ไม่ดูดซับน้ำจากผิวหลังอาบน้ำ การใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มเมื่อซักผ้าเช็ดตัวแม้จะทำให้ผ้าเช็ดตัวเรียบน่าใช้ แต่กลับเป็นการลดการทำงานเรื่องการดูดซึมน้ำของผ้าเช็ดตัว  หากต้องการให้ผ้าเช็ดตัวนุ่ม ดูดซับน้ำได้ดีควรใส่น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาลงไประหว่างการซักเล็กน้อย

2.ผ้าบางชนิด

เนื่องจากคุณสมบัติทางเคมีของน้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถสร้างความเสียหายให้กับวัสดุบางอย่าง ดังนั้นหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับผ้าบางประเภทเช่นผ้าไมโครไฟเบอร์ ผ้าเช็ดตัว รวมทั้งชุดกีฬา โพลีเอสเตอร์ รวมไปถึงกางเกงสกินนี่ หรือเลคกิ้ง

istockistock

3.ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก

เพราะเสื้อผ้าสำหรับเด็กส่วนมากทำจากวัสดุทนไฟ และน้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถทำปฏิกิริยาจนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเสื้อผ้า อีกทั้งน้ำยาปรับผ้านุ่มหรือผงซักฟอกยังอาจทำให้เด็กเกิดความระคายเคือง ถ้าจะซักชุดสำหรับเด็กแนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กโดยเฉพาะ

4.ห้ามเทน้ำยาปรับผ้านุ่มบนเสื้อผ้าโดยตรง

น้ำยาปรับผ้านุ่มต่างจากน้ำยาขจัดคราบทั่วไป การนำน้ำยาปรับผ้านุ่มเทลงบนเนื้อผ้าโดยตรงอาจทำให้เกิดคราบบนเนื้อผ้าที่ยากต่อการกำจัดออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำยาปรับผ้านุ่มบนเนื้อผ้า จึงไม่ควรใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มมากจนเกินไป และไม่ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนเนื้อผ้าโดยตรง

istockistock

5.หากต้องการความเป็นธรรมชาติ

จริงๆ แล้วถ้าต้องการให้มีความเป็นธรรมชาติกับเสื้อผ้า ของใช้ ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มมีสารเคมีที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย หรือเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook