“CHAR CO-” ชาร์ โค ของแต่งบ้านที่จะทำให้บ้านคุณเป็นบ้านเอาถ่าน

“CHAR CO-” ชาร์ โค ของแต่งบ้านที่จะทำให้บ้านคุณเป็นบ้านเอาถ่าน

“CHAR CO-” ชาร์ โค ของแต่งบ้านที่จะทำให้บ้านคุณเป็นบ้านเอาถ่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ของตกแต่งบ้านในปัจจุบันไม่เพียงวางตั้งเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่กลับเป็นของแต่งบ้านที่แฝงเรื่องราวน่าสนใจเอาไว้มากมาย อย่างแบรนด์ CHAR CO- (ชาร์ โค) ของตกแต่งบ้านที่เกิดจาก 3 หนุ่มนักออกแบบนายธีรศักดิ์ ลิ้มทัตธนกุล,นายนภดล สังวาลเพ็ชร และนายวรภัทร์ เมืองรวมญาติ ช่วยกันคิดต่อยอดนำ “ถ่าน” วัสดุใกล้ตัว ที่กำลังจะเลือนหายไป ใส่ไอเดียเปลี่ยนถ่านให้กลายเป็นของแต่งบ้านที่ได้ทั้งเรื่องดีไซน์ และฟังก์ชั่นเฉพาะตัว

จุดเริ่มต้นของแบรนด์นั้นเกิดจากการที่เหล่าดีไซน์เนอร์มองเห็นการใช้ถ่านในปัจจุบันลดลง แต่ก็ยังคงมีชุมชนการเผาถ่านเป็นอาชีพที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนาน จึงคิดร่วมกันว่าหากสามารถนำถ่านกลับมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุและภูมิปัญญาได้

เมื่อเป็นเช่นนั้นด้วยคุณสมบัติเฉพาะของถ่านที่ช่วยดูดกลิ่น และความชื้น เมื่อมาผ่านการออกแบบ ถ่านจึงกลายเป็นของแต่งบ้านที่เข้ากับยุคสมัยใหม่ไปพร้อมกับประโยชน์เฉพาะตัวของถ่านที่มีอยู่แล้วแต่ดั้งเดิมนั่นก็คือเรื่องของการดูดกลิ่น ส่วนการต่อยอดเรื่องการออกแบบนั้นทางแบรนด์ใช้ลักษณะถ่านท่อนมาทำ ถ่านมีลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเพราะมันเป็นรอยแตกซึ่งเป็นลวดลายที่เกิดจากตัวของมันเอง ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจึงมีเพียงแบบเดียว และชิ้นเดียวเหมือนลิมิเต็ด อิดิชั่น

ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีหลายหลายทั้งแจกัน นาฬิกา ที่รองแก้ว และโคมไฟ แต่ในอนาคตจะมีการพัฒนาและตกแต่งผลิตภัณฑ์ประเภท กระเบื้องติดผนัง  สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ที่รองแก้วกับนาฬิกา อาจเป็นเพราะสามารถนำไปเป็นของฝาก ของที่ระลึกได้ ส่วนจานรองแก้วมีชิ้นเล็กก็จริง แต่ด้วยคุณสมบัติของถ่านที่ใช้ สามารถดูดซับน้ำเอาไว้ได้เป็นอย่างดี จึงกลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้ขายดี

ลูกค้าส่วนใหญ่ของชาร์ โคมักเป็นชาวต่างชาติ ส่วนที่เหลืออีก 20 % เป็นคนไทยที่มักจะซื้อเป็นของที่ระลึก กับของชำร่วย นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังรับสั่งทำตามออเดอร์ได้ สามารถเปลี่ยนสีได้ เช่น ดำ ม่วง แต่จะเป็นสีที่ไม่ฉูดฉาด ยังคงความเรียบง่าย

ด้วยดีไซน์เรียบง่ายและลวดลายเฉพาะแบบถ่าน อาจทำให้หลายคนคิดถึงการนำไปตกแต่งบ้านว่าจะนำไปตั้งหรือวางตรงไหนให้เหมาะสม ซึ่งเจ้าของแบรนด์แนะนำว่า

“การนำถ่านไปตกแต่งบ้านข้อดีคือ ถ้าเป็นวัสดุธรรมดาจะเน้นเป็นลวดลาย ความสวยงาม เทคนิค แต่ถ้าเป็นถ่านจะได้คุณสมบัติของถ่านมาเสริม รวมถึงลายที่จะได้ไปทุกๆ ลาย มีความเป็นเอกลักษณ์ เพราะสุดท้ายมันคือผลงานมาสเตอร์พีซอยู่แล้ว ส่วนโทนหลักๆ ของสีจะเป็นขาวดำ จริงๆ สามารถแทรกสีอื่นๆ เข้าไปได้ตามความต้องการ เราจะเน้นขาวดำเพื่อโชว์ลวดลายตัวถ่านให้ชัดเจนขึ้น ถ้าซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้แล้ว ต้องมีการศึกษาคุณสมบัติเพิ่มเติม ซึ่งมีมากกว่าการดูดกลิ่นหรือดูดซับความชื้น หากนำไปใส่ดอกไม้สดก็จะมีการดูดก๊าซเอทิลีนที่จะช่วยให้ดอกไม้สดนานมากกว่า หรือนอกจากการดูดกลิ่นแล้วถ่านยังมีคุณสมบัติในการปล่อยกลิ่น เมื่อใส่น้ำหอมลงไป จะช่วยกระจายกลิ่นได้มากยิ่งขึ้น” 

ส่วนใครที่คิดอยากสร้างแบรนด์เป็นของตนเองจะต้องเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบก่อน เพราะอย่างแบรนด์นี้ก็เกิดจากการหลงใหลในเรื่องวัสดุ จากนั้นพยายามคิดหากระบวนการว่าทำอย่างไรให้วัสดุนี้มีลักษณะโดดเด่นมากขึ้น ก่อนจะพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เลือกลูกค้าแทนการให้ลูกค้าเลือกผลิตภัณฑ์ ถ้าเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าเลือก มันจะออกมาในอีกลักษณะหนึ่ง กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกับสิ่งที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป (Mass Product) แต่ถ้าสร้างให้สินค้าเลือกลูกค้าจะทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะกลุ่ม จะไม่โฟกัสว่าทุกคนจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์ แต่โฟกัสเรื่องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีมูลค่า  

นอกจากนี้เรื่องการเล่าเรื่องเป็นส่วนสำคัญสำหรับแบรนด์ รวมไปถึงต้องมีความอดทน มีวินัย เพราะการทำงานในลักษณะนี้ไม่เหมือนงานในออฟฟิศต้องมีความกระตือรือร้นตลอดเวลา ไม่มีวันพัก ต้องคิดงานเสมอ อีกทั้งเรื่องช่องทางการขาย การติดต่อกับเพื่อนแบรนด์อื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความรู้เพื่อพัฒนาแบรนด์

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook