“นาย ณภัทร” เล่าถึงมุมโปรดในบ้าน ไลฟ์สไตล์สบาย สบาย แบบไม่จำกัดโซน

Friend Zone ระวัง…สิ้นสุดทางเพื่อน ภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายไปแล้วเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากเนื้อหาจะเป็นหนังฟีลกู้ดตามสไตล์ GDH แล้วยังได้พระเอกฮอตอย่างนาย ณภัทร เสียงสมบุญ และใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์มาร่วมถ่ายทอดความสนุก และความโรแมนติกของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้คุยกับพระเอกคิวแน่นคนนี้ Sanook! Home จึงถือโอกาสชวนน้องนายคุยเรื่องมุมโปรดในบ้าน และนิยามความเป็นบ้านของนาย ณภัทร

>> รีวิว Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน หนังรักฟีลนี้แหละ ที่นั่งคอยมานาน

>>"นาย ณภัทร" เห็นบทหนัง "Friend Zone" ครั้งแรก ลั่นบทนี้ต้องเป็นของผม

IG : pimpakaIG : pimpaka

IG : naphat_nineIG : naphat_nine

โดยปกตินายไม่ค่อยมีโอกาสได้อยู่บ้าน โดยเฉพาะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อถามถึงมุมโปรดของบ้าน มุมแรกในบ้านที่นายคิดถึงที่พูดออกมาคือเตียงนอน เพราะช่วงนี้พอกลับไปถึงบ้านก็นอนอย่างเดียว ส่วนอีกมุมหนึ่งที่นาย ณภัทรโปรดปรานไม่แพ้กันคือห้องน้ำ ที่ทุกๆ เช้าเมื่อเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ก็จะเปิดเพลงไปพร้อมกัน คิดแล้วก็ช่างเป็นช่วงเวลาที่พระเอกหน้าหล่อคนนี้ได้ผ่อนคลายที่สุดช่วงหนึ่ง

IG : pimpakaIG : pimpaka

แต่หากพอมีเวลา และเป็นวันสบายๆ ที่บ้าน หนุ่มนายที่ปกติชื่นชอบเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วก็มักจะถือกีตาร์ไปนั่งเล่น เล่นดนตรีไปพร้อมฟังเสียงน้ำตกที่อยู่บริเวณสวน ส่วนอีกหนึ่งมุมคือหน้าคอมพิวเตอร์ที่จะใช้ไปเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก ทั้งฟังเพลง ดูหนัง ส่วนอีกกิจกรรมโปรดในบ้านเลยคือการอยู่ในห้องนอนและเข้าไปอยู่ในมุมๆ หนึ่งของห้องที่มีกีตาร์หลายๆ ตัววางไว้ จากนั้นก็ใช้เวลาซ้อมกีตาร์อย่างมีความสุข

IG : naphat_nineIG : naphat_nine

ส่วนใครที่สงสัยว่าห้องนอนของนาย ณภัทรนั้นตกแต่งสไตล์นั้น เจ้าตัวเล่าว่าไม่มีสไตล์เพราะคุณแม่หมูเป็นคนตกแต่งให้ทุกอย่าง แต่จะเน้นโทนสีขาว มีไฟสีเหลืองที่เปิดแล้วทำให้ห้องมีความอบอุ่นขึ้น อีกไม่นานนี้เราคงได้เห็นบ้านหลังใหม่ของนาย ณภัทรเพราะตอนนี้เจ้าตัวเก็บเงินจนซื้อที่ดินเพื่อเตรียมสร้างบ้านไว้ได้เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้อยู่ในส่วนของการคุยกับสถาปนิกตามแบบบ้านที่ตัวเองมี

IG : naphat_nineIG : naphat_nine

บ้านที่นาย ณภัทรอาศัยอยู่ตอนนี้คือบ้านหลังที่อยู่กับคุณแม่หมู พิมพ์ผกา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า “บ้านในความหมายของผม มันไม่ได้เกี่ยวกับขนาดหรือแบบของบ้าน แต่มันคือคนที่อยู่ในบ้านหลังนั้น ตราบใดที่อยู่แล้วมีความสุข รู้สึกปลอดภัยมันก็คือบ้าน แต่ถ้ารู้สึกเศร้า หม่นหมองมันก็ไม่น่าจะเรียกว่าบ้าน”